SHORT CUT
จุดเด่นของธุรกิจร้านสะดวกซัก คือ ลงทุนครั้งเดียว ใช้งานยาวนาน เครื่องซัก–อบมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 8–10 ปี ใช้ระบบอัตโนมัติ ไม่ต้องมีพนักงานประจำร้านตลอดเวลา ลูกค้าใช้บริการเองตอบโจทย์วิถีชีวิตเร่งรีบ คนเมืองและนักศึกษาไม่มีเวลาซักผ้าเองหรือต้องการความสะดวก ต้นทุนแรงงานต่ำ ใช้แค่ระบบดูแลรักษาและเก็บเงิน
ส่อง 'ธุรกิจร้านสะดวกซัก' ธุรกิจเสือนอนกิน ลงทุนครั้งเดียวคุ้ม 8–10 ปี โตตาม บ้านเรือน คอนโด หอพัก แถมดันน้ำยาปรับผ้านุ่มโตด้วย
ใครที่อยากลาออกจากงานประจำ แล้วหาธุรกิจอะไรทำเล็กๆเป็นของตัวเอง ส่วนใหญ่ก็จะคิดถึงธุรกิจร้านกาแฟ ร้านอาหารเล็กๆ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าทั้งร้านอาหาร และร้านกาแฟ ในปัจจุบันทุกจังหวัดมีมากมาย ถ้าไม่เด็ด ไม่ดี ไม่มีคุณภาพ ไม่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นจริงอยู่ยากมาก เพราะลูกค้าสามารถเลือกร้านที่ถูกใจได้มากขึ้น แถมการขันแข่งก็สูงมาก แต่…มีอีกหนึ่งธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และตอนนี้การแข่งขันก็เริ่มรุนแรงมากขึ้นทุกวัน นั่นก็คือ ธุรกิจร้านสะดวกซัก ที่มีทั้งบริการซักผ้าหยอดเหรียญ อบ แห้ง บริการแบบครบวงจร
ทั้งนี้จากการสำรวจอินไซต์ธุรกิจตู้ซักผ้า–อบผ้า หยอดเหรียญ (Self-service Laundry หรือ Laundromat) พบว่า ขณะนี้กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะในเขตเมือง มหาวิทยาลัย และย่านชุมชนที่มีคนพักอาศัยหนาแน่น เช่น คอนโด อพาร์ทเมนต์ หอพัก หรือใกล้โรงงาน เป็นต้น โดยข้อมูลจาก ThaiFranchiseCenter ระบุว่า จุดเด่นของ ธุรกิจร้านสะดวกซัก คือ
ใครที่อยากลงทุน ต้องลงทุนเท่าไหร่? คำตอบ คือ
แล้ว…รายได้และกำไรมั้ย?
พามาส่องดูปัจจัยความสำเร็จของการทำธุรกิจนี้ เช่น ทำเล ใกล้หอพัก, มหาวิทยาลัย, โรงงาน, ย่านคนอยู่หนาแน่น สะดวก–ปลอดภัย เปิด 24 ชั่วโมง มีกล้องวงจรปิด ที่จอดรถง่าย อาจเสริมบริการอื่นๆ เช่น ตู้กดน้ำดื่ม, ตู้จำหน่ายน้ำยาซักผ้า-ปรับผ้านุ่ม, Wi-Fi ฟรี, ที่นั่งรอ ประการสุดท้ายคือ บำรุงรักษาเครื่องเครื่องพร้อมใช้งาน ไม่เสียบ่อย สำหรับบรนด์แฟรนไชส์ เช่น Otteri Wash & Dry, Speed Queen, WashCoin, Wonder Wash เป็นต้น
พามาดูความเคลื่อนไหวธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ ธุรกิจร้านสะดวกซัก อย่าง บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) หรือ NEO ผู้บุกเบิกนวัตกรรมสินค้าอุปโภค FMCG ล่าสุดได้เปิดตัวแคมเปญใหญ่แห่งปี “Fineline Shine The Happiness” ดึงบอยแบนด์ “BUS” เป็นพรีเซนเตอร์ “ไฟน์ไลน์ แฮปปี้เนส ซีรี่ส์” (Fineline Happiness Series) ผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรถนอมผ้าและปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้น ชูจุดแข็ง ซักสะอาดพร้อมถนอม นุ่มหอมสดชื่นติดทน 35 วัน ด้วยเทคโนโลยี Fresh Capsule Technology และ FX Tech ลดกลิ่นอับ เข้าถึง Young Gen และ Young at Heart ผู้มีหัวใจสดใสอยู่เสมอ และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งในด้านคุณภาพและอารมณ์ความรู้สึก มอบความสุขที่สัมผัสได้ในทุกวัน พร้อมตั้งเป้าเติบโตสำหรับผลิตภัณฑ์ซักผ้าและปรับผ้านุ่มในซีรีส์นี้ 35.7% และ 30% ตามลำดับ ภายในปี 2568
นางสาวณิชมน ถกลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายนวัตกรรมธุรกิจ บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกลยุทธ์พรีเซนเตอร์มาร์เก็ตติ้งครั้งนี้ว่า “ในฐานะ Segment Creator เราให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกเจเนอเรชัน การเลือก BUS (Because of You I Shine) เป็นพรีเซนเตอร์สำหรับ “ไฟน์ไลน์ แฮปปี้เนส ซีรี่ส์” สะท้อนถึงแนวทางในการสื่อสารกับผู้บริโภครุ่นใหม่ด้วยภาพลักษณ์ที่สดใส จริงใจ และมีพลังบวก ซึ่งสอดคล้องกับคุณค่าที่ NEO ยึดถือในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ ซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์ด้านฟังก์ชันการซักผ้า แต่ยังสร้าง ‘ความสุขที่สัมผัสได้’
