มือถือ iPhone 6 - ย้อนตำนานไอโฟน ที่ยอดขายดีทะลุโลกมากที่สุด ในประวัติศาสตร์
ย้อนตำนานเรื่องราว ไอโฟน ที่ยอดขายดีทะลุโลก! : โทรศัทพ์ iPhone 6 ขายมากที่สุดในโลก เมื่อปี 2014 หรือเมื่อ 11 ปีที่แล้ว
มือถือ iPhone 17 เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ ในช่วงวันที่ 9 กันยายน 2025 และสร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วทุุกวงการ , นี่คือ มือถือที่สาวก Apple หลายคนอยากทดลองใช้ และมีไว้ในครอบครอง
อย่างไรก็ตาม ในประวัติศาสตร์โลกของเทคโนโลยี แล้ว , โทรศัพท์ ไอโฟน ที่เคยป๊อปปูลาร์ เรื่องยอดขายที่สุด นั่นคือ ย้อนกลับไปเมื่อ 11 ปีที่แล้ว กับ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus
การเปิดตัว iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ในเดือนกันยายนปี 2014 ไม่ใช่แค่การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่คือการสร้าง "ปรากฏการณ์" ครั้งสำคัญที่ส่งแรงสั่นสะเทือนไปทั่ววงการสมาร์ทโฟนและตลาดผู้บริโภคทั่วโลก การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ตอกย้ำถึงพลังของแบรนด์ Apple และความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่รอคอยมานานได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ปรากฏการณ์ที่ชัดเจนที่สุดคือ ตัวเลขยอดขายที่ถล่มทลาย Apple ประกาศว่า iPhone 6 และ 6 Plus ทำยอดขายรวมกันทะลุ 10 ล้านเครื่องภายในเวลาเพียง 3 วันแรก ที่เปิดจำหน่ายในกลุ่มประเทศแรก ซึ่งเป็นสถิติใหม่ที่สูงที่สุดในขณะนั้น และไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น iPhone 6 Series ได้กลายเป็น iPhone รุ่นที่ขายดีที่สุดตลอดกาล โดยมียอดขายรวมกว่า 222 ล้านเครื่องทั่วโลก ซึ่งเป็นตัวเลขที่แม้แต่ iPhone รุ่นใหม่ๆ ก็ยังไม่สามารถทำลายได้ นั่นหมายความนี่คือรุ่นที่ขายดีที่สุดของไอโฟน
ขณะที่ ะที่ ไอโฟน รุ่นที่ขายดี ถัดมา iPhone 5 ที่ออกมาในปี 2012 ซึ่งกวาดยอดขายไปทั่วโลกมากกว่า 70 ล้านเครื่อง , โดยราคาเปิดตัวของ iPhone 6 ในประเทศไทย ณ เวลานั้นอยู่ที่ราวๆ 24,900 บาท (ตุลาคม 2557)
นอกจากนี้ ไอโฟน 6 ยังถูกนำกลับมาวางขายอีกครั้งในปี 2017 ในราคากลาง อีกด้วย
จุดเปลี่ยนสำคัญ: "จอใหญ่" ที่ทุกคนรอคอย
หัวใจของความสำเร็จครั้งนี้คือการที่ Apple ตัดสินใจละทิ้งปรัชญา "สมาร์ทโฟนที่ใช้งานมือเดียว" ของสตีฟ จ็อบส์ ไป และหันมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เรียกร้องหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นมาเป็นเวลานาน การเปิดตัวพร้อมกัน 2 ขนาด คือ 4.7 นิ้ว (iPhone 6) และ 5.5 นิ้ว (iPhone 6 Plus) ถือเป็นการเข้าสู่ตลาด "Phablet" อย่างเป็นทางการและเป็นการประกาศสงครามโดยตรงกับคู่แข่งฝั่ง Android อย่าง Samsung ที่ครองตลาดนี้อยู่ (และจากเดิม iPhone 5 มีขนาดจออยู่ที่ 4 นิ้ว)
สื่อต่างประเทศและนักวิเคราะห์ต่างชี้ตรงกันว่า ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนปรากฏการณ์นี้คือ "ความต้องการที่ถูกอัดอั้น" (Pent-up Demand) จากฐานลูกค้า iPhone เดิมจำนวนมหาศาลที่ต้องการอัปเกรดเครื่องแต่ยังลังเลเพราะขนาดหน้าจอที่ไม่ตอบโจทย์ เมื่อ Apple ปลดล็อกข้อจำกัดนี้ จึงเกิดเป็น "ซูเปอร์ไซเคิล" ของการอัปเกรดครั้งใหญ่
บรรยากาศความคลั่งไคล้และการต่อคิวข้ามคืน
ภาพของแฟน Apple ที่ไปรอต่อคิวข้ามวันข้ามคืนเพื่อเป็นเจ้าของ iPhone 6 เครื่องแรกๆ เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ในประเทศไทย บรรยากาศวันเปิดจำหน่ายเต็มไปด้วยความคึกคักและเป็นข่าวใหญ่ในสื่อทุกสำนัก การได้เป็นเจ้าของ iPhone 6 ไม่ใช่แค่การซื้อมือถือ แต่เป็นเหมือนการได้รับ "สถานะทางสังคม" อย่างหนึ่งในยุคนั้น
"Bendgate": ดราม่าที่ช่วยกระพือกระแส
แม้จะประสบความสำเร็จอย่างงดงาม แต่ iPhone 6 Plus ก็เผชิญกับดราม่าครั้งใหญ่คือปรากฏการณ์ "Bendgate" ที่มีผู้ใช้งานจำนวนหนึ่งพบว่าตัวเครื่องสามารถงอได้เมื่อใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงที่รัดแน่น
ประเด็นนี้กลายเป็นไวรัลและถูกคู่แข่งนำไปล้อเลียนอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม ดราม่าครั้งนี้กลับยิ่งทำให้ iPhone 6 เป็นที่รู้จักและถูกพูดถึงในวงกว้างมากขึ้นไปอีก กลายเป็นบทพิสูจน์ว่าแม้แต่ข่าวในแง่ลบก็ยากที่จะหยุดยั้งกระแสความต้องการที่รุนแรงของผลิตภัณฑ์นี้ได้
โดยสรุป ปรากฏการณ์ iPhone 6 และ 6 Plus เกิดจากการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างการเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ครั้งสำคัญที่ตรงใจผู้บริโภค, พลังของแบรนด์ที่แข็งแกร่ง, และความต้องการที่สะสมมานานของฐานลูกค้าเก่า ทำให้การเปิดตัวครั้งนั้นกลายเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดของ Apple
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
