เปิดพฤติกรรมผู้ใช้งาน AI ในปี 2025 - ตอนนี้ AI ถูกใช้เพื่อการบำบัดจิตใจ เป็นอันดับ 1 แล้ว! แตกต่างจากปี 2024 ที่อันดับ 1 เป็นการคิดไอเดียอะไรใหม่ๆ
จาก “ไอเดียเจ๋ง ๆ” สู่ “ฮีลใจเรา”: 1 ปีผ่านไป ผู้ใช้ Gen AI เปลี่ยนวิธีใช้ไปไกลกว่าที่เราคิด
เมื่อก่อน เราใช้ AI เพื่อหาคำตอบเร็ว ๆ ระดมไอเดียไว ๆ หรือเล่นอะไรสนุก ๆ ขำ ๆ แต่วันนี้ หลายคนใช้ AI เพื่อคุยกับใครสักคนที่ไม่ตัดสิน ใช้เพื่อสะท้อนตัวเอง ค้นหาความหมายของชีวิต หรือแม้แต่จัดระเบียบใจที่วุ่นวายไม่แพ้ตารางชีวิต
รายงานล่าสุดจาก Filtered.com ที่สำรวจ 100 อันดับการใช้งาน Generative AI ตลอดช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน: AI ไม่ได้เป็นแค่ “เครื่องมือ” อีกต่อไป แต่กลายเป็น “เพื่อนร่วมทางในชีวิตจริง”
การใช้งานยอดนิยมในปี 2025 บอกอะไรบางอย่างกับเราได้ชัดเจน
• AI ถูกใช้เพื่อการบำบัดจิตใจ (Therapy/Companionship) มากที่สุด
• คนเริ่มใช้ AI เพื่อ “จัดระเบียบชีวิต” เช่น วางแผนตาราง ทำความสะอาดบ้าน รับมือกับภาระ
• และที่น่าทึ่งที่สุด — AI ถูกใช้เพื่อ “ค้นหาจุดหมาย” ในชีวิต
แน่นอนว่า ... ปี 2025 มีคนถาม AI ว่า “ชีวิตฉันควรจะไปทางไหนดี?”
จากการใช้งาน AI เดิม ๆ อย่าง การคิดไอเดีย หรือ เขียนโค้ด — การใช้งานเหล่านั้นยังคงอยู่ แต่เลื่อนอันดับลง สะท้อนให้เห็นว่า “ฟังก์ชัน” อาจไม่สำคัญเท่า “ความสัมพันธ์” อีกต่อไป
1. Generating ideas – คิดไอเดีย / ระดมสมอง
2. Therapy/companionship – ใช้ AI เพื่อบำบัดจิตใจ หรือเป็นเพื่อนคุย
3. Specific search – ค้นหาข้อมูลเฉพาะเจาะจง
4. Editing text – แก้ไขข้อความ เช่น ตรวจแกรมมาร์
5. Exploring topics of interest – ค้นคว้าหัวข้อที่สนใจ
6. Fun and nonsense – ใช้เพื่อความสนุก ขำขัน ไร้สาระ
7. Troubleshooting – แก้ปัญหาเทคนิคหรืออุปกรณ์
8. Enhanced learning – ใช้เสริมการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพ
9. Personalized learning – เรียนรู้แบบเฉพาะบุคคล
10 General advice – ขอคำแนะนำทั่วไป
1.Therapy/companionship ใช้ AI เป็นเพื่อนคุย/ที่ปรึกษา/ที่ระบาย
2.Organizing my life (เข้ามาใหม่) วางแผนชีวิต จัดตาราง ช่วยจัดการเวลา
3.Finding purpose (เข้ามาใหม่ ) ใช้ AI ค้นหาเป้าหมายชีวิต / สำรวจตัวเอง
4. Enhanced learning เรียนรู้ลึกขึ้น เข้าใจเร็วขึ้น เช่น สอนแบบปรับตามผู้เรียน
5. Generating code (สำหรับมืออาชีพ) เขียนโค้ดเฉพาะทางขั้นสูง
6. Generating ideas คิดไอเดียใหม่ เช่น ชื่อโปรเจกต์ โพสต์ วิดีโอ
7. Fun and nonsense ใช้เล่น ตลก ขำๆ เช่น ให้ AI แต่งกลอนมั่ว
8. Improving code (สำหรับมืออาชีพ) ตรวจ แก้ หรือปรับโค้ดให้ดีขึ้น
9. Creativity ใช้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ เช่น แต่งเพลง ออกแบบภาพ
10. Healthier living ขอคำแนะนำเพื่อชีวิตดีขึ้น เช่น โภชนาการ นอนหลับ ออกกำลัง
จะเห็นว่า 3 อันดับแรกในปี 2025 ล้วนเป็น “เรื่องส่วนตัว” ทั้งหมด ส่วนฟีเจอร์อย่างโค้ด ความคิดสร้างสรรค์ หรือบทเรียนเสริม ก็ยังเติบโต แต่ไม่ใช่ตัวนำ
นอกจากฟีเจอร์ใหญ่ ๆ ยังมีการใช้งาน AI แบบใหม่ ๆ ที่ติดอันดับในปีนี้ เช่น…
📌 อันดับ 32 – ขอคำปรึกษาด้านภาษี
📌 อันดับ 42 – ปรึกษาวิธีเลี้ยงลูก
📌 อันดับ 78 – ซ้อมคุยกับหมอก่อนนัด
📌 อันดับ 86 – หาข้ออ้างเลี่ยงประชุม
📌 อันดับ 89 – ค้นหาศาสนาและความเชื่อ
สิ่งนี้สะท้อนความจริงหนึ่งที่น่าสนใจ คือ คนอยากคุยกับ AI แบบที่คุยกับคนไม่ได้ เพราะ AI ไม่ตัดสิน ไม่เหนื่อย ไม่ตั้งคำถามกลับ
❗แต่ก็ไม่ได้ไร้ข้อกังวล
-แม้ AI จะกลายเป็นที่พึ่งของใจมากขึ้น
-แต่ก็เริ่มมีคำถามเรื่อง “ความเป็นส่วนตัว”
-ผู้ใช้บางคนเริ่มไม่สบายใจที่ AI ลืมสิ่งที่เคยพูดไว้ หรือจดจำบริบทไม่ได้
-ในขณะที่อีกกลุ่มกลับอยากให้ AI “จดจำเราได้เหมือนเพื่อนคนหนึ่ง”
และแน่นอน คำถามคลาสสิกก็กลับมาอีกครั้ง: เราพึ่งพา AI มากเกินไปหรือยัง ?
จากเครื่องมือระดมไอเดีย → สู่ผู้ช่วยทางใจ และ จากโค้ดเฉียบขาด → สู่คำถามว่า “ฉันควรทำอะไรกับชีวิตดี?” AI ไม่ใช่แค่ “คำตอบ” อีกต่อไป — แต่มันเริ่มกลายเป็น “คำถาม” ในตัวมันเอง และนั่นคือจุดที่มันเริ่มมีบทบาท “เหมือนมนุษย์” มากกว่าที่เราคิด