คุมเข้ม! ผู้ผลิตหน้ากากอนามัย-เจลล้างมือแจ้งข้อมูลก่อนขาย ส่วนปชช.ซื้อได้10ชิ้นต่อคน

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน ประชุมร่วมกับตัวแทนห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก และร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ 14 แห่ง ถึงสถานการณ์การจำหน่ายหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ โดยขอความร่วมมือให้นำสินค้าหน้ากากอนามัยที่มีอยู่ในสต๊อกออกมาจำหน่ายให้เพียงพอ และขอให้มีการจำกัดการซื้อ 10 ชิ้นต่อคน เพื่อแก้ปัญหาคนซื้อปริมาณเยอะเกินจำเป็น

สำหรับวันนี้ กรมการค้าภายใน ออกมาตรการดูแลสินค้าหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ เข้ามาอยู่ในบัญชีสินค้าควบคุม ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้

โดยมาตรการแรก จะให้มีการแจ้งปริมาณ การซื้อ-ขาย รวมถึงสต๊อก และขอให้ผู้ผลิต นำเข้า ตัวแทนจำหน่าย จัดสินค้าหน้ากากอนามัยมายังศูนย์บริการจัดสรรที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อเชื่อมโยงสินค้าไปขายราคายุติธรรมให้กับพื้นที่ที่จำเป็นก่อน เช่น โรงพยาบาล และผู้ให้บริการการท่องเที่ยว รวมถึงใช้ร้านธงฟ้าที่มีอยู่ทั่วประเทศเป็นจุดกระจายสินค้าให้ทั่วถึง ส่วนการจัดสรรของผู้ผลิตแต่ละรายปริมาณเท่าใดนั้น จะพิจารณาจากหลายปัจจัยทั้งการผลิต และคำสั่งซื้อ

ส่วนมาตรการการจำกัดการส่งออกตั้งแต่ 500 ชิ้น ต้องขออนุญาต แม้ว่าจะมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศแล้วก็ตาม เพราะจะให้ความสำคัญกับการใช้ในประเทศเป็นอันดับแรก เพราะปี 2561 ส่งออกเพียง 71 ล้านชิ้น แต่ปี 2562 ส่งออกเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 200 หรือประมาณ 220 ล้านชิ้น เนื่องจากคนเริ่มหันมาดูแลตัวเองจากปัญหาฝุ่นละออง

ส่วนมาตรการราคาจำหน่ายกากอนามัย โดยจะพิจารณาไม่ให้สูงเกินสมควรดูราคาจากอดีตเป็นตัวตั้ง หากประชาชนพบสามารถแจ้งได้ที่ 1569 โดยจะมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วออกตรวจสอบ 10 สายอย่างเข้มงวด ซึ่งตลอด 1 เดือนที่ผ่านมามีการร้องเรียนผ่านสายด่วนมากถึง 1,220 ราย โดยกว่า 700 ราย ร้องเรียนเรื่องหาซื้อสินค้าหน้ากากอนามัยไม่ได้ และราคาแพง

ขณะที่เจลล้างมือ ให้รายงานปริมาณการซื้อ-ขาย และรายงานตัวเลขสต๊อก สถานการณ์ยังไม่จำเป็นจะต้องจำกัดการซื้อ เนื่องจากทางการแพทย์ ระบุว่า สามารถใช้น้ำสะอาด หรือสบู่ล้างได้