svasdssvasds

Meta โดนพิษเศรษฐกิจและสงคราม TikTok ปลดพนักงาน ลดงบทั้งบริษัท

Meta โดนพิษเศรษฐกิจและสงคราม TikTok  ปลดพนักงาน ลดงบทั้งบริษัท

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เจ้าของบริษัท Meta ได้สรุปแผนการจัดระเบียบทีมใหม่และลดจำนวนพนักงานลงเป็นครั้งแรก เป็นการยุติยุคแห่งการเติบโตอย่างรวดเร็วของโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่อย่างเฟซบุ๊กและแพลตฟอร์มอื่นๆในเครือ

เป็นครั้งแรกตั้งแต่ Facebook ก่อตั้งในปี 2547 มาร์ค ซักเคอร์เบิร์กได้ประกาศว่าจะหยุดการจ้างงานและปรับโครงสร้างทีม “เพื่อลดค่าใช้จ่าย” ซึ่งคาดว่า Meta จะมีบริษัทที่มีขนาดเล็กลงในปี 2023 นี้

มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก กล่าวว่า “ฉันหวังว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นกว่าในตอนนี้ แต่จากที่เราเห็นมันดูจะไม่ดีขึ้น ดังนั้นเราจึงต้องการวางแผนที่จะช่วยรักษาบริษัทไว้” 

การลดต้นทุนและการหยุดจ้างงาน เป็นสัญญานที่ทำให้เห็นว่า Meta กำลังขาดรายได้จากโฆษณา และ Meta ยังอยู่ท่ามกลางการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นเพื่อความสนใจของผู้ใช้ 

ธุรกิจโฆษณาของบริษัทซึ่งสร้างขึ้นจากการกำหนดเป้าหมายของผู้บริโภคอย่างแม่นยำ ซึ่งถูกกีดกันโดยนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Apple ซึ่งมีฝังการติดตามผู้ใช้ iPhone ทำให้ขณะนี้เฟซบุ๊กไม่สามารถขายโฆษณาได้เช่นเดิม

TikTok กำลังดึงดูดผู้ใช้ Gen Z และวัยอื่นๆ ไปจาก Instagram และมาร์ค ซักเคอร์เบิร์กกำลังเดิมพันราคาแพงกับการลงทุนใน Metaverse ซึ่งเป็นอนาคตเสมือนจริงเสมือนจริงที่เขาจินตนาการว่าผู้คนจะสื่อสารกันในที่สุด ความพยายามที่เขากล่าวว่าจะสูญเสียเงินและขาดทุนไปอีกหลายปี

บริษัท Meta มุ่งพัฒนา Instagram Reels เพื่อเป็นคู่แข่ง TikTok ของ Meta และเมตาเวิร์สของมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ขณะนี้ Meta มีพนักงานมากกว่า 83,500 คน ณ วันที่ 30 มิถุนายน ซึ่งได้เพิ่มพนักงานใหม่ 5,700 คนไปในไตรมาสที่สอง

Meta ไม่ใช่บริษัทที่พึ่งพาการโฆษณาเพียงบริษัทเดียวที่ต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจในวงกว้าง Twitter Inc. ประกาศหยุดการจ้างงานในเดือนพฤษภาคม และได้ขอให้พนักงานดูแลค่าใช้จ่าย และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและการตลาด 

Google ของ Alphabet Inc. ก็บอกว่าจะชะลอการจ้างงานในช่วงครึ่งหลังของปี และ Snap Inc. จะลดจำนวนพนักงานลง 20% ในเดือนสิงหาคม ซึ่งนี่เป็นสัญญานของการแข่งขันระหว่างแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย แม้แต่ยักษ์ใหญ่ Google เองก็ยังได้รับผลกระทบจากสงครามครั้งนี้

ทางผู้เขียนได้มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้ว่า เนื่องจากนี่คือยุคของการเปลี่ยนผ่านด้านเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น เมตาเวิร์ส โลกเสมือนจริง เทคโนโลยี AI ต่างๆ บวกกับกฎหมายที่เข้ามาควบคุมดูแลความปลอดภัยเรื่องข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรงกับธุรกิจโฆษณาบนโลกออนไลน์ ที่ไม่สามารถทำได้เหมือนแต่ก่อนแล้ว

พร้อมกับสงครามด้านแพลตฟอร์มโซเชียล จากสถิติที่คนใช้ Google ค้นหาน้อยลง ซึ่งทำให้เห็นว่าผู้ใช้ปัจจุบันหันมาเสพโซเชียลในรูปแบบวีดีโอสั้น เช่น TikTok ทำให้หลากหลายแพลตฟอร์มต้องทำการปรับตัวกันอย่างต่อเนื่อง

ขณะนี้ทิศทางของ Meta กำลังดูคล้ายจะเอนเอียงไปมุ่งเน้นการต่อสู้กับ TikTok และส่วนตัวมาร์ค ซักเคอร์เบิร์กเองให้ความสนใจด้านเมตาเวิร์สเป็นอย่างมาก เราคงต้องรอดูกันต่อไปว่าโลกเสมือนจริงของเครือ Meta จะออกมาได้ดีและทำให้บริษัทนำกำไรกลับมาได้ในที่สุดหรือไม่

related