ยักษ์อีคอมเมิร์ซ Amazon เตรียมใช้ หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ทำงานซ้ำซากในโกดัง

Amazon อเมซอน อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่สหรัฐ กำลังสร้างความกังวลต่อคนงานกว่า 1.5 ล้านคนของบริษัท ด้วยแนวคิดการจ้างหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์เพื่อทำงานที่ซ้ำซากแทนมนุษย์ และนำทรัพยากรบุคคลไปพัฒนาด้านอื่น ๆ แทน

(ระวังสับสนกับ คาเฟ่อเมซอน)

หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ ที่มีชื่อ Digit จาก Agility Robotics กำลังทำการทดสอบในโกดังสินค้าของอเมซอนในรัฐเท็กซัส ของสหรัฐ เป็นหุ่นยนต์รูปร่างคล้ายมนุษย์ที่มีแขนและขา สามารถจับ ยก และจัดการกับพัสดุได้ไม่ต่างจากคนงาน

แม้ว่าขณะนี้ อเมซอนมีหุ่นยนต์ประมาณ 750,000 ตัวทำงานอยู่ในโรงงานต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงหุ่นยนต์ที่ถูกใช้เพื่อขนย้ายกล่องภายในโกดัง ที่สามารถบรรทุกสิ่งของที่มีน้ำหนักมากถึง 35 ปอนด์ แต่การเปลี่ยนไปใช้หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ยังถือเป็นเรื่องใหม่ ที่สร้างความกังวลต่ออนาคตของคนงานมนุษย์กว่า 1.5 ล้านคนในบริษัท

ฝ่ายเทคโนโลยีของอเมซอน ระบุว่า การทดสอบหุ่นยนต์ Digit ยังอยู่ในระยะแรกเท่านั้น และพวกเขาใช้ความระมัดระวังอย่างมาก ในการทำความเข้าใจ และประเมินว่าการใช้งานหุ่นยนต์ดังกล่าวมีความเหมาะสมกับกระบวนการของบริษัทหรือไม่ 

ทั้งนี้ ความสามารถเบื้องต้นของ Digit คือการทำงานของมนุษย์ได้หลายอย่าง โดยเฉพาะงานที่มีความซ้ำซาก มีความต้องการทางกายภาพ หรืองานที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์

แรงงานที่ทำงานซ้ำซาก ต้องเตรียมตัว

สำหรับแทรนด์การใช้ หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ และแขนกลอื่น ๆ ที่จะมาแทนที่มนุษย์มาจาก 3 ปัจจัย คือ ค่าแรงที่สูงขึ้น , ความเสียงจากความผิดพลาดของมนุษย์ (Human Error) และ ความสามารถในการพัฒนาทักษะด้านอื่น ๆ ของมนุษย์ ซึ่งหากมองย้อนกลับไปการที่พนักงานคนหนึ่งตื่นขึ้นมาทำงานซ้ำซากจำเจทุกวัน จะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานของเขาลดลงตามกาลเวลา และถ้าหากเขายังทำอย่างเดิมไม่เปลี่ยนแปลก ก็จะไม่สามารถพัฒนาฝีมือตนเองให้ทันต่อโลกที่เปลี่ยนไปได้

เจ้าของบริษัทต่าง ๆ จึงมองว่า หากต้องมีพนักงาน 1 คนที่มีโอกาสเจ็บป่วย และมีโอกาสสร้างความผิดพลาดจากฝีมือมนุษย์ (Human Error) จะดีกว่าไหม ถ้าทดแทนด้วยหุ่นยนต์และฮิวแมนนอยด์ที่ทำงานซ้ำซากได้ตลอดเวลา แถมยังพร้อมเรียนรู้ลักษณะการทำงานใหม่ ๆ ตามคำสั่งที่ถูกกรอกลงในระบบอีกด้วย

ซึ่งข่าวของ Amazon อเมซอน อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่สหรัฐ เป็นสัญญาณสำคัญว่า คนรุ่นใหม่ ไม่สามารถทำงานไปวัน ๆ โดยไม่คิด วิเคราะห์ และแยกแยะ ได้อีกต่อไป

ยังไม่ไล่พนักงานออก แต่จะสร้างตำแหน่งงานใหม่ขึ้นมา

ขณะที่ อเมซอน กำลังลงทุนอย่างหนักในด้านวิทยาการหุ่นยนต์ โดยได้ประกาศกองทุน 'นวัตกรรมอุตสาหกรรม' มูลค่าราว 37,000 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว แต่ยืนยันว่าหุ่นยนต์จะไม่ถูกนำมาแทนที่มนุษย์ แต่จะเป็นตำแหน่งงานที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ และจะช่วยให้พนักงานมีอิสระในการส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

Agility Robotics ไม่ใช่เจ้าเดียวที่กำลังพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ ยังมีบริษัทสตาร์ทอัพไปจนถึงบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่เข้าร่วมในการแข่งขันครั้งนี้ด้วย เช่นเดียวกับเทสลาของนายอีลอน มัสก์ ซึ่งกำลังพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ชื่อว่า Optimus หลังจากที่นายมัสก์เคยออกมากล่าวว่า "สักวันหนึ่งหุ่นยนต์จะมีความสำคัญมากกว่ารถยนต์ของบริษัท"

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าตลาดหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จะมีมูลค่าปีละราว 5.5 ล้านล้านบาททั่วโลก ภายใน 15 ปี และหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จะสามารถนำไปใช้งานในโรงงานได้ระหว่างปี 2568-2571 และในงานด้านอื่นๆ ภายในปี 2573-2578

อ้างอิง : กรุงเทพธุรกิจ

ภาพ : Agility Robotics

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

• Hadrian X หุ่นยนต์ก่อสร้าง ทำงานเร็วกว่าคน สามารถวางอิฐ 500 ก้อน ใน 1 ชม.
• Disney เปิดตัวหุ่นยนต์อัจฉริยะ รูปร่างคล้าย Wall-E ผลิตจาก 3D Printing
• "หุ่นยนต์ผึ้งผสมเกสร" หรือนี่จะเป็นทางออกเมื่อผึ้งถึงคราวใกล้สูญพันธุ์