svasdssvasds

รู้จัก 5 บริษัทเทคยักษ์ของจีน ที่ "รัฐบาล" อยากดึงมาลงทุนไทย ให้มากกว่าเดิม

รู้จัก 5 บริษัทเทคยักษ์ของจีน ที่ "รัฐบาล" อยากดึงมาลงทุนไทย ให้มากกว่าเดิม

รัฐบาลได้เดินทางไปจีนเพื่อร่วมหารือกับทางการจีน และพบกับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี อีวีและการเงิน หวังชักชวนให้มาลงทุนในไทยเพิ่มคาดจะมีเงินสะพัดอีกมหาศาล จาก Huawei, Alibaba, Tencent, Xiaomi, GDS data ที่หวังทักษะ เงินและบุคลากรไทย จะได้รับโอกาสที่ดี

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้นำคณะนักธุรกิจไทย 50 ราย เดินทางเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 16-19 ต.ค. ตามคำเชิญนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เพื่อร่วมประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Coperration - BRF) รวมทั้งได้ร่วมหารือกับบริษัทยักษ์เทคของจีน เพื่อชักชวนให้เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น

วันนี้ SPRiNGTech จะพามาทำความรู้จักกับ 5 บริษัทยักษ์ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Huawei, Alibaba, Tencent, Xiaomi และ GDS data 

นายก เศรษฐา เจรจา ธุรกิจจีน

โดยบริษัทเหล่านี้ เป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับสื่อออนไลน์ โทรคมนาคม ระบบดาต้าเซ็นเตอร์ ที่ติดอันดับต้นๆ ของจีน ทั้งนี้ ช่วง 8 เดือนแรกของปี 2566 มีคำขอรับส่งเสริมการลงทุนสำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) 90,346 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 25% ของมูลค่า FDI ทั้งหมด 

หากรัฐบาลสามารถดึงบริษัทยักษ์เหล่านี้เพิ่มการลงทุนในไทยได้ จะช่วยฟื้นสภาพเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล

Alibaba Group 

อาลีบาบา ประกอบธุรกิจหลายประเภทรวมกันทั้งอีคอมเมิร์ซ ค้าปลีก อินเทอร์เน็ต เอไอและเทคโนโลยีข้ามชาติของจีน ก่อตั้งในปี 2542 ให้บริการขายแบบลูกค้าต่อลูกค้า (C2C) ธุรกิจต่อลูกค้า (B2C) และธุรกิจต่อธุรกิจผ่านเว็บพอร์ทัล (B2B) ตลอดจนบริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ เสิร์จเอนจินซื้อสินค้า และบริการคอมพิวเตอร์แบบคลาวด์ มูลค่าธุรกิจของอาลีบาบาอยู่ที่ 5.27 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท

Taobao / Alibaba

กลุ่มบริษัทในเครือของ อาลีบาบา

  • Taobao.com : เว็บไซต์ขายปลีกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน
  • Tmall.com : เว็บไซต์ซื้อขายสินค้าที่รวมแบรนด์ดังระดับโลก
  • Etao.com : Search Engine สำหรับการค้นหาสินค้าและช่วยตัดสินใจซื้อในราคาที่เหมาะสม
  • Aliyun.com : ภาพเว็บไซต์อาลีบาบาคลาวด์เป็นสื่อกลางในการติดต่อสื่อสาร แชร์ข้อมูล จัดระเบียบข้อมูล
  • Alipay.com : เป็นช่องทางการชำระเงินทางอินเทอร์เน็ตใช้ได้เกือบทุกธนาคาร

อาลีบาบา มองว่า ไทยมีศักยภาพเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ซึ่งไทยเป็นตลาดใหญ่และมีลูกค้าตลาดใหญ่ และยินดีสนับสนุนการฝึกอบรม (e-training) ให้ไทย โดยการสนับสนุนให้ตั้ง E-commerce training สำหรับบุคลากรและแรงงานไทย ทั้งยังเสนอตั้ง Smart digital hub ในไทย

ทั้งยังอยู่ในช่วงพัฒนา Travel platform ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งเกี่ยวข้องกับมาตรการความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยใช้ระบบออนไลน์และเสนอการใช้ใบขับขี่จีนในไทย รวมถึงช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทยด้วย

