ผู้บริโภคว่าไง? เมื่อผู้ผลิตมือถือหลายเจ้าเริ่มมีแนวโน้ม “ไม่แถมสายชาร์จ” ให้แล้ว ต้องไปหาซื้อเอาเอง โดยให้เหตุผลว่าเป็นการลดการใช้บรรจุภัณฑ์-ขยะอิเล็กทรอนิกส์
ใครที่ซื้อมือถือใหม่ มาแชร์กันหน่อยว่าได้สายชาร์จด้วยหรือเปล่า แล้วเป็นมือถือจากแบรนด์ใด และคิดเห็นอย่างไรที่บรรดาผู้ผลิตมีแผนจะไม่แถมสายชาร์จมาให้แล้ว ผู้บริโภคต้องเสียเงินเพิ่มไปซื้อสายชาร์จเอง
นี่เรากำลังพูดถึงสายชาร์จนะ ไม่ใช่หัวชาร์จ ตอนนี้หลายแบรนด์เริ่มไม่แถมสายชาร์จมาให้แล้ว เช่น Apple ในรุ่นล่าสุด โดยมือถือรุ่นที่ไม่แถมสายชาร์จไม่ให้แล้วอย่างเป็นทางการก็คือ Sony Xperia 10 VII
แน่นอนว่าจุดเริ่มต้นก็มาจากการที่ Apple ไม่แถมหัวชาร์จมาให้ในกล่อง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเอาเปรียบผู้บริโภค และกำลังเริ่มขยายมายังสายชาร์จ ที่จะไม่แถมให้แล้ว โดยให้เหตุผลว่ามันช่วยให้บรรจุภัณฑ์เล็กลง และสามารถเพิ่มจำนวนในการขนส่งได้ และยังช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้ด้วย
ขณะเดียวกัน ก็ยังช่วยให้บริษัทลดต้นทุนได้หลายสิบล้านเหรียญทั่วโลก ทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสในการขายสายชาร์จ เพื่อเพิ่มรายได้อีกด้วย ซึ่งจุดนี้แหละ ที่ผู้บริโภคไม่พอใจอย่างแรง และดูเหมือนว่าเทรนด์ในลักษณะนี้ไม่ได้อยู่แค่ Apple เพราะแบรนด์อื่นก็เริ่มทำตามแล้ว
แต่ก็แน่ล่ะว่าการไม่แถมสายชาร์จยังไม่ใช่มาตรฐานสากล แต่มันก็มีจุดเริ่มต้นมาแล้วเช่นกรณีของ Sony ซึ่งถือเป็นแบรนด์ที่บุกเบิกการไม่แถมสายชาร์จต่อจาก Apple โดย Sony ให้เหตุผลว่าเพื่อลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ และลดต้นทุนการผลิตแบบเดียวกับ Apple ที่เลิกแถมสายชาร์จใน AirPods รุ่นล่าสุด
และแน่นอนว่าในมุมหนึ่ง การเลิกแถมสายชาร์จเหมือนการโยนภาระกลับไปให้ผู้บริโภค ที่ต้องไปเลือกซื้อสายชาร์จคุณภาพสูงด้วยตัวเอง เนื่องจากว่าสาย USB ไม่ได้มีคุณภาพเท่ากันทั้งหมดในตลาด ซึ่งอันที่ไม่ได้คุณภาพก็จะทำให้การชาร์จช้าลง หรือถึงขั้นอาจทำให้อุปกรณ์ของเราเสียหายได้
แต่ถ้าเทรนด์ของผู้ผลิตเบนเข็มมาทางนี้จริง ๆ เราคงต้องไปซื้อสายชาร์จกันเอง คำถามก็คือว่าเราจะเลือกสายชาร์จ USB อย่างไรให้ปลอดภัย ผู้เชี่ยวชาญแนะนำวิธีง่าย ๆ คือ USB-IF และตรวจสอบค่ากำลังวัตต์ เช่น 60W หรือ 100W เพื่อให้มั่นใจว่าใช้งานได้ปลอดภัยเต็มประสิทธิภาพ
แน่นอนว่าในระยะยาว หัวชาร์จรวมถึงสายชาร์จก็จะหายไปจากกล่องมือถือเราแน่ ๆ ถ้าแนวโน้มออกมาเป็นแบบนี้ ในมุมผู้ผลิต นี่คือการบาลานซ์ระหว่างความยั่งยืน โลจิสติกข์ กำไร แต่แน่นอนว่าข้อถกเถียงเรื่องการโยนภาระให้ผู้บริโภคก็ยังถูกตั้งคำถามต่อไป
ที่มา: androidheadlines
ข่าวที่เกี่ยวข้อง