svasdssvasds

5 ไอเดีย นวัตกรรมคนเมือง สู้วิกฤตการแปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

5 ไอเดีย นวัตกรรมคนเมือง สู้วิกฤตการแปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เมื่อปัญหาการแปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คืบคลานสู่คนเมือง นวัตกรรมต้นแบบที่จะเป็นไอเดียให้ประชาการมากกว่า 50 % ของโลก ตั้งต้นรับมือวิกฤตสิ่งแวดล้อม อุณหภูมิสูงขึ้น น้ำท่วมฉับพลัน ในอนาคต

จะมีช่วงเวลาไหนที่วิกฤตด้านปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงเห็นผลกระทบกับมนุษย์ได้ชัดเจนเท่ากับเวลานี้ อุณหภูมิที่สูงขึ้น ทั้งใน ยุโรป เอเชีย และสหรัฐอเมริกาได้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมถึงอุทกภัยฉับพลันในหลายๆ ประเทศ เช่น ปากีสถานถูกน้ำท่วมไปกว่า 1 ใน 3 ของประเทศ ส่งผลกระทบประชาชน 33 ล้านคน ฝนตกมากกว่าค่าเฉลี่ย 784% หรือในเขตเมือง เช่น โซลของเกาหลีใต้ ฝนตกหนักสุดรอบ 80 ปี สำหรับประชากรโลก 56% ที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง ต้องตระหนักและหาแผนการปรับตัวเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นและแรงขึ้นในทุกปี 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตัวอย่าง 5 นวัตกรรมจากประเทศเหล่านี้อาจเป็นต้นแบบให้กับหลายๆ เมืองได้นำไปเป็นไอเดีย หาทางออกให้กับพื้นที่ของตัวเอง ที่มีความแตกต่างกันในเชิงภูมิประเทศ และ ปัญหาที่ไม่เหมือนกันก็ต้องใช้ความเข้าใจ เก็บข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ออกมาเป็นรูปแบบที่เหมาะสมกับเมืองของตัวเอง จะมีอะไรบ้างชวนมาท่องแนวคิดตั้งรับกับปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง

1. อาคารพลังงานสาหร่ายที่เมือง ฮัมบูร์ก
ฟังชื่อแล้วชวนสงสัย เจ้าอาคารที่ว่านี้จะมีหน้าตาอย่างไร อพาร์ตเมนต์แห่งนี้มีชื่อว่า Bio Intelligent Quotient (B.I.Q.) ตั้งอยู่ในเมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี แผงด้านหน้าอาคารคลุมไว้ด้วยสาหร่ายที่จะสร้างพลังงานหมุนเวียนจากชีวมวลและความร้อนจากแสงอาทิตย์ ความร้อนส่วนเกินที่ผลิตใช้หมุนเวียนในตัวอาคารจะสามารถนำมาใช้ทำน้ำร้อนและให้ความร้อนแก่ภายในอาคารได้อีกทาง ทั้งยังเก็บกักไว้ใช้ในโอกาสภายหลัง

หลังจากที่อาคาร B.I.Q. สร้างเสร็จมาแล้วเก้าปี ก็ยังถือว่าเป็นต้นแบบของการใช้พลังงานชีวมวลกับงานด้านสถาปัตยกรรม แต่อย่างไรก็ตามทำให้เห็นว่าสาหร่ายขนาดเล็กเหล่านี้มีประสิทธิภาพและประโยชน์ในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ รีไซเคิลน้ำเสีย และปล่อยออกซิเจน ที่สามารถนำไปต่อยอดสู่การเป็นเมืองสีเขียวในอนาคต

2.รถรางสีเขียว
เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวในเมืองโดยยังสามารถใช้ประโยชน์ในการเป็นขนส่งสาธารณะ ที่สามารถนำพาชาวเมืองจำนวนมากเดินทางระหว่างวัน ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล นอกจากนี้พรรณไม้ต่างๆ ใต้รางจะชะลอการเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ด้วยการดูดซับน้ำฝน ซับแรงและช่วยลดเสียงรบกวน ทั้งยังทำให้ลดอุณหภูมิความร้อนรอบๆ บริเวณลงจนรู้สึกได้ แนวคิดที่นิยมใช้กันใน เมืองต่างๆ ทั่วยุโรป เช่น บอร์กโดซ์ แฟรงก์เฟิร์ต และบาร์เซโลนา

3.ต้นไม้ในปารีส
 หลังจากในปี 2019 ที่ปารีสมีอุณหภูมิไปแตะ 43C จึงเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผู้บริหารเมืองต้องหาทางบรรเทาดีกรีความระอุนี้ลง โดยทางออกที่เลือกนี้อาจไม่ใช่นวัตกรรมสุดว้าว แต่เป็นการปลูกต้นไม้ให้ได้ 160,000 ต้น ภายในฤดูร้อนนี้ จากการค้นพบว่าถนนสายที่ไม่มีต้นไม้อยู่เลยมีอุณหภูมิสูงขึ้นถึง 56C ซึ่งมากกว่าบริเวณที่มีต้นไม้เรียงรายโดยรอบที่มีอุณหภูมิ 28C ถึงสองเท่าตัว 

การลดอุณหภูมิในเมืองลงให้ได้จึงเป็นหนทางแรกเพื่อช่วยชาวเมืองต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

4.อาคารสีขาวของกรีซ
บ้านสีขาว ตามเกาะต่างๆ เช่น ซานโตรินีในกรีซ เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ล้ำแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งวัตถุประสงค์ทั้งในเรื่องของความสวยงาม แต่ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่มนุษย์ค้นพบมาหลายร้อยปีนั้นบอกว่า สีขาวจะสะท้อนกับแสงอาทิตย์ จากการศึกษาล่าสุดของอาคารที่ใช้สีแบเรียมซัลเฟตแสดงให้เห็นว่าสามารถรักษาอุณหภูมิภายให้ต่ำกว่าภายนอกถึง 4.5C มีประโยชน์ทางอ้อมช่วยให้ลดการใช้เครื่องปรับอากาศอีกด้วย

5.การใส่ธรรมชาติสู่อาคาร
จากตัวอย่างของ The Valley ตึกสูงระฟ้าย่านการเงินของอัมสเตอร์ดัม ด้วยการใส่พืช ต้นไม้ และพุ่มไม้จำนวน 13,000 ต้นในส่วนด้านหน้าของอาคาร มีประโยชน์ทั้งการช่วยให้คุณภาพอากาศดีขึ้นส่งผลให้กับผู้อยู่ของผู้อาศัยและช่วยระบายความร้อน เหล่านี้ล้วนเป็นการตั้งหลักการออกแบบที่ดึงเอาธรรมชาติมาเป็นส่วนประกอบกับที่อยู่อาศัยตั้งแต่แนวคิด ซึ่งจะช่วยรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มนุษย์ต้องเผชิญ

ที่มา

earth.org

related