โควิดคนตกงานเกลื่อนเมืองนึกอะไรไม่ออกควงมอเตอร์ไซค์คู่ใจส่งเดลิเวอรี่

ห้วงเวลาที่โควิด- 19ระบาดมันกลายเป็นตัวเปลี่ยนหลายๆ อย่างในสังคมจริง ๆ เปลี่ยนความเป็นอยู่ผู้คน เศรษฐกิจ ปากท้อง เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะเรื่องการทำมาหากิน คนตกงาน ว่างงานมากขึ้น คนหาเช้ากันค่ำก็ลำบากลำบนมากขึ้นเช่นกัน ข้อมูลจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เผยว่า ในไตรมาส 4 ปี 2563 มีผู้ว่างงานกว่า 727,000 ราย คิดเป็นอัตราการว่างงาน 1.86% ถือว่ามีแนวโน้มลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่อยู่ที่ 1.90% และช่วงไตรมาส 2 ที่อยู่ที่ 1.95% ทั้งนี้ เฉลี่ยทั้งปี 2563 มีผู้ว่างงานอยู่ที่ราว 650,000 คน หรืออัตราการว่างงาน 1.69% เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่อยู่ที่ 0.98% เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ต้องมีการล็อกดาวน์ประเทศในช่วงที่ผ่านมา

ทั้งนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าในปี 2564 ยังมีปัจจัยเสี่ยงด้านแรงงาน ได้แก่ 1) ความไม่แน่นอนของโควิด-19 ระลอกใหม่ และผลกระทบทางเศรษฐกิจ แม้จะมีวัคซีนป้องกันเข้ามา แต่การกระจายยังล่าช้า 2) สถานการณ์ภัยแล้ง อาจกระทบต่อการเพาะปลูกของเกษตรกรโดยเฉพาะในกลุ่มพืชที่ใช้น้ำมาก และ 3) การขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะกลุ่มทักษะด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล

ในขณะเดียวกันแม้ว่าแบรนด์แม่ต้นสังกัดจะโหมทำโปรชั่นช่วยแบบสุด ๆ แล้วก็ตาม แต่แบรนด์อื่น ๆ ก็อัดโปรโมชั่นสู้ใจแข่งขันกันดุเดือดมากมายอุณหภูมิการแข่งขันปะทุเป็นฟืนเป็นไฟ ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวและความเคลื่อนไหวของธุรกิจเดลิเวอรี่ และคนขับรถส่งเดลิเวอรี่ในวันนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ช่วงโควิดระบาดใหม่ ๆ เห็นว่าบางคนทำรายได้ดีมาก แต่วันนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดแล้ว ! ด้วยเหตุนี้ คนตกงาน ว่างงานเยอะขึ้น จึงทำให้ผู้คนกลุ่มดังกล่าวหันมาทำงานอาชีพอิสระมากขึ้น บางคนเป็นฟรีแลนซ์ในสายงานที่ตัวเองถนัดเพื่อหารายได้มาจูนเจือตัวเอง และครอบครัวในภาวะวิกฤตแบบนี้ แต่ที่เห็นได้เด่นชัดเลย และเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมเลยก็ว่าได้ คือ คนหันมาขับรถ หรือใช้รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจของตัวเองมาส่งของ ส่งคน ส่งอาหาร เดลิเวอรี่ มากขึ้น จะเห็นได้จากภาพตามห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารดัง หรือข้างถนน จะมีพนักงานส่งเดลิเวอรี่แต่ละแบรนด์จอดเรียงรายกันเป็นแนวยาว นั่นคืออีกหนึ่งทางเลือกของพวกเขาที่ต้องมาหารายได้หลังว่างงาน

แต่รู้หรือไม่ว่า? ปัจจุบันมีคนทำแบบนี้มากจนเกินความต้องการของตลาด หรือปริมาณที่ผู้บริโภคจะใช้บริการ ทีมข่าว “สปริง” ได้มีโอกาสร่วมพูดคุยอัพเดทเรื่องนี้กับพนักงานให้บริการขับรถส่งเดลิเวอรี่หลากหลายแบรนด์ ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่า ตอนนี้คนขับรถส่งเดลิเวอรี่เยอะมาก เยอะจนแย่งงานกัน เยอะจนไม่มีที่จะจอดแล้ว ทำให้ได้งานน้อยลงเพราะส่วนแบ่งในตลาดมีเยอะขึ้น จึงทำให้ต้องขยันมากขึ้น และปรับตัวเองส่งให้หลากหลายมากขึ้น ทั้งส่งคนและส่งของเพื่อเพิ่มโอกาสการหารายได้

ในขณะเดียวกันแม้ว่าแบรนด์แม่ต้นสังกัดจะโหมทำโปรชั่นช่วยแบบสุด ๆ แล้วก็ตาม แต่แบรนด์อื่น ๆ ก็อัดโปรโมชั่นสู้ใจแข่งขันกันดุเดือดมากมายอุณหภูมิการแข่งขันปะทุเป็นฟืนเป็นไฟ ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวและความเคลื่อนไหวของธุรกิจเดลิเวอรี่ และคนขับรถส่งเดลิเวอรี่ในวันนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ช่วงโควิดระบาดใหม่ ๆ เห็นว่าบางคนทำรายได้ดีมาก แต่วันนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดแล้ว !