
เปิดตัวเลขปริมาณ แร่แรร์เอิร์ธ (แร่หายาก) ของไทย มีอยู่เท่าใด และรายชื่อประเทศครอง 'แร่หายาก' มากที่สุด ณ ปัจจุบัน
ปริมาณสำรองและอันดับโลก
จากข้อมูลของสำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (USGS) ปี 2567 ระบุว่า ประเทศไทยมีทรัพยากรแร่หายากสำรองประมาณ 4,500 ตันของ Rare Earth Oxides (REO) ซึ่งจัดอยู่ในอันดับที่ 12 ของโลกในแง่ของปริมาณสำรองที่ประเมินได้ ซึ่งแม้จะเทียบไม่ได้กับประเทศอันดับหนึ่งอย่าง จีน ที่มีสำรองสูงถึง 44 ล้านตัน REO แต่ก็สะท้อนถึงศักยภาพทางธรณีวิทยาที่ไม่อาจมองข้าม
ประเทศที่มีแหล่งแร่หายากสำรองมากที่สุดในโลก (ข้อมูลปี 2024) ในหน่วย ตันของ Rare Earth Oxides หรือ REO
ข้อมูลนี้รวมแร่กลุ่มแลนทาไนด์ (Lanthanides) และอิทเทรียม (Yttrium) แต่ไม่รวมสแกนเดียม (Scandium)
ในประเทศไทย แร่หายากมักพบเป็นผลพลอยได้ (By-product) ในบริเวณแหล่งแร่ดีบุกและทังสเตน ซึ่งเคยเป็นสินค้าส่งออกสำคัญในอดีต แหล่งแร่เหล่านี้มักพบในรูปของแร่หลักสองชนิด ได้แก่:
โมนาไซต์ (Monazite): มีองค์ประกอบของธาตุหายากสำคัญ เช่น ซีเรียม (Cerium), แลนทานัม (Lanthanum), อิตเทรียม (Yttrium) รวมถึงธาตุกัมมันตรังสีอย่าง ทอเรียม (Thorium) แร่ชนิดนี้พบปะปนอยู่ในแหล่งลานแร่ดีบุกเกือบทุกแห่ง โดยเฉพาะในภาคใต้ตามแนวหินแกรนิต เช่น จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และพังงา
ซีโนไทม์ (Xenotime): เป็นแหล่งสำคัญของธาตุ อิตเทรียม (Yttrium) นอกจากนี้ยังพบ เออร์เบียม (Erbium), ซีเรียม (Ce), แลนทานัม (La) และ สแคนเดียม (Sc) พบในแหล่งลานแร่ดีบุกในหลายพื้นที่ ตั้งแต่เชียงใหม่ลงไปถึงภาคใต้
ไทยมีแร่หายากกลุ่มแลนทาไนด์และอิตเทรียมเป็นหลัก ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการผลิต แม่เหล็กถาวรประสิทธิภาพสูง ที่จำเป็นสำหรับมอเตอร์ในรถยนต์ไฟฟ้าและกังหันลม
แม้จะมีสำรองในปริมาณไม่สูงนัก แต่บทบาทของไทยในห่วงโซ่การผลิตแร่หายากกำลังเปลี่ยนไป จากข้อมูลของ USGS ระบุว่า ในปี 2567 ปริมาณการผลิตแร่หายากของไทยได้พุ่งสูงขึ้นถึง 13,000 ตัน REO ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดเป็นอันดับ 4 ของโลก เทียบเท่ากับไนจีเรียและออสเตรเลีย ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการเติบโตของอุตสาหกรรมการแปรรูปและผลิตแม่เหล็ก
บริษัทอย่าง Neo Magnequench ได้ตั้งโรงงานในจังหวัดนครราชสีมา โดยเป็นฐานการผลิตผงแม่เหล็กนีโอดิเมียม-ไอรอน-โบรอน (NdFeB) ที่สำคัญแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โรงงานนี้ผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับมอเตอร์ขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง โดยใช้แร่ดิบที่นำเข้าจากต่างประเทศ
การมีฐานผลิตสำคัญนี้ ประกอบกับการเข้ามาลงทุนของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า เช่น BYD ทำให้ไทยเกิด "อุปสงค์ภายในประเทศ" สำหรับวัสดุแม่เหล็กและแร่หายากเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ส่งผลให้ไทยขยับสถานะจากประเทศที่มีศักยภาพสำรวจ ไปสู่ ผู้ผลิตระดับกลางของโลก ในส่วนของการแปรรูปผลิตภัณฑ์ปลายน้ำที่มีมูลค่าเพิ่ม
ความต้องการแร่หายากที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกนั้นแลกมาด้วยต้นทุนทางสิ่งแวดล้อมที่รุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาร์ ที่กำลังส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย
เหมืองแร่หายากในรัฐฉานของเมียนมาร์มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยใช้วิธี "ชะละลายแร่ (In-situ Leaching)" ซึ่งเป็นการฉีดสารเคมี เช่น กรดซัลฟูริกลงใต้ดินเพื่อสกัดแร่ การทำเหมืองที่ไร้การควบคุมนี้ทำให้สารพิษโดยเฉพาะ สารหนู ไหลลงสู่แม่น้ำกกและแม่น้ำสาย ซึ่งเป็นลำน้ำที่ไหลเข้าสู่ภาคเหนือของไทย
ภัยคุกคามข้ามพรมแดน: สำนักงานควบคุมมลพิษที่เชียงใหม่ตรวจพบ สารหนูในน้ำเกินกว่ามาตรฐานความปลอดภัย อย่างต่อเนื่อง สะท้อนว่ามลพิษจากเหมืองแร่หายากในพื้นที่ความขัดแย้งของเมียนมาร์ได้กลายเป็น วิกฤตมลพิษข้ามพรมแดน ที่คุกคามสุขภาพประชาชนและระบบนิเวศในภาคเหนือของไทย
ทางเลือกที่จำกัดของไทย: แม้ไทยจะมีศักยภาพแร่หายาก แต่กฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดและข้อจำกัดไม่ให้มีการทำเหมืองในพื้นที่ต้นน้ำ ทำให้ไทยจำกัดบทบาทอยู่ในขั้นสำรวจและแปรรูปมากกว่าการทำเหมืองเชิงพาณิชย์ ซึ่งสะท้อนความตระหนักถึงความเสี่ยงที่ต้นทุนทางสิ่งแวดล้อมจากการขุดแร่ในอดีตของประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น จีน ได้สร้างหายนะให้กับชุมชนในระยะยาว
การเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานแร่หายากของไทยจึงต้องดำเนินควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบ การรีไซเคิลแร่หายาก และการกำหนดมาตรฐานการแปรรูปที่เข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าการสร้างความมั่งคั่งทางเทคโนโลยีจะไม่นำมาซึ่งหนี้สินทางสิ่งแวดล้อมในอนาคต
ที่มา : usgs.gov bangkokbiznews
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คาซัคสถานค้นพบแรร์เอิร์ธหรือแร่หายาก 1 ล้านตันใหญ่สุดในประเทศ