เราเชื่อว่าความรู้สึกของการซักผ้าและได้สัมผัสกับความสะอาด กลิ่นหอมบนเสื้อผ้า คือความสุขเล็กๆ ที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ เช่นเดียวกับที่เหล่าแฟนคลับรู้สึกทุกครั้งที่ได้เห็นรอยยิ้มหรือเสียงหัวเราะของศิลปินที่ตัวเองรัก เราจึงมั่นใจว่า การได้ร่วมงานกับ BUS นอกจากจะช่วยเติมเต็มภาพลักษณ์ของแบรนด์ไฟน์ไลน์ให้ดูสดใหม่ ทันสมัย ยังเป็นการเปิดประตูให้แบรนด์เข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคยุคใหม่ ซึ่งในที่สุดจะสะท้อนกลับมายัง NEO Corporate ในฐานะบริษัทไทยที่พร้อมสนับสนุน T-POP ให้เติบโตเป็นพลังสร้างสรรค์ และสร้างความภูมิใจร่วมกันของคนไทย
จากการสำรวจของนีลเส็น ประเทศไทย ตลาดผลิตภัณฑ์ซักผ้าและปรับผ้านุ่มในประเทศไทยมีศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดย 6 เดือนแรกของปี 2568 ตลาดผลิตภัณฑ์ซักผ้าแบบน้ำมีมูลค่า 5,000 ล้านบาท เติบโต 8% และ NEO ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 2 ที่ 27% ขณะที่ตลาดปรับผ้านุ่มมีมูลค่ารวม 7,700 ล้านบาท เติบโต 4% โดยเฉพาะกลุ่มปรับผ้านุ่มเข้มข้นที่มีมูลค่าสูงถึง 6,200 ล้านบาท และเติบโตถึง 6% ซึ่ง NEO มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 4 และมีอัตราการเติบโตระดับเลขสองหลัก (Double Digits) โดยคาดการณ์ว่าตลาดปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้นจะเติบโตแบบก้าวกระโดด จากการขยายฐานผู้บริโภคกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เริ่มดูแลและซักเสื้อผ้าด้วยตัวเอง
จากการวิเคราะห์อินไซต์ผู้บริโภค พบว่ากลุ่มผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวันยุคใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและคนเมือง ให้ความสำคัญกับ ‘กลิ่นหอม’ และ ‘ภาพลักษณ์ของแบรนด์’ มากขึ้น เราจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนากลิ่นหอมร่วมกับบริษัทน้ำหอมระดับโลก ซึ่งส่งผลให้ไฟน์ไลน์สามารถดึงดูดและครองใจผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่องด้วยจุดเด่นของกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ และการสร้างสรรค์แคมเปญสำหรับ “Fineline Shine The Happiness” ครั้งนี้ ก็เพื่อสื่อถึงความโดดเด่นและแตกต่างของผลิตภัณฑ์ ทั้งในด้านประสิทธิภาพการทำความสะอาด และกลิ่นหอมที่ทันสมัย ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งคำตอบสำหรับผู้บริโภค ทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Young Generation) หรือผู้ที่มีหัวใจสดใสอยู่เสมอ (Young at Heart) ที่มองหาผลิตภัณฑ์ซึ่งผสานทั้งประสิทธิภาพและประสบการณ์การใช้งานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว นางสาวณิชมนกล่าวเสริม
สำหรับ ผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรถนอมผ้าไฟน์ไลน์ แฮปปี้เนส ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการการดูแลผ้าอย่างครบวงจร ซักสะอาดพร้อมถนอมเส้นใยผ้าด้วย Neutral pH ผสาน FX Tech ลดกลิ่นอับชื้นที่ต้นเหตุ และผลิตภัณฑ์ซักผ้า มีให้เลือก 3 สูตรตามความต้องการของผู้ใช้ มีจุดเด่นที่กลิ่น“น้ำหอมสไตล์เคาน์เตอร์แบรนด์” เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างจุดแตกต่างในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ได้แก่
•"พิงค์ ชายน์" (Pink Shine) เน้นการขจัดคราบสำหรับผู้บริโภคที่ใช้ผ้าในกิจกรรมประจำวันหลากหลาย เช่น คราบอาหาร คราบเครื่องสำอาง ไปจนถึงคราบใหม่ ๆ อย่าง “คราบหมาล่า”
•"คริสตัล ไบร์ท" (Crystal Bright) สำหรับการดูแลผ้าขาวและลดความหมองด้วยเทคโนโลยี Bright Up Mode
