svasdssvasds

AI เข้ามาช่วยเปลี่ยนโลกของ KBTG มา 5 ปีแล้ว 'กระทิง' เดินหน้าดันโปรดักส์ AI ต่อ

AI เข้ามาช่วยเปลี่ยนโลกของ KBTG มา 5 ปีแล้ว 'กระทิง' เดินหน้าดันโปรดักส์ AI ต่อ

ซีอีโอ KBTG แถลงผลงาน 5 ปี ชูผลงานเปลี่ยนธนาคารใหญ่ให้เป็นธนาคารดิจิทัลแบบแท้จริง ลดต้นทุนการทำงานไปกว่า 4,000 ล้าน มีพนักงานกว่า 1,000 คน แต่ให้ทำงานแบบ WFH เชื่อเป็นองค์กรที่เจ๋งสุดในยุคนี้

SHORT CUT

  • ครบรอบ 5 ปี KBTG ย้ำมองเห็นเทรนด์เทคโนโลยีต่างๆ มาก่อนและเป็นผู้นำด้าน AI ในสายงานธนาคารแล้ว
  • ปัจจุบันเทรนด์ AI กำลังจะเข้าไปอยู่ในทุกอุตสาหกรรมยิ่งธุรกิจการเงิน การแข่งขันจะรุนแรงมาก
  • ในอนาคต AI ภาคธุรกิจจะเติบโตมาก ใครที่อยากเป็นสตาร์ตอัปและโตไวๆ ต้องหันมาทำด้านนี้ นักลงทุนยอมจ่ายหนักเพื่อให้เกิดโปรดักส์

ซีอีโอ KBTG แถลงผลงาน 5 ปี ชูผลงานเปลี่ยนธนาคารใหญ่ให้เป็นธนาคารดิจิทัลแบบแท้จริง ลดต้นทุนการทำงานไปกว่า 4,000 ล้าน มีพนักงานกว่า 1,000 คน แต่ให้ทำงานแบบ WFH เชื่อเป็นองค์กรที่เจ๋งสุดในยุคนี้

เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เปิดเผยว่า ตั้งแต่เข้ามาทรานฟอร์เมชันเคแบงก์เมื่อปี 2019 ก็เริ่มเดินหน้าปรับเปลี่ยนธนาคารให้เป็นดิจิทัลแบงก์ และปรับการทำงานแบบยุคใหม่ทั้งหมด

KBTG กับการปรับระบบการทำงานตั้งแต่ฐานราก

เรืองโรจน์ ระบุว่า ระบบไอทีของธนาคารกสิกรไทยมีเปอร์เซ็นต์ความพร้อมในการให้บริการของระบบ (Service Availability) มากถึง 99.99% รองรับธุรกรรมทางการเงินถึง 23.9 ล้านล้านบาท คิดเป็น 35% และมียอดผู้ใช้งาน K PLUS กว่า 21.7 ล้านราย

นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำศูนย์จัดเก็บข้อมูล (Data Center) ที่ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า ระบบ Hybrid Cloud ผสมผสานการทำงานระหว่าง Private Cloud และ Public Cloud ลดอัตราการเกิด Incident ระดับรุนแรงได้มากถึง 60% เวลาที่ใช้ในการแก้ไขลงลง 33% และ Downtime ของระบบลดลง 66%

ปรับวิถีการทำงานให้เป็น Agile และ Automation (Agile Transformation & Automation) เป็นการปรับวิถีการทำงานแบบ End-to-end ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานและคุณภาพงานเพิ่มขึ้น 2.25 เท่าและในปี 2566 สามารถส่งมอบโปรเจคไอทีให้กับธนาคารได้ถึง 190 โปรเจค 

เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG)

รวมทั้งการขยายองค์กรสู่ระดับภูมิภาค (Regional Expansion)  ครอบคลุม 5 เมืองใหญ่ ใน 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย  เวียดนาม จีน และอินโดนีเซีย

ทำไมต้องใช้ AI ในธุรกิจธนาคาร

เรื่องของ AI กำลังเป็นที่นิยมในประเทศไทยและเป็นที่สนใจของภาคธุรกิจในการลงทุนด้านเทคโนโลยีนี้อย่างจริงจัง

แต่ทาง KBTG มองเรื่องของการนำ AI มาใช้งานตลอด 5 ปี ทำให้การวางแผนระบบต่างๆ การคัดเลือกคนที่มีความชำนาญและแนวทางการลงทุนในกลุ่มสตาร์ทอัป ก็จะมองเรื่องของการนำ AI มาใช้ให้เกิดขึ้นจริงโดยตลอด เห็นได้จากบริการและแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นมาจะมีความฉลาดของ AI อยู่ด้วย ซึ่งผลงานที่ทีม KBTG พัฒนาออกมา ไม่ว่าจะเป็น

