ปัญหาโจรกรรมข้อมูล การจับข้อมูลเป็นประกันเพื่อเรียกค่าไถ่ การแฮคบัญชีเพื่อขโมยเงิน ยังคงเป็นอาชญากรรมบนโลกไซเบอร์ หรือ Cyber Attack ที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนต้องพึงระวังให้มากและรู้ให้เท่าทันกลโกง
Cyber Attack หรือ อาชญากรรมทางไซเบอร์ คือ เป็นอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตและช่องทางออนไลน์ต่างๆ
รายงานผลการสำรวจพฤติกรรมของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ปี 2565 ของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศษฐกิจและสังคม ประจำปี 2565 เปิดเผยว่า
ยิ่งพฤติกรรมของคนไทยใช้อินเทอร์เน็ตมากเท่าไหร่ ปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ก็ยิ่งลุกลามมากเท่านั้น
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
อาจกล่าวได้ว่า ประชาชนไทยมีความสะดวกสามารถทำธุรกรรมในเกือบทุกที่และตลอดเวลา ขณะเดียวกันการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้สะดวกรวดเร็ว ทำให้เราต้องสอดส่องระมัดระวังอาชญากรรมทางไซเบอร์ (Cyber Crime / Cyber Attack) เพื่อป้องกันไม่ให้เข้ามาสร้างความเสียหายให้เราในฐานะผู้ใช้อินเทอร์เน็ต
การคุกคามทางไซเบอร์เป็นปัญหาระดับโลก โดยเฉพาะภัยคุกคามทางไซเบอร์ต่อระบบการเงินที่เพิ่มขึ้น และต้องอาศัยประชาคมโลกร่วมมือป้องกัน
World Bank จึงได้มีการจัดตั้งกองทุนชื่อ Cybersecurity Multi-Donor Trust Fund ภายใต้โครงการ Digital Development Partnership Umbrella หรือ DDP เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ และการให้ความช่วยเหลือทางด้านเทคนิคให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา
โดยเป็นการสร้างหรือช่วยเพิ่มศักยภาพด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์และสามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างมั่นคงปลอดภัย (Cyber Resilience) เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาชญากรรมทางไซเบอร์จากสำนักงานสอบสวนกลาง สหรัฐอเมริกา
จากเว็บไซต์ของสำนักงานสอบสวนกลาง (Federal Bureau of Investigation: FBI) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านข่าวกรองและความมั่นคงภายในของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้อธิบายเกี่ยวกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ไว้ ดังนี้
จากรายงานสรุปผลการดำเนินงานของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ที่จัดทำโดย ศปช. เปิดเผยสถิติภัยอาชญากรรมทางไซเบอร์ ในช่วงวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึง 30 กันยายน 2565 พบว่า
รองลงมา คือ จุดอ่อนช่องโหว่ของระบบ (Vulnerability) ซึ่งเหตุการณ์กว่าครึ่งหนึ่งเกิดกับหน่วยงานภาครัฐ ด้านข้อมูลรั่วไหล (Data Breach) เกิดขึ้นกับหน่วยงานรัฐและเอกชนใกล้เคียงกัน
การโจมตีด้วย Ransomware มีข้อสังเกตว่า เกิดขึ้นกับหน่วยงานสำคัญของภาครัฐและภาคเอกชนที่มีทุน จดทะเบียนสูง และกระจายตัวอยู่ในหลายอุตสาหกรรม โดยการโจมตีนี้จะส่งผลให้หน่วยงานเจ้าของระบบ ไม่สามารถใช้ระบบงาน และ/หรือไม่สามารถใช้ระบบงานสำรองได้ ซึ่งการโจมตีแบบ Ramsomware ต้องใช้เวลานานและจำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญภายนอกร่วมแก้ไขปัญหา
นอกจากการเตรียมตัว ตระหนักถึงภัยแล้วทุกคนควรตระหนักถึงข้อเท็จจริงที่ว่า
“ไม่มีการลงทุนใดให้ผลตอบแทนเกินจริงหรือการลงทุนที่มีการรับประกันผลตอบแทน”
ดังนั้น อย่าหลงเชื่อ ต้องตรวจสอบข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง ตั้งสติ อย่ารีบร้อนเร่งลงทุนตามการเร่งให้ลงทุนหรือเร่งให้ทำธุรกรรม จะช่วยลดโอกาสในการถูกคุกคามทางไซเบอร์ได้