ญี่ปุ่น ล้มเหลวในการปล่อยจรวดขนส่งดาวเทียม

สำนักงานสำรวจอวกาศแห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan Aerospace Exploration Agency: JAXA) เผยว่า การปล่อย Epsilon จรวดขนส่งดาวเทียมนั้น "ล้มเหลว" โดย JAXA จำเป็นต้องป้อนคำสั่งให้ Epsilon ทำลายตัวเองเพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่มันเบนออกจากวิถีที่ตั้งไว้

การพัฒนาดังกล่าวถือเป็นความล้มเหลวในการยิงจรวดครั้งแรกของญี่ปุ่นตั้งแต่ พ.ย. 2003 เมื่อจรวด H2A ถูกทำลายโดยเจตนาไม่นานหลังจากปล่อยตัวและได้จัดการกับหน่วยงานที่ต้องการขยายการรับดาวเทียมเชิงพาณิชย์สำหรับการเปิดตัว

จรวด Epsilon-6 ถูกปล่อยตัวออกจากศูนย์อวกาศอูชิโนระ (Uchinoura Space Center) ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะคิวชู (Kyushu) เมื่อเวลาประมาณ 09.50 น. มีดาวเทียมจำนวน 8 ดวงที่พัฒนาโดยเอกชนและ หน่วยงานของรัฐ รวมทั้งมหาวิทยาลัย แต่ JAXA ส่งคำสั่งทำลายเมื่อเวลา 09.57 น.

ในการแถลงข่าวหลังการปล่อยจรวด Epsilon ล้มเหลว JAXA เผยว่า การตัดสินใจส่งคำสั่งทำลายตัวเองเกิดขึ้นหลังจากที่จรวดเบี่ยงเบนไปจากตำแหน่งที่ตั้งใจไว้และไม่สามารถวางดาวเทียมในวงโคจรได้

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :

• NASA เล็งปล่อยจรวด Artemis I กลางเดือนพฤศจิกายน
• Boeing เตรียมเปิดศูนย์วิจัยและเทคโนโลยีแห่งใหม่ในญี่ปุ่น
• R1 หุ่นยนต์สำรวจดวงจันทร์ของ GITAI ที่จับมือร่วมพัฒนากับ JAXA

ไม่มีรายงานการบาดเจ็บหรือความเสียหายต่อทรัพย์สินอันเนื่องมาจากการทำลายตนเอง เจ้าหน้าที่กระทรวงวิทยาศาสตร์กล่าวกับที่ประชุมกองกำลังเฉพาะกิจที่จัดขึ้นที่กระทรวง

ตามที่ JAXA ระบุว่า จรวดตกลงไปในทะเลหลังจากคำสั่งทำลายตัวเอง โดยกล่าวว่าจะดำเนินการสอบสวนสาเหตุของความผิดปกติที่นำไปสู่การยกเลิกภารกิจและจะจัดตั้งคณะทำงานเพื่อช่วยในการสอบสวน

ฮิโรชิ ยามาคาวะ (Hiroshi Yamakawa) ประธาน JAXA กล่าวว่า ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าความผิดพลาดจะส่งผลกระทบต่อแผนต่าง ๆ แต่เน้นว่าหน่วยงานจะ "พยายามอย่างเต็มที่เพื่อฟื้นฟูความไว้วางใจ"

ฮิโรกาซึ มัตซึโนะ (Hirokazu Matsuno) หัวหน้าเลขาธิการ กล่าวในการแถลงข่าวว่ารัฐบาลรับเหตุการณ์ "อย่างจริงจัง" และเสริมว่า "ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่จะคาดเดา" ว่าจะมีผลกระทบต่อนโยบายอวกาศโดยรวมของญี่ปุ่นในเวลานี้หรือไม่

นอกจากนี้ยังเป็นจรวด Epsilon ลำแรกที่มีดาวเทียมส่วนตัวในสินค้า รวมถึงสองลำที่พัฒนาโดยบริษัทร่วมทุนด้านวิศวกรรมอวกาศ iQPS Inc. ในฟุกุโอกะ

ทาคายะ อินาโมริ (Takaya Inamori) รองศาสตราจารย์จากคณะวิศวกรรมการบินและอวกาศ (School of Aerospace Engineering) แห่งมหาวิทยาลัยนาโกย่า (Nagoya University) มีส่วนร่วมในการพัฒนาไมโครแซทเทลไลท์บนจรวดที่เรียกว่ามักนาโร เขากล่าวว่าถึงแม้จะไม่มีอะไรแน่นอนในอุตสาหกรรมนี้ "100%" แต่เขา "ผิดหวังมากเพราะเราหวังว่าจะได้สาธิตเทคโนโลยีใหม่"

จรวดของญี่ปุ่นมีราคาค่อนข้างแพงในการปล่อยตัว และจุดแข็งที่สำคัญอย่างหนึ่งของพวกมันคือความน่าเชื่อถือ

จรวด Epsilon มีความยาว 26 เมตร และหนักกว่า 95.6 ตัน ได้รับการออกแบบให้เป็นรายการสุดท้ายที่ได้รับการปรับปรุงในซีรีส์ Epsilon

ด้วยการใช้ดาวเทียมขนาดเล็กที่คาดว่าจะมากขึ้น JAXA ได้หลีกเลี่ยงจรวดเชื้อเพลิงเหลวสำหรับซีรีย์ Epsilon เชื้อเพลิงแข็ง ซึ่งมีข้อได้เปรียบในรูปแบบของการก่อสร้างที่ง่ายกว่า เวลาในการพัฒนาที่สั้นลง และช่วงเวลาการเปิดตัวที่สั้นลง