18 ทักษะดิจิทัล ที่องค์กรต้องการตัว เงินเดือนมากกว่าค่าแรงขั้นต่ำ 10 เท่า

ปัจจุบันแม้มีใบปริญญา ก็ไม่ได้แปลว่าจะประสบความสำเร็จ แต่การมีทักษะและความคิด จะทำให้เราสามารถสร้างรายได้และไปตามเป้าหมายชีวิตที่วางไว้ได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกัน ปีหนึ่งประเทศไทยมีนักศึกษาจบใหม่ ราว 400,000-500,000 คน/ปี ทำอย่างไร ให้เราแตกต่าง จากคนอื่น ๆ คำตอบง่าย ๆ คือ การเพิ่ม ทักษะดิจิทัล ให้ตัวเราเอง

เว็บไซต์ FeeDough เผยแพร่บทความ ระบุถึง 18 ทักษะดิจิทัลที่กำลังเป็นที่ต้องการและพวกเขาจ้างกันที่เท่าไหร่บ้างในสหรัฐฯ ?

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

• ทักษะ Cybersecurity ความสามารถที่มนุษย์เราจำเป็นต้องเรียนรู้
• "เด็กจบใหม่-Gen Z" เป็นที่ต้องการในตลาดแรงงาน แนะทักษะหางานให้ได้เปรียบ
• รวมคอร์สเรียนออนไลน์ ให้เงินเดือนมากกว่า เด็กจบใหม่-ค่าแรงขั้นต่ำ

8 ทักษะดิจิทัล ที่เป็นที่ต้องการในท้องตลาด

1. ทักษะตัดต่อวิดีโอ ค่าจ้างในสหรัฐฯ อยู่ที่ราว 156,000 บาท/เดือน
2. ทักษะด้านเสียง ในงานโปรดักชั่น ค่าจ้างในสหรัฐฯ อยู่ที่ราว 202,000 บาท/เดือน
3. ทักษะการตลาดดิจิทัล ผู้เชี่ยวชาญด้านการโฆษณาและทำการตลาดบนโลกดิจิทัล อย่างโซเชียลมีเดีย ค่าจ้างในสหรัฐฯ อยู่ที่ราว 114,000-276,000 บาท/เดือน
4. ทักษะการเขียน/ทำ SEO หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการทำให้เว็บไซต์ขององค์กรติดในเว็บค้นหาอย่าง Google เพื่อแย่งชิงยอดวิวจากผู้คนที่ค้นหาเรื่องต่าง ๆ บน Google ค่าจ้างในสหรัฐฯ อยู่ที่ราว 134,000 บาท/เดือน
5. ทักษะด้านกราฟิก ค่าจ้างในสหรัฐฯ อยู่ที่ราว 156,000 -239,000 บาท/เดือน
6. ทักษะการสร้างคอนเทนต์ ค่าจ้างในสหรัฐฯ อยู่ที่ราว 162,000 บาท/เดือน 
7. ทักษะการบริหารจัดการบัญชีโซเชียลมีเดีย หรือ ผู้ที่คอยวางแผนการสร้างการรับรู้บนโลกโซเชียลให้แบรนด์ของเรานั่นเอง ค่าจ้างในสหรัฐฯ อยู่ที่ราว 202,000 บาท/เดือน 
8. ทักษะด้านการบริหารจัดการสินค้า หรือ ผู้จัดการสินค้าต่าง ๆ ใช้บริหารทั้งกลยุทธ์ทางการตลาดและอื่น ๆ ค่าจ้างในสหรัฐฯ อยู่ที่ราว 306,000 บาท/เดือน 

คลิปข่าวที่เกี่ยวข้อง

10 ทักษะดิจิทัลขั้นสูง ถ้ามีอาจได้มากกว่าค่าแรงขั้นต่ำถึง 10 เท่า

1. ทักษะ Cloud Computing ทักษะโปรแกรมเมอร์เฉพาะทางที่บริหารจัดการแหล่งเก็บข้อมูลออนไลน์ขององค์กร (Cloud) ซึ่งค่าจ้างในสหรัฐฯ อยู่ที่ราว 370,000 บาท/เดือน