•"บลิงค์ ไวโอเล็ต" (Blink Violet) เน้นการปกป้องสีผ้าให้คงความสดใสด้วย Color Protection
ในขณะที่ ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มไฟน์ไลน์ แฮปปี้เนส มุ่งตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความหอมติดทนแบบมีสไตล์ และมอบประสบการณ์ถนอมผ้าที่ให้ความรู้สึกพลังบวก ด้วยนวัตกรรม Fresh Capsule Technology แคปซูลน้ำหอมที่ยึดเกาะเส้นใยผ้าเพื่อกระจายกลิ่นหอมยาวนานสูงสุด 35 วัน ช่วยบูสต์กลิ่นหอมทั่วใยผ้า หอมไม่ฉุน แนวน้ำหอมเคาน์เตอร์แบรนด์ กลยุทธ์หลักคือการสร้างความแตกต่างในตลาดด้วย “กลิ่นหอมระดับพรีเมียม” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากน้ำหอม Sweet like Candy Limited Edition ของ Ariana Grande เป็นต้น และกลิ่นจะค่อย ๆ แพร่กระจายทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหว ยิ่งขยับ ยิ่งหอม มีให้เลือก 3 สูตรเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าและความต้องการที่แตกต่าง
•"สวีทตี้ พิงค์" (Sweetie Pink) ชูจุดเด่นด้วยกลิ่นหอมหวานละมุน จากดอกพีโอนี เบอร์รี่รวม และวานิลลา เหมาะกับกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการกลิ่นหอมที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่น
•"ดรีมมิ่ง คิส" (Dreaming Kiss) กลิ่น Floral Fruity จากดอกไม้ ผลไม้ ลูกแพร์ และแอปริคอต เน้นสร้างความสดชื่น หอม ผ่อนคลาย สบายๆ เจาะกลุ่มผู้หญิงทำงานและนักศึกษา เหมาะทั้งผู้หญิง และผู้ชาย
•"พีช บลอสซั่ม" (Peach Blossom) กลิ่นหอมสดชื่นสดใสจากพืชญี่ปุ่น ราสเบอร์รี่ และวานิลลา สื่อถึงความร่าเริง น่ารัก และทันสมัย เหมาะกับผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ต้องการความแตกต่าง
สำหรับกลยุทธ์การตลาด เน้นสร้างแบรนด์ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมการดูแลผ้าในตลาด FMCG เพื่อสร้างประสบการณ์และความจดจำแบรนด์ โดยภายในสิ้นปี 2568 NEO ตั้งเป้ายอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ไฟน์ไลน์ซักผ้าเติบโต 21% และเฉพาะไฟน์ไลน์ แฮปปี้เนส ซีรี่ส์ ตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 35.7% ขณะที่กลุ่มไฟน์ไลน์ปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้นตั้งเป้าเติบโต 28% และเฉพาะไฟน์ไลน์ แฮปปี้เนส ซีรี่ส์ ตั้งเป้าเติบโตที่ 30%
ในส่วนของแผนการตลาด NEO ได้วางแผนกิจกรรมเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคและแฟนคลับ BUS อย่างต่อเนื่อง และเพื่อเป็นการตอบแทนกระแสตอบรับอันอบอุ่นจากแฟนๆ จากการได้ร่วมกิจกรรมกับ BUS ในปีที่ผ่านมา ไฟน์ไลน์ยังได้มอบตำแหน่ง ‘Son of Fineline’ ให้กับวง BUS อย่างเป็นทางการ โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อ 30 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา นอกจากนี้จะมีไฮไลต์และกิจกรรมพิเศษที่แฟนคลับไม่ควรพลาด พร้อมด้วยกิจกรรมออนไลน์ คอนเทนต์พิเศษ และของสะสมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่จะทยอยเปิดตัวให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์ “ความสะอาด หอม พร้อม Shine” ไปพร้อมกับศิลปินทั้ง 12 คนอย่างต่อเนื่อง
ผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรถนอมผ้าและปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้น “ไฟน์ไลน์ แฮปปี้เนส ซีรี่ส์” มีจำหน่ายแล้วที่ไฮเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://neo-corporate.com/หรือเฟซบุ๊ก NEO Corporate และเฟซบุ๊ก FinelineThailand
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เทรนด์เลี้ยงสัตว์! เหมือนลูกแท้ๆมาแรง ดันธุรกิจ ‘โรงพยาบาลรักษาสัตว์’ โตต่อ
ส่อง ‘ธุรกิจลวดหนามหีบเพลง’ 600 ล้านบาท หลังทหารใช้กั้นชายแดน