SHORT CUT
ลั่นเร่งผลักดัน พ.ร.บ. อากาศสะอาด อย่างโปร่งใส ไม่เอื้อประโยชน์‘นายทุน’ ประโยชน์สูงสุดคือ ‘ประชาชน’
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เข้าปฏิบัติหน้าที่วันแรก ลั่นเร่งผลักดัน พ.ร.บ. อากาศสะอาด อย่างโปร่งใส ไม่เอื้อประโยชน์‘นายทุน’ ประโยชน์สูงสุดคือ ‘ประชาชน’
เพราะ…เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของไทย และปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่รอช้าไม่ได้แล้ว เพราะนับวันยิ่งทวีความรุนแรงจึงทำให้หลายฝ่ายต้องเร่งแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน อย่างล่าสุด สดๆร้อนๆ นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เข้าปฏิบัติหน้าที่วันแรก ณ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมแถลงข่าว "ทิศทางการดำเนินงานด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม" ว่า ระยะเวลา 4 เดือนของรัฐบาลใหม่ จะเร่งทำงานในหลากหลายมิติ ดังนี้
นโยบายที่ 1 การป้องกันและแก้ไขภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ประเด็นนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ใกล้ตัวเรามากขึ้นทุกวันยอมรับว่าสภาพอากาศทุกวันนี้เปลี่ยนไปมาก ฝนตกหนักขึ้นจนเกินกว่าที่ดินจะรับไหว นโยบายเร่งด่วนจึงมุ่งเน้นไปที่
• ยกระดับระบบเตือนภัย ระบบการเตือนภัยของเราต้องทันสมัยและเป็นสากล เพื่อให้ประชาชนและทั่วโลกได้รับทราบข้อมูลอย่างรวดเร็ว ซึ่งนี่คือหัวใจสำคัญของการลดความสูญเสีย
• รับมืออุทกภัยและดินถล่ม จากการยอมรับว่าปริมาณน้ำฝนที่มากขึ้นเป็นสาเหตุของอุทกภัยและทำให้ดินตามหน้าผาหรือภูเขารับน้ำไม่ไหว กระทรวงทรัพยากรฯ จะเข้ามาเป็นแม่งานในการศึกษาและวางมาตรการเพื่อทำให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยมีความปลอดภัยสูงสุด
นโยบายที่ 2 การจัดการมลพิษ PM2.5 และมลพิษข้ามแดน
นี่คือวาระแห่งชาติที่ทุกคนรอคอยการแก้ไขอย่างจริงจัง โดยท่านนายกรัฐมนตรีประกาศชัดเจนว่าจะ ยกระดับการแก้ปัญหา ทั้งเรื่อง PM2.5 , หมอกควัน , ไฟป่า และโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหามลพิษข้ามแดนโดยมีแนวทางที่น่าสนใจและเป็นรูปธรรม เช่น การบูรณาการข้ามกระทรวงจะไม่มีการทำงานแบบต่างคนต่างทำอีกต่อไป โดยจะประสานความร่วมมือกับ กระทรวงมหาดไทย , กระทรวงการต่างประเทศ และที่สำคัญคือ กระทรวงพาณิชย์
นอกจากนี้นจะใช้มาตรการทางการค้าเข้ามาควบคุม ยกตัวอย่างข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน หากพบว่าผลผลิตเหล่านั้นมาจากการเผาก็จะขอความร่วมมือจากกระทรวงพาณิชย์ในการกำหนดเงื่อนไขการนำเข้าสินค้าเพื่อกดดันให้ต้นทางลดการเผา ซึ่งเป็นแนวทางที่แก้ปัญหาที่ต้นตอโดยตรง อีกทั้งจะบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง บังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่และไม่มีการยกเว้น ในเรื่องการป้องกันไฟป่าและหมอกควันต่างๆ หากข้าราชการคนใดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก็จะต้องถูกปรับเปลี่ยนเอาคนที่เหมาะสมเข้ามาทำแทน
และจะป้องกันการทุจริตและรักษาป่ามีการเน้นย้ำอย่างเด็ดขาดว่า ห้ามข้าราชการเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการตัดไม้ทำลายป่าหรือการบุกรุกที่ดินของรัฐ โดยชี้ว่าความรับผิดชอบต่อหน้าที่นั้นสำคัญสูงสุด และหากมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นในกระทรวงฯ ท่านก็พร้อมจะจัดการอย่างเด็ดขาด
นโยบายที่ 3 บริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติเพื่อประชาชน
นโยบายนี้เป็นการวางกรอบการทำงานโดยรวม โดยจะน้อมนำแนวทางพระราชดำริมาเป็นหลักในการดำเนินงาน ครอบคลุมทั้งเรื่องป่าไม้ ที่ดิน และทรัพยากรทางทะเล
• คนอยู่กับป่า สัตว์ป่าอยู่ได้เป็นแนวคิดหลักในการสร้างความสมดุล
• นำเทคโนโลยี Digital และ AI มาใช้เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานให้ทันโลกยุคใหม่
นโยบายที่ 4 ส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
โดยอุทยานแห่งชาติคือแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งรายได้ที่สำคัญของประเทศ แต่นโยบายจะมุ่งเน้นความยั่งยืนเป็นหลักรักษาสมดุลระหว่างท่องเที่ยวและอนุรักษ์แม้การท่องเที่ยวจะสร้างรายได้ให้ประเทศอย่างรวดเร็ว แต่ภารกิจที่สำคัญที่สุดคือการรักษาผืนป่าและอุทยาน พร้อมยึดมั่นในกรอบเวลาเปิด-ปิดอุทยานจะมีการควบคุมช่วงเวลาที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชมอย่างเข้มงวด เพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัว
นโยบายที่ 5 เพิ่มประสิทธิภาพการบริการประชาชนด้วยเทคโนโลยี
ทั้งนี้เพื่อให้การทำงานของกระทรวงฯ รวดเร็วและเข้าถึงง่ายขึ้นจะใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเพิ่มความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและบริการประชาชนประชาสัมพันธ์เชิงรุกจะใช้โซเชียลมีเดียในการเผยแพร่ความสวยงามของทรัพยากรธรรมชาติไทย เช่น อุทยานต่างๆ ที่มีความพิเศษ ให้คนทั่วโลกได้รู้จักและอยากมาเยือน พร้อมเป็นเจ้าบ้านที่ดีเจ้าหน้าที่ในพื้นที่อุทยานต่างๆ ต้องให้บริการนักท่องเที่ยวด้วยไมตรีจิต โดยเน้นเรื่องความปลอดภัยและการใช้กิริยาที่เหมาะสม
นอกจากนี้ยังเปิดกว้างรับฟังข้อมูลจากทุกภาคส่วน ทั้ง NGO นักวิชาการ และภาคประชาชน โดยพร้อมนำข้อเสนอแนะที่สามารถปฏิบัติได้จริงและไม่ขัดต่อกฎหมายมาปรับใช้ นับเป็นทิศทางที่น่าสนใจและต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดครับว่าภายใน 4 เดือนนี้ เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมอะไรบ้าง