2. ทักษะ Data Analysis วิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขผู้ใช้งานในเว็บ พฤติกรรมคน หรือข้อมูลทางการเงิน ค่าจ้างในสหรัฐฯ อยู่ที่ราว 229,000 บาท/เดือน

3. ทักษะพัฒนาเว็บและแอปฯ มือถือ หากทำระบบหลังบ้าน จัดการให้รองรับองค์กรใหญ่ได้ก็จะเพิ่มมูลค่าให้ตัวเองได้อีกด้วย ค่าจ้างในสหรัฐฯ อยู่ที่ราว 256,000 บาท/เดือน

4. ทักษะด้าน AI & Machine Learning สามารถพัฒนาปัญญาประดิษฐ์และพัฒนาให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง ค่าจ้างในสหรัฐฯ อยู่ที่ราว 272,000 บาท/เดือน

5. ทักษะพัฒนา Blockchain และต่อยอดระบบบล็อกเชนที่โกงยากที่สุดเพราะระบบนี้อุปกรณ์ทุกตัวจะตรวจสอบกันเอง มักใช้ในระบบการเงิน ค่าจ้างในสหรัฐฯ อยู่ที่ราว 427,000 บาท/เดือน

6. ทักษะด้านโปรแกรมเมอร์ พัฒนาแอปฯ หรือผู้เขียนโปรแกรมเพื่อรองรับการใช้งานขององค์กรต่าง ๆ ซึ่งเป็นภาพใหญ่ที่ดูแลกว้างกว่า ทักษะพัฒนาเว็บและแอปฯ มือถือ ค่าจ้างในสหรัฐฯ อยู่ที่ราว 94,000-313,000 บาท/เดือน

7. ทักษะพัฒนา API หรือ Application Programming Interface คือระบบหลังบ้านที่อนุญาตให้คนอื่นนำระบบของตัวเองมาเชื่อมต่อได้ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน เช่น แอปฯ เรียกรถดึงระบบหลังบ้านของธนาคารมาใช้เพื่อให้ตัดเงินได้ ค่าจ้างในสหรัฐฯ อยู่ที่ราว 277,000-327,000 บาท/เดือน

8. ทักษะพัฒนาเกม 3 มิติ ค่าจ้างในสหรัฐฯ อยู่ที่ราว 327,000 บาท/เดือน

9. ทักษะพัฒนาด้าน AR/VR หรือเทคโนโลยีเสมือนจริง ค่าจ้างในสหรัฐฯ อยู่ที่ราว 287,000 บาท/เดือน 

10. ทักษะนักออกแบบหน้าตาแอปฯ และ ออกแบบประสบการณ์ใช้แอปฯ-โปรแกรม (UI/UX Design) ค่าจ้างในสหรัฐฯ อยู่ที่ราว 240,000-270,000 บาท/เดือน 

อย่างไรก็ตามราคาจ้างในประเทศไทยอาจแตกต่างไปตามนายจ้างแต่ละคนเนื่องจากกำลังจ่ายในประเทศไทยอาจไม่สูงเท่าสหรัฐฯ

ขณะเดียวกัน ต้องดูประเภทของงานที่เราทำประกอบด้วยหากทักษะดิจิทัล ดังกล่าวช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับเราในอาชีพที่ทำอยู่ก็จะเพิ่มเงินเดือนได้ หรือหากไม่สามารถเพิ่มเงินเดือนได้ ก็สามารถกลายเป้นอาชีพเสริมได้นั่นเอง

• อ่าน : คนขับแท็กซี่สิงคโปร์ วัย 54 เรียนออนไลน์ เปลี่ยนอาชีพเงินเดือนหลักแสน