เรารู้อะไรบ้าง ? กับ "โควิด-19" กลายพันธุ์ระบาดที่อังกฤษ
อังกฤษประกาศพบเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ ส่งผลให้อัตราผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ในขณะนี้มีมากกว่า 40 ประเทศที่ห้ามผู้ที่เดินทางมาจากอังกฤษเดินทางเข้าประเทศ
อย่างที่ทราบกันว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โรคโควิด-19 กำลังระบาดทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ และสหราชอาณาจักร หรือ อังกฤษเองก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด จากการเป็นประเทศลำดับที่ 6 ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงที่สุดในโลก
ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานี้ (21 ธ.ค. 63) บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศว่า พบการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเรียกเชื้อตัวดังกล่าวว่า VUI-202012/01 ซึ่งเชื้อนี้ระบาดอย่างรุนแรงในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยที่ความจริงเชื้อนี้เริ่มกลายพันธุ์มาตั้งแต่เดือนช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ เมืองเคนท์ (Kent) และเริ่มแพร่ระบาดเข้าสู่ลอนดอน ในการกลายพันธุ์ดังกล่าวมีผลต่อปลายแหลมของโปรตีนของตัวเชื้อให้มีความสามารถในการยึดเกาะ และแพร่เชื้อได้มากยิ่งขึ้นกว่าที่ผ่านมา
ปัจจุบันพบเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ในหลายพื้นที่แล้วนอกเหนือจากอังกฤษ อาทิ เดนมาร์ก เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ และออสเตรเลีย ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก แม้ประเทศเหล่านี้จะประกาศงดผู้ที่เดินทางมาจากอังกฤษเข้าประเทศ รวมแล้วมากกว่า 40 ประเทศ ทว่าก็ไม่ทันการเสียแล้ว นอกจากนี้ยังพบการกลายพันธุ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเชื้อที่พบในอังกฤษที่แอฟริกาใต้อีกด้วย
เชื้อกลายพันธุ์ มีความสามารถในการคร่าชีวิตมากขึ้นหรือไม่
ไม่เกี่ยว เชื้อไวรัสย่อมมีการพัฒนาสายพันธุ์ หรือ กลายพันธุ์เองอยู่แล้วตามธรรมชาติ และการกลายพันธุ์ในครั้งนี้ เน้นไปที่การพัฒนาความสามารถในการแพร่เชื้อให้ติดได้ง่ายมากยิ่งขึ้น วงกว้างมากขึ้น และเป็นเรื่องปกติอีกเช่นกันเมื่อเชื้อแพร่ได้ง่ายขึ้น ก็จะไปลดความสามารถในการสังหารลง
วัคซีนจะยังคงได้ผลกับเชื้อกลายพันธุ์หรือไม่ ?
ณ ข้อมูลตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ แต่เหล่านักวิชาการคาดการณ์ว่า การกลายพันธุ์ดังกล่าวไม่มีผลต่อการใช้วัคซีนต้าน เพราะยังไม่พบว่าการกลายพันธุ์มีผลในการต่อต้านวัคซีน สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือการผลิตวัคซีนให้เพียงพอต่อความต้องการ เพราะอย่างที่กล่าวไปว่าเชื้อมีความสามารถในการแพร่ที่ไวขึ้น กว้างขึ้น และส่งผลให้วัคซีนอาจขาดตลาดได้
ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนอกจากการใช้วัคซีนแล้ว คงหนีไม่พ้นวิธีการใช้ชีวิตแบบ New Normal ที่ให้ทุกคนเลี่ยงไปจุดที่แออัด เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากตลอดเวลา และล้างมือเป็นประจำ และการใช้แอปพลิเคชั่น "ไทยชนะ" ก็ยังสามารถช่วยให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทำงานได้ง่ายขึ้นในการติดตามโรคว่า เราได้ไปยังพื้นที่เสี่ยงใดมาบ้าง และยืนยันว่าเราไปยังพื้นที่เสี่ยงมาจริง ทำให้เราเข้ารับการตรวจได้ในทันที ไม่ต้องเสียเวลาสอบโรคนาน
