SHORT CUT
Elon Musk อีลอน มัสก์ ย้ำ ให้คำมั่นนั่งเก้าอี้ซีอีโอ Tesla ต่ออีก 5 ปี ฝ่ากระแสต่อต้านทางการเมือง และเตรียมลดการใช้จ่ายทางการเมืองลง!
ในขณะที่ยอดขายรถตก หุ้นผันผวน และกระแสต้านการเมืองแรง Elon Musk ยืนยันชัดจะไม่ทิ้ง Tesla ไปไหน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Elon Musk ซีอีโอของ Tesla ประกาศกลางเวที Qatar Economic Forum ที่กรุงโดฮา ว่าเขาจะยังคงอยู่ในตำแหน่งผู้นำของบริษัทต่อไปอีกอย่างน้อย 5 ปีเต็ม
เบื้องหลังคำมั่นนี้ไม่ใช่แค่เรื่องตำแหน่งหรืออำนาจ แต่คือ “การควบคุมอนาคตของ Tesla” Musk ย้ำว่าเขาต้องการ “สิทธิออกเสียงที่เพียงพอ” เพื่อป้องกันไม่ให้นักลงทุนแนวแอคทิวิสต์เข้ามาปลดเขาออกจากตำแหน่ง
“มันไม่ใช่เรื่องเงิน แต่มันคือความมั่นคงในวิสัยทัศน์ของบริษัท” เขาอธิบาย
คำพูดของ Elon Musk มีขึ้นหลังจากนักลงทุนบางส่วนตั้งคำถามถึงความทุ่มเทของเขา หลังเขาเข้าไปมีบทบาทในรัฐบาลของ Donald Trump ในตำแหน่งที่ปรึกษาด้าน “Government Efficiency” ซึ่งใช้เวลาทำงานไม่น้อยในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม #อีลอนมัสก์ ยืนยันว่าเขาจะลดเวลาที่ใช้ในภาครัฐลง และตั้งเป้าให้เหลือเพียง 1–2 วันต่อสัปดาห์
ไตรมาสแรกของปี 2025 ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีของ Tesla:
• รายได้จากรถยนต์ลดลง 20%
• กำไรสุทธิดิ่งลงถึง 71%
• หุ้นร่วงสะสมกว่า 15% ตั้งแต่ต้นปี
ถึงแม้ตัวเลขจะสั่นคลอนความมั่นใจของนักลงทุน แต่ Musk ยังยืนยันที่จะเดินหน้านำ Tesla ต่อไป
ความสัมพันธ์ของ Elon Musk กับพรรครีพับลิกันและการสนับสนุน โดนัลด์ ทรัมป์ 2.0 กลับมานั่งทำเนียบขาว เริ่มสร้างแรงกระเพื่อม:
• มีการประท้วงต่อตัวเขาและ Tesla
• ลูกค้าบางกลุ่มเปลี่ยนใจ ไม่ซื้อ Tesla
• Tesla บางสาขาถูกโจมตี
เมื่อถูกถามว่าเขารู้สึกอย่างไรกับแรงต้านนี้ Musk ตอบตรง ๆ ว่า “รู้สึกเป็นเรื่องส่วนตัว” และกล่าวว่า “การไม่เห็นด้วยเป็นสิ่งที่รับได้ แต่การใช้ความรุนแรง การเผาหุ่น หรือการขู่ฆ่า—มันเกินไปแล้ว”
อีลอน มัสก์ ยังเสริมว่าในอนาคตจะลดการสนับสนุนทางการเมืองลงอย่างมาก
นอกจาก Tesla แล้ว Elon Musk ยังเป็นผู้นำของ SpaceX เจ้าของ xAI และ Neuralink ซึ่งกำลังพัฒนาเทคโนโลยีสมอง–คอมพิวเตอร์ เขายังพูดถึง Starlink บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม ที่มีแผนจะแยกออกเป็นบริษัทมหาชนในอนาคต
ท่ามกลางแรงกดดันรอบด้าน Musk เลือกยืนหยัดกับ Tesla ต่อไปอีก 5 ปี เพราะสิ่งที่เขาเดิมพัน ไม่ใช่แค่ตำแหน่ง...แต่คืออนาคตของบริษัทที่เขาสร้างขึ้นมาเอง
ที่มา : cnbc
ข่าวที่เกี่ยวข้อง