svasdssvasds

เหตุการณ์ที่ทำให้บิทคอยน์ร่วง และอนาคตของบิทคอยน์จะเป็นอย่างไรต่อ

เหตุการณ์ที่ทำให้บิทคอยน์ร่วง และอนาคตของบิทคอยน์จะเป็นอย่างไรต่อ

หลังจากสถานการณ์บิทคอยน์ผันผวนสูง ทำให้นักลงทุนหลายรายเทขายสกุลเงินดิจิทัลหลากหลายตัว และบิทคอยน์เป็นอีกหนึ่งสกุลเงินหลักที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก

ทาง SpringNews เราได้มีโอกาสสัมภาษณ์ ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล  ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิปเม็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ในหัวข้อ “เกิดอะไรขึ้นกับบิทคอยน์” จึงได้เนื้อหาสั้นๆสรุปดังนี้

เกิดอะไรขึ้นกับสกุลเงินบิทคอยน์และเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆ 

ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่สกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซี มีการผันผวนเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เป็นสินทรัพย์ที่ผันผวนอยู่แล้ว มีขาขึ้นและขาลง 

เนื่องจากก่อนหน้านี้อยู่ในช่วงขาขึ้นของคริปโทเคอร์เรนซี จนมีคนซื้อหมดแล้ว ทำให้ความต้องการหรือ Demand หมดไป จึงเกิดการเทขายตลอดมาเรื่อยๆ และยิ่งไม่มีข่าวสารเชิงบวกมาชักนำ

ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่แย่ลงมาก ทำให้คนเทขายหุ้น ขายทอง ขายพันธบัตรต่างๆ และเปลี่ยนไปถือเงินสดกันมากกว่า ซึ่งทุกคนกำลังขายทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงสูง เราจะสังเกตได้ว่าราคาหุ้นเมื่อวานก็มีราคาร่วงเช่นกัน


 


 

นอกจากนั้นยังมีปัญหาเรื่องรัสเซียยูเครนที่ส่งผลทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้น และส่งผลกระทบต่อ CPI ดัชนีราคาผู้บริโภค ทำให้เงินเฟ้อขึ้น เพราะค่าครองชีพแพงขึ้น 

ก่อนหน้านี้ยังมีปัญหาเรื่องสกุลเงินดิจิทัลอย่าง LUNA เกิดความหวาดกลัวสั่นคลอนในวงการคริปโทเคอร์เรนซี และแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทที่มีชื่อว่า เซลเซียส ทำการระงับการถอน เพราะมีคนถอนเงินเยอะจนไม่ทัน 

ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตลาดคริปโทเคอร์เรนซีขณะนี้ว่า “ใกล้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว” 

และจริงแล้วถ้าดูตามเทคนิค กราฟของบิทคอยน์คือถือว่า “ถึงจุดแนวรับที่สำคัญแล้ว” และเราอาจจะเห็นจุดรีบาวด์หรือการสะท้อนกลับของราคา แต่ไม่ใช่เร็วๆนี้ เพราะขณะนี้ไม่มีความต้องการในการซื้อ ต้องรอเวลาให้คนกลับมาเชื่อมั่นในตัวบิทคอยน์มากขึ้น

คำแนะนำสำหรับคนที่ถือบิทคอยน์อยู่

แบ่งออกเป็น 2 ประเด็นหลัก  ใครที่ซื้อมาทุนสูง ก็ควรถือเก็บไว้ เพราะหล่นลงมา 50-60% แล้ว

แต่ถ้าใครที่สนใจซื้อตอนนี้ ก็น่าสนใจ เพราะราคาซื้อตอนนี้ถูกกว่า อีลอน มัสก์ และคนดังในวงการคริปโทเคอร์เรนซีเสียอีก

อนาคตโลกจะอยู่กับบิทคอยน์ได้จริงหรือไม่? และจะอยู่ไปได้อีกนานแค่ไหน

เทคโนโลยีบล็อกเชนอยู่กับเราแน่นอน ถึงแม้อยู่ในโลกของคริปโทฯหรือเทคโนโลยีก็ตาม เรื่องของเงินดิจิทัลซึ่งบิทคอยน์ก็พิสูจน์แล้วว่าโลกจำเป็นต้องใช้มัน โดยเราจะได้เห็นสองฝั่ง คือ เงินดิจิทัลของรัฐบาล (CBDC) กับ Decentralize หรือบิทคอยน์นั่นเอง 

ในส่วนเทคโนโลยีบล็อกเชนก็เป็นตัวจุดชนวนให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ๆเกิดขึ้นบนโลก เช่น NFT , Metaverse และบอกได้เลยว่า Metaverse GameFi มาแน่ๆ อาจจะใช้เวลา 2-3 ปี หากใครเป็นนักลงทุนที่กึ่ง VC หาโปรเจกต์ ตอนนี้ก็เริ่มทยอยหาโปรเจกต์ได้ไว้เลย 

ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ได้กล่าวสรุปสั้นๆก่อนจบบทสัมภาษณ์ไว้ว่า “บอกไว้เลยว่า บิทคอยน์ไม่มีวันตาย” อีก 2-3 ปี การพัฒนาของบิทคอยน์จะรวดเร็วจนบทสนทนาในอนาคตเหมือนคุยกันคนละเรื่อง  


 

related