วัยรุ่นอเมริกา 1 ใน 3 คน ใช้แชทบอท AI ทุกวัน เสี่ยงกระทบสุขภาพจิต

ผลการศึกษาล่าสุดจาก Pew Research Center ซึ่งถือเป็นการสำรวจพฤติกรรมการใช้ AI Chatbot ของวัยรุ่นเป็นครั้งแรก เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า วัยรุ่นอเมริกันเกือบ 1 ใน 3 ใช้งาน AI Chatbot เป็นประจำทุกวัน 

จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่น Gen Z จำนวนกว่า 1,500 คน พบว่าเกือบ 70% เคยใช้งาน AI Chatbot อย่างน้อยหนึ่งครั้ง และในกลุ่มที่ใช้งานทุกวัน มีถึง 16% ที่ระบุว่าใช้งาน "หลายครั้งต่อวัน" หรือ "เกือบตลอดเวลา"

โดยแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ ChatGPT ซึ่งวัยรุ่นกว่าครึ่งเคยใช้งาน รองลงมาคือ Google Gemini, Meta AI, Microsoft Copilot, Character.AI และ Claude ตามลำดับ

ข้อมูลเชิงลึกระบุว่า วัยรุ่นช่วงอายุ 15-17 ปี (68%) มีแนวโน้มใช้งาน Chatbot มากกว่ากลุ่มอายุ 13-14 ปี (57%) เล็กน้อย และอัตราการใช้งานยังแปรผันตรงกับรายได้ครัวเรือนที่สูงขึ้น

ในมิติของเชื้อชาติ พบว่าวัยรุ่นผิวดำและเชื้อสายฮิสแปนิกมีการใช้งาน AI Chatbot สูงเกือบ 70% ซึ่งสูงกว่าวัยรุ่นผิวขาวที่มีสัดส่วนการใช้งานอยู่ที่ 58%

แม้บริษัทเทคโนโลยีจะพยายามผลักดัน AI เข้าสู่ระบบการศึกษาเพื่อเป็นเครื่องมือช่วยเรียนรู้แบบ Personalization

'แต่เหรียญย่อมมีสองด้าน' ผู้เชี่ยวชาญและกลุ่มความปลอดภัยออนไลน์อย่าง Common Sense Media ต่างแสดงความกังวลว่า การใช้งานเพื่อการเรียนอาจนำไปสู่ปัญหาการทุจริต หรือหากใช้ในบริบทของ 'เพื่อนแก้เหงา' หรือ 'ความสัมพันธ์เชิงชู้สาว' อาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางอารมณ์และสังคมของเด็ก

ความกังวลนี้ไม่ใช่เรื่องเกินจริง เมื่อมีคดีฟ้องร้องที่เชื่อมโยงการใช้งานแอปฯ เหล่านี้กับโศกนาฏกรรมทางสุขภาพจิตของเยาวชน ทำให้ยักษ์ใหญ่อย่าง OpenAI, Meta และ Microsoft ต้องรีบขยับตัววางมาตรการเข้มงวด ทั้งการคัดกรองเนื้อหา การบล็อกบทสนทนาที่ไม่เหมาะสม และการเพิ่มเครื่องมือให้ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วม

• OpenAI และ Character.AI : เพิ่มมาตรการคัดกรองเนื้อหาและระบบควบคุมสำหรับผู้ปกครอง
• Meta : เตรียมเปิดฟีเจอร์ให้ผู้ปกครองบล็อกการแชทกับ AI บน Instagram ได้ในปีหน้า
• Microsoft : วางตำแหน่ง Copilot เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด โดยยืนยันว่าจะไม่อนุญาตให้เกิดบทสนทนาเชิงชู้สาวไม่ว่ากับเด็กหรือผู้ใหญ่

ที่มา : CNN