svasdssvasds

จีนอัดฉีดเงินนับพันล้าน ดันให้ Huawei พัฒนาชิปประมวลผลได้เอง

จีนอัดฉีดเงินนับพันล้าน ดันให้ Huawei พัฒนาชิปประมวลผลได้เอง

จีนเริ่มวิ่งตามและกำลังจะนำสหรัฐฯแล้ว เมื่อรัฐบาลกำลังอัดฉีดเงินนับพันล้าน ดันให้ Huawei พัฒนาชิปประมวลผลได้เอง

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า รัฐบาลจีนได้ก่อตั้ง กองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐบาลเมืองในเซินเจิ้น มีเป้าหมายเพื่อลงทุนในบริษัท Huawei โดยหวังว่าบริษัทจะสามารถพัฒนาชิปประมวลผลได้ด้วยตนเอง ผ่านเครือข่ายนักวิจัยและเงินงบประมาณมหาศาล

มีรายงานว่าผู้นำระดับสูงของจีนสั่งการมาโดยตรงว่าให้ผลักดัน หัวเว่ย มาเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของจีน นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า มีคำของให้บริษัทเปิดตัว Huawei Mate 60 ก่อนกำหนด เพื่อให้ทันต่อการมาเยือนของรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ Gina Raimondo ที่ประเทศจีน

สมาร์ทโฟน Huawei Mate 60 มีชิปเซ็ต Kirin 9000S ที่ผลิตในจีนขนาด 7 นาโนเมตร แหล่งข่าววงในระบุว่าชิปเซ็ต 7 นาโนเมตรที่สร้างโดย Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของจีน ทำให้เห็นว่า จีนตามหลังเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบันเพียง 5 ปี

ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ พยามกีดกันทางการค้ากับจีนหลายครั้ง ทั้งการห้ามผู้ผลิตชิปประมวลผลอย่าง Intel และ Nvdia ในการขายผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีให้กับจีน เพราะจีนใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นในการไปผลิตเทคโนโลยีทางการทหาร ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใกล้เคียงกับสหรัฐฯ ประกอบกับบริษัทด้านเทคโนโลยีอย่าง Huawei ก็สามารถพัฒนาอุปกรณ์ที่ฉลาดและราคาถูกกว่าของสหรัฐฯ จนทำให้บริษัทในสหรัฐเองระส่ำ จนต้องแบนหัวเว่ยไปในที่สุด

การกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ มีเป้าหมายเพื่อให้จีนล้าหลังอย่างน้อย 8 ปี นั่นคือสาเหตุหลักว่าทำไม Huawei และธุรกิจชิปทั้งหมดในประเทศจีนกำลังตกเป็นเป้าหมายของสหรัฐอเมริกาในสงครามการค้า เป็นผลมาจากข้อกังวลว่าเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ที่ผู้ผลิตในจีนได้มานั้นสามารถนำไปใช้ในชิปอย่าง 9000S เพื่อขับเคลื่อนโดรนที่ควบคุมโดย AI และ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์สำหรับการเจาะระบบต่าง ๆ

ขณะที่ บริษัท ASML Holding บริษัทที่ขายเครื่องผลิตชิปประมวลผลอีกทีหนึ่ง ซึ่งนับว่าเป็นเพียงไม่กี่บริษัทในโลกนี้ที่สามารถทำเครื่องนี้ได้จนเกือบจะผูกขาด ไม่ได้มีการขายเครื่องผลิตให้จีนแต่อย่างใด แต่กลยุทธ์ของจีนคือจ้างอดีตพนักงานของบริษัทมาช่วยพัฒนาแทน

มีการวิเคราะห์กันว่า รัฐบาลจีนไม่ได้ทุ่มงบเพียงแค่จัดตั้งกองทุนและสร้างโรงงานผลิตชิปเท่านั้น รัฐยังช่วยเหลือเรื่องภาษี ทั้งการยกเว้นภาษีที่ดิน , ภาษีเงินได้ และสร้างที่พักอาศัยให้กับพนักงานอีกด้วย

นี่นับเป็นสงครามการค้าด้านชิปประมวลผล หรือ Semiconductor War ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและมีแนวโน้มที่จะรุนแรงมากขึ้น ซึ่งผลกระทบดังกล่าว ทำให้ราคาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สูงขึ้น เป็นผลมาจากของขาดตลาด

 

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

related