svasdssvasds

สรุปสเปค Apple Watch Series 8 , SE และ Ultra รุ่นล่าสุดจากงาน Apple Event 2022

สรุปสเปค Apple Watch Series 8 , SE และ Ultra รุ่นล่าสุดจากงาน Apple Event 2022

แอปเปิ้ล เปิดตัว Apple Watch ใหม่ 3 รุ่นใหม่ Apple Watch Series 8 , Apple Watch SE และ Apple Watch Ultra แบ่งการใช้งานชัดเจน รุ่นปกติ , ตัวรองลดฟีเจอร์ และสายลุย

ภายในงาน Apple Event 2022 : Far Out. นอกจาก iPhone 14 รุ่นใหม่แล้วยังมี Apple Watch ใหม่ 3 รุ่นใหม่ Apple Watch Series 8 , Apple Watch SE และ Apple Watch Ultra

Apple Watch Series 8

Apple Watch Series 8 ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ หน้าจอ ใหม่ Retina ขนาดใหญ่แบบ Always On จอใหญ่ถึงขอบ ใส่ว่ายน้ำได้ ซึ่งมาพร้อมกับระบบตรวจจับอัตราการเต้นหัวใจ คุณภาพการนอน

Apple Watch Series 8

เพิ่มความปลอดภัยและการใส่ใจด้านสุขภาพให้ผู้ใช้

โดยในงานเปิดตัว Apple ได้ยกตัวอย่างการตรวจจับสุขภาพของผู้หญิง เช่น ประจำเดือน ให้แม่นยำและปลอดภัยมากขึ้น เพราะสุขภาพของผู้หญิงละเอียดอ่อนมาก เพียงแค่ประจำเดือนมาไม่ประจำก็อาจส่งผลถึงปัญหาด้านสุขภาพมากขึ้น

และที่สำคัญ Apple เน้นย้ำมากเรื่องข้อมูลส่วนตัวที่จะเป็นของเราเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าแอปฯติดตามประจำเดือนของผู้หญิง มีการแอบขายข้อมูลให้บริษัทอื่น

Apple Watch ใหม่ มีเซ็นเซอร์ 2 ตัว คือที่หลังนาฬิกาและหน้านาฬิกา เพื่อตรวจการตรวจวันข้อมูลที่แม่นยำมากขึ้น

Apple Watch Series 8

Apple Watch Series 8 มีสีอะไรบ้าง ?

Apple Watch Series 8 จะวางจำหน่ายในตัวเรือน สี และสายแบบต่างๆ เพื่อให้เข้ากับสไตล์ที่หลากหลาย ตัวเรือนเป็นอะลูมิเนียมและสแตนเลสสตีลในสองขนาด ได้แก่ ขนาด 41 มม. และ 45 มม. และสามารถใช้ได้กับสายทั้งหมด

สรุปสเปค Apple Watch Series 8 , SE และ Ultra รุ่นล่าสุดจากงาน Apple Event 2022

ตัวเรือนอะลูมิเนียมสำหรับ Apple Watch Series 8 มาในสีสตาร์ไลท์ สีมิดไนท์ สีเงิน และรุ่น (PRODUCT)RED

ในขณะที่ตัวเรือนสแตนเลสสตีลมาในสีเงิน สีกราไฟต์ และสีทอง คุณสามารถจับคู่ Apple Watch Series 8 กับสายใดก็ได้ในคอลเลกชั่นเดียวกันด้วย Apple Watch Studio

แบตเตอรี่อยู่ได้ 18 ชั่วโมง และมีระบบประหยัดพลังงาน ยืดระยะเวลาการใช้งานได้ 36 ชั่วโมง แต่จะตัดฟังค์ชั่นบางอย่างออกไป

ราคาเปิดตัว 399 USD หรือราว 14,000 บาท จองได้ 19 กันยายนนี้

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

Apple Watch SE รุ่นน้องตัวรองลงมา

Apple Watch SE เป็นรุ่นรองที่ราคาลดลงมา ยังคงดีไซน์ตัวเรือนแบบเดิมเอาไว้ แต่ครั้งนี้มาพร้อมฝาหลังตัวเรือนที่ได้รับการออกแบบใหม่ในสีที่เข้ากันโดยใช้วัสดุผสมไนลอน ซึ่งทำให้มีน้ำหนักเบากว่าที่เคย

