svasdssvasds

Huawei ยังอุบเงียบเรื่องการลงทุนชิป และไม่มีแผนมาลงทุนในไทย

Huawei ยังอุบเงียบเรื่องการลงทุนชิป และไม่มีแผนมาลงทุนในไทย

ปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ชิปขาดแคลน เนื่องจากความต้องการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ความสามารถในการผลิตไม่พอแม้สหรัฐจะแบนจีนไปแล้ว แต่ก็มีกระแสข่าวว่า Huawei กำลังปลุกปั้นธุรกิจนี้

แม้ในต่างประเทศจะยังไม่มีการออกแถลงการณ์ที่ชัดเจน แต่สำหรับ Huawei ประเทศไทยนั้น เจย์ เฉิน ประธานคณะกรรมการหัวเว่ย ประเทศไทย ก็ได้ให้ข้อมูลกับทางผู้สื่อข่าว SPRiNG ว่า การลงทุนชิปเซ็ทในบริษัทแม่นั้น เป็นหนึ่งในแนวทางที่ หัวเว่ย เห็นถึงปัญหาขาดแคลนและให้ความสำคัญ

เพราะหัวเว่ย ถือว่าเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่มีการลงทุนและสร้างสรรค์ในหลายๆ นวัตกรรม ไม่ว่าจะเป็น AI, EVcar, Device ต่างๆ ซึ่งสินค้าของเรามีความต้องการในชิปเหล่านี้ เพื่อให้เพียงพอต่อการติดตั้งลงในอุปกรณ์ต่างๆ

สิ่งที่เราบอกได้คือ เราก็ดูอยู่ในเรื่องของความเป็นไปได้ โอกาสในการลงทุน และซัพพลายเชนต่างๆ เพราะเราคงทำเองไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็ยังเป็นเรื่องของอนาคตที่รายละเอียดหลายอย่างยังซับซ้อนและบอกไม่ได้

นอกจากนี้ ทาง Huawei ก็มีแผนการสร้าง AI ให้สำเร็จและใช้งานได้จริงภายใน 3 ปี ทำให้ต้องวางแผนอย่างรอบคอบและรอบด้านในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ

Credit Pic : https://consumer.huawei.com/sg/press/news/2018/huawei-announces-record-breaking-turnout-for-mate-series-flagshi/

ทั้งนี้ Huawei ยังเดินหน้าพัฒนาบุคลากรดิจิทัล ต่อเนื่องเพื่อให้มีคนไอทีเพิ่มขึ้น รองรับการขาดแคลนคนทำงาน โดยเร่งพัฒนาคนไอทีสองกลุ่ม คือ

  • สร้างนักพัฒนาด้านไอซีที 10,000 รายในปี พ.ศ. 2566
  • สร้างนักพัฒนาด้านคลาวด์ 20,000 ราย ให้ได้ภายใน 3 ปี (พ.ศ. 2566-2568)

ทางด้านของแนวทางที่จะเดินหน้าให้ความรู้แก่คนไอทีในไทย ประกอบด้วย

  1. การส่งเสริมการสร้างบุคลากรไอซีทีและนักพัฒนาด้านคลาวด์ของประเทศไทย
  2. การออกแบบโครงการพัฒนาและฝึกอบรมบุคลากร รวมถึงการบริหารจัดการโครงการให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ
  3. จัดโครงการสำหรับผู้บริหารในแต่ละภาคอุตสาหกรรม รวมไปถึงโครงการฝึกอบรมสำหรับหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ภาครัฐ
  4. สร้างสรรโครงการฝึกทักษะและพัฒนาทักษะด้านอาชีพสำหรับหลากหลายกลุ่มเป้าหมาย

เจย์ เฉิน ประธานคณะกรรมการหัวเว่ย ประเทศไทย

นอกจากนี้ กระแส AI กำลังมาแรง Huawei จึงยังเดินหน้าให้ความร่วมมือกับสตาร์ทอัพด้าน AI หรือธุรกิจสตาร์ทอัพในประเทศไทย ในแง่ของการใช้เทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง

เนื่องจากประเทศไทย และมาเลเซีย ถือเป็นประเทศที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของธุรกิจสตาร์ทอัพ เพราะมีเทคโนโลยี 5G มีดาต้าเซ็นเตอร์ และยังการสานต่อธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากหลายสตาร์ทอัพในไทยที่สามารถก้าวขึ้นไปเป็นยูนิคอร์นได้ เราจึงมองว่า AI จะเป็นเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาในไทยเช่นกัน

ทั้งนี้ จะเห็นว่า Huawei มีความร่วมมือที่ดีในหลายโครงการร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ ซึ่งได้ช่วยพัฒนาและริเริ่มโครงการด้านไอซีที รวมไปถึงธุรกิจด้านคลาวด์ และการสนับสนุนธุรกิจประเภทสตาร์ทอัพ มาอย่างต่อเนื่อง

 

อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม

related