อุณหภูมิมหาสมุทรปี 2022 แตะสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
สัญญาณบ่งชี้โลกยังร้อนไม่หยุด หลังงานวิจัยชิ้นใหม่ชี้ว่า ปี 2022 นอกจากจะเป็นปีที่ร้อนที่สุดแล้ว อุณหภูมิมหาสมุทรก็ร้อนที่สุดด้วยเช่นเดียวกัน ฝันร้ายเริ่มต้นขึ้นแล้ว
ปี 2022 โลกได้ประกาศกร้าวแล้วว่า "2022 เป็นปีที่ร้อนที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยบันทึกมา" และรายงานล่าสุดก็ได้ย้ำเตือนเพิ่มเติมด้วยว่า ปี 2022 มหาสมุทรก็ร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีบันทึกมาเหมือนกัน
การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของมหาสมุทร มหาสมุทรทั่วโลกทำหน้าที่ในการดูดซับความร้อนส่วนเกินและส่วนใหญ่จากการปล่อยคาร์บอนของมนุษย์ ที่นอกจากจะทำให้โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นแล้ว ยังทำให้มหาสมุทรมีอุณหภูมิสูงขึ้นด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-
IUCN เผยงานวิจัยใหม่ สัตว์ในทะเลกว่า 10% กำลังเสี่ยงสูญพันธุ์แล้ว
-
Climate Change กระทบคน 23 ล้าน อากาศเย็นซัดอินเดีย รถไฟ เที่ยวบินล่าช้า
-
ออสเตรเลีย เจอน้ำท่วมหนักในรอบ 100 ปี จากพายุหมุนไซโคลนเขตร้อนเอลลี
-
อังกฤษ ต้อง เจอสภาพอากาศร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในปี 2022
อุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้น สัมพันธ์กับความไม่แน่นอนของชั้นบรรยากาศและก่อกำเนิดให้สภาพอากาศรุนแรง เช่น พายุ ปริมาณความร้อนในมหาสมุทรสูงกว่าระดับของปี 2021 ประมาณ 10 เซตตะ จูล (Zetta Joules) เทียบเท่ากับการผลิตไฟฟ้า 100 เท่าทั่วโลก
ไมเคิล แมนน์ (Michael Mann) ผู้เขียนร่วม ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียกล่าวว่า “มหาสมุทรกำลังดูดซับความร้อนจากการปล่อยคาร์บอนของมนุษย์ จนกว่าเราจะสามารถปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ได้ ความร้อนจะยังคงดำเนินต่อไป และทำลายสถิติความร้อนในมหาสมุทรเรื่อย ๆ นเดียวกับที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา”
เรื่องนี้จะเป็นฝันร้ายของสัตว์ทะเล
นักวิทยาศาสตร์ 24 คนจาก 16 สถาบันทั่วโลก ได้ร่วมเขียนงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Advances in Atmospheric Sciences และได้เตือนว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้นก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อเสถียรภาพของมหาสมุทรเร็วกว่าที่เคยคิดไว้ นอกจากนี้ยังพบข้อบ่งชี้อื่น ๆ ที่กำลังชี้ทางให้เรารู้ว่า สุขภาพของมหาสมุทรกำลังย่ำแย่
อุณหภูมิของน้ำในมหาสมุทรที่เพิ่มขึ้น ก็ทำให้ความเค็มของมหาสมุทรสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นเดียวกัน และจะส่งผลโดยตรงต่อกระบวนการแบ่งชั้นของน้ำทะเล โดยจะทำให้พวกมันแยกจากกันและไม่ปะปนกันอีกต่อไป
สิ่งนี้เองจะส่งผลเป็นวงกว้างต่อการแลกเปลี่ยนความร้อน ออกซิเจน และคาร์บอนระหว่างมหาสมุทรกับชั้นบรรยากาศ และอาจส่งผลให้เราสูญเสียออกซิเจนในมหาสมุทรด้วย และหากมหาสมุทรไม่มีออกซิเจนก็เปรียบเสมือนว่าสถานที่แห่งนี้ได้ผันเปลี่ยนเป็นขุมนรกสำหรับสัตว์น้ำนั่นเอง
นอกจากการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำแล้วยังส่งผลกระทบต่อมนุษย์และระบบนิเวศบนบกด้วย เพราะปี 2022 เราได้ประสบพบเห็นสัญญาณไปแล้ว กับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะปากีสถานที่เผชิญกับอุทกภัยรุนแรงจนทำให้คนไร้บ้านหลายล้านราย
และก็มีสัญญาณบ่งชี้อีกมากมายที่กำลังนำเราไปสู่การสูญพันธุ์ครั้งที่ 6 ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของสัตว์สูญพันธุ์เท่านั้นแล้ว แต่มนุษย์จะสูญพันธุ์ตามไปด้วย การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เชื่อมโยงกัน ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อห่วงโซ่อาหารของกันและกัน ดังนั้นสิ่งที่จะช่วยได้ตอนนี้คือช่วยกันเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติและช่วยกันลดกิจกรรมที่ปล่อยคาร์บอนให้ได้มากที่สุดในชีวิตประจำวัน
ที่มาข้อมูล