Apple Watch SE

นอกเหนือจากคุณสมบัติด้านฟิตเนสและสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นใน watchOS 9 แล้ว ผู้ใช้ Apple Watch SE ยังจะได้รับประโยชน์จากแอปเข็มทิศใหม่อีกด้วย Apple Watch SE มาในตัวเรือนอะลูมิเนียมขนาด 40 มม. และ 44 มม. ในสีมิดไนท์ สีสตาร์ไลท์ และสีเงิน และสามารถใช้ได้กับสายทั้งหมด 

Apple Watch Ultra รุ่นลุยด้วยวัสดุที่ถึกทน

Apple Watch Ultra รุ่นลุยด้วยวัสดุที่ถึกทน ไทเทเนี่ยม หน้าปัด 49 มม. เหมาะสำหรับสายผจญภัย แบตฯ ใหญ่ 36 ชั่วโมง และยืดได้ 60 ชั่วโมง จอสว่าง มีเม็ดมะยมที่ออกแบบมาให้คนใส่ถุงมือใช้ได้ ลำโพงดัง ไมค์โครโฟนรอบตัว และปุ่ม Action Button ด้านข้างเป้นสีส้มให้เห็นได้ง่าย

Apple Watch SE

ส่วนสายมีการถักสายให้ทนกว่าปกติ 3 แบบ สำหรับออกกำลังกาย ผจญภัย และสำหรับใช้กับกิจกรรมในน้ำ ได้แก่ Trail Loop, Alpine Loop และ Ocean Band ซึ่งล้วนมีดีไซน์แบบเฉพาะตัวที่ช่วยคงความแน่นกระชับและใส่สบายสำหรับการผจญภัยทุกแนว

มีระบบ GPS ใหม่ที่แม่นยำมากขึ้น เคลมดีที่สุด มันสามารถใช้ได้ในสภาพแวดล้อม -20 – 55 องศาเซลเซียสได้แบบสบาย ๆ ลงใต้น้ำได้ และยังสามารถนำทางด้วยเข็มทิศได้อีกด้วย รวมถึงออกแบบเสียงเตือนแบบพิเศษที่ในกรณีขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน

Apple Watch SE ราคาเปิดตัว 799 USD หรือราว 23,000 บาท พร้อม GPS และการเชื่อมต่อสัญญาณ Cellular สั่งได้ 23 กันยายนนี้

 

Apple Watch Series 8 และ Apple Watch SE ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม โดยทั้งสองรุ่นผลิตด้วยอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% ในตัวเรือน, ทังสเตนรีไซเคิล 100% ใน Taptic Engine รวมถึงการใช้แร่โลหะหายากที่ผ่านการรีไซเคิล 100% ในแม่เหล็กทุกชิ้น ซึ่งเป็นครั้งแรกของ Apple Watch ที่ทั้งสองรุ่นใช้ทองคำรีไซเคิล 100% ในการเคลือบแผงวงจรพิมพ์หลายชิ้นบน Apple Watch Series 8 และการเคลือบ SiP บน Apple Watch SE ใหม่ ทั้งสองรุ่นยังปราศจากสารปรอท, BFR, PVC และเบริลเลียมอีกด้วย บรรจุภัณฑ์ของ Apple Watch ไม่มีพลาสติกหุ้มชั้นนอกและใช้เยื่อไม้เป็นหลักอย่างน้อย 90% จึงทำให้ Apple เข้าใกล้เป้าหมายของบริษัทมากยิ่งขึ้น นั่นคือการเลิกใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดภายในปี 2025

วันนี้การดำเนินงานของบริษัท Apple ทั่วโลกมีความเป็นกลางทางคาร์บอน และภายในปี 2030 เราวางแผนที่จะมีความเป็นกลางทางคาร์บอน 100% ในทุกภาคส่วนของธุรกิจ ซึ่งรวมถึงซัพพลายเชนการผลิตและวงจรชีวิตของสินค้าทั้งหมด นั่นหมายความว่าอุปกรณ์ Apple ทุกเครื่องที่จำหน่ายจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อสภาพภูมิอากาศ ตั้งแต่การผลิตชิ้นส่วน การประกอบ การขนส่ง การใช้งานของลูกค้า การชาร์จ ตลอดจนการรีไซเคิลและการคัดแยกวัสดุ

related