  • MAKE by KBank
  • ขุนทอง
  • Kubix
  • Coral
  • เหมียวจด

จะมีการใช้ AI เข้าไปในด้านต่างๆ นอกจากนี้ ไม่ใช่แค่การปรับสถาปัตยกรรมระบบไอทีหลังบ้าน แต่เรานำแนวคิดของคนในองค์กรมาใช้ร่วมกับนวัตกรรมเพื่อให้เกิดบริการได้จริง อย่าง 'เหมียวจด' นี้ เป็นแอปพลิเคชันบันทึกรายจ่ายแบบอัตโนมัติ จะมีการดึงรายการใช้จ่ายจากสลิปโอนเงินที่เซฟอยู่ในไฟล์รูปภาพ มาเรียงลำดับการใช้จ่ายในแต่ละวัน ซึ่งสามารถดึงรายการได้จากทุกธนาคาร

AI เข้ามาช่วยเปลี่ยนโลกของ KBTG มา 5 ปีแล้ว 'กระทิง' เดินหน้าดันโปรดักส์ AI ต่อ

นอกจากนี้ KBTG Labs ยังได้ใช้กลยุทธ์ที่ชื่อ M.A.D. (Machine Learning, AI, Data) และอยู่ในช่วงของการพัฒนาบริการใหม่ ที่มีการนำ AI มาใช้ด้านการให้บริการถามตอบในแอปพลิเคชันล่าสุด

ซึ่งจะเป็นรูปแบบของการให้คำปรึกษาด้านการเงิน โดยระบบ AI จะคิดคำตอบเกี่ยวกับข้อสงสัยด้านการเงินไว้ล่วงหน้า จากนั้นไม่ว่าคุณจะพิมพ์คำถามอะไรออกมา ระบบจะดึงข้อมูลออกมาให้อย่างรวดเร็ว หรือถ้าลูกค้าไม่รู้จะถามอะไร ระบบ AI ก็จะมีตัวอย่างคำถามนำเพื่อให้ใกล้เคียงกับข้อสงสัยของลูกค้ามากที่สุด เพื่อช่วยแก้ไขความกังวลด้านการเงินของลูกค้าให้มากที่สุด

อนาคตของ AI ในอีก 5 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ ยังมีการเสวนาของบุคคลผู้มากความสามารถด้าน AI ของ KBTG ได้พูดถึงเทรนด์ AI ในอนาคตว่า ประกอบด้วย ดร.ทัดพงศ์ พงศ์ถาวรกมล 
Managing Director, KBTG ดร.มนต์ชัย  เลิศสุทธิวงค์ Principal Research Engineer,  KBTG Labs  ดร. เจริญชัย บวรธรรมรัตน์ Senior Venture Director, KX คุณกัมปนาถ วิมลโนช Managing Director, KXVC

GenAI เป็นเทคโนโลยีการอ่านข้อมูลจากภาพ ซึ่งเป็นโมเดลขนาดใหญ่ (LLM) ที่กำลังโตอย่างรวดเร็วในทั่วโลก ซึ่งในไทยเริ่มมีการนำมาใช้และใส่ความเป็นไทยเข้าไปแล้ว รวมทั้งมีการนำเทคโนโลยี AI เข้าไปในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การศึกษา ไฟแนนเชียล เฮลท์แคร์ เป็นต้น ซึ่งเชื่อว่าอีกไม่นาน AI จะเข้าไปอยู่ในทุกอุตสาหกรรม แม้จะเป็นช่วงเริ่มต้นและหลายคนคาดการณ์ว่าจะใช้เวลาอีก 5 ปี

ทีมนักพัฒนาเทคโนโลยีของ KBTG

แต่ในฐานะที่พัฒนา AI มาล่วงหน้า เชื่อว่าใช้เวลาไม่เกิน 3 ปีเทคโนโลยีนี้ทุกคนจะได้ใช้งานจริงและไม่มีทางปฏิเสธได้

นอกจากนี้ ใครที่กำลังอยากเป็นสตาร์ตอัป แต่ไม่รู้จะโฟกัสไปในด้านใด KXVC นักลงทุนสตาร์ตอัปในเครือ KBTG แนะนำให้ไปพัฒนาด้าน AI เพราะไทยยังมีความต้องการ AI เชิงธุรกิจอีกมากเพื่อเข้ามาช่วยในเรื่องการลดต้นทุนแบบที่ KBTG ทำ รวมทั้งในอนาคตการใช้ AI จะมีต้นทุนการใช้โมเดลถูกลง แม่นยำขึ้น และปรับใช้งานมากขึ้นด้วย ซึ่งนักลงทุนก็พร้อมลงเงินกับเทรนด์เทคโนโลยีนี้ เห็นได้จากสตาร์ตอัปด้าน AI ในต่างประเทศหลายราย ที่ได้เงินลงทุนไม่น้อยกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐในการพัฒนาโมเดลภาษาและนวัตกรรมด้านธุรกิจต่างๆ

 

ภาพ : Spring Photo

อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม

related