Xiaomi

เสียวหมี่ ก่อตั้งขึ้นปี 2553 มีสำนักงานใหญ่ในปักกิ่ง ประเทศจีน ผลิตและลงทุนเกี่ยวกับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ตโฟน โมบายล์แอป แล็ปท็อป เอียร์โฟน ฯลฯ ตลอดจนสินค้าอื่น ๆ เช่น กระเป๋า รองเท้า ฯลฯ

จากนั้นได้กลายเป็นบริษัทผู้ผลิตสมาร์ตโฟนอันดับ 4 ของโลก มีตลาดใหญ่ที่สุดอยู่ในประเทศจีน และตลาดใหญ่เป็นอันดับ 2 อยู่ในประเทศอินเดีย

Xiaomi

ทั้งนี้  Xiaomi มีแผนจะขยายการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในไทยสำหรับผลิตภัณฑ์ของบริษัทและส่งออกสู่ตลาดโลก รวมทั้งมีการช่วยเพิ่มทักษะทางการผลิตของแรงงานไทยควบคู่การฝึกอบรมเพื่อลดปัญหาขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือ และได้ตั้ง บริษัท Xiaomi Technology (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อจำหน่ายและทำการตลาดโทรศัพท์มือถือในไทย รวมทั้งขยายตลาดในอาเซียนต่อเนื่อง

รวมทั้งโครงการแลนด์บริดจ์จะเป็นโอกาสของ Xiaomi ในการร่วมกันพัฒนาในกรอบ BRI ซึ่ง Xiaomi กำลังมองหาโรงงานผลิตเพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจเช่นกัน

Huawei 

หัวเว่ย ผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายและอุปกรณ์โทรคมนาคมสัญชาติจีน ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1987 บริษัทมีธุรกิจหลักแบ่งออกเป็นสามกลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่ กลุ่มเครือข่ายโทรคมนาคม กลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับภาคธุรกิจและองค์กร และกลุ่มอุปกรณ์สื่อสารสำหรับผู้บริโภค  มีพนักงานรวมทั้งหมดกว่า 110,000 คนทั่วโลก

นอกจากนี้ หัวเว่ยยังมีศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอีกกว่า 20 แห่งทั่วโลกในปี 2010 ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน 500 บริษัทใหญ่ของนิตยสารฟอร์จูน ด้วยยอดขาย 21.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7.92 แสนล้านบาท และกำไรสุทธิ 2.67 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9.7 หมื่นล้านบาท

ปัจจุบันบริษัทยังเป็นบริษัทจำกัด ที่ไม่เสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป แต่กระจายหุ้นให้เฉพาะกับพนักงานบริษัทเท่านั้น

Tencent

เทนเซนต์ ก่อตั้งบริษัทขึ้นเมื่อปี 2541ด้วยเงินทุนเพียง 500,000 หยวน ในช่วงแรกเป็นบริษัทผู้ให้บริการด้าน System Integration หรือบริการวางระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายสำหรับองค์กร จากนั้นได้เปิดตัวโปรแกรมคิวคิว ที่ได้รับความนิยมและมีสมาชิกสูงถึง 448 ล้านคน  จนได้ขยายไปยังบริการอื่น ๆ เช่น เกมออนไลน์ อีเมล เว็บค้นหาข้อมูล soso.com เป็นเว็บยอดนิยมอันดับ 3 ของโลก รองจาก Baidu และ Google 

จากนั้น ได้เปิดโปรแกรมแชท Wechat ในไทย ร่วมกับเว็บไซต์ Sanook.com และมีผู้ใช้งานทั่วโลกกว่า 200 ล้านคน

GDS Data 

จีดีเอส ดาต้า เป็นผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ตั้งอยู่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ คลาวด์และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของจีน เป็นผู้ให้บริการศูนย์เก็บข้อมูลที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 7% ของภาพรวมธุรกิจด้านเทคโนโลยีของจีน และเตรียมขยายธุรกิจไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2564

 

ที่มา : Alibaba, GDS Holding, Tencent, Huawei, Xiaomi

Pic : Unsplash, X

อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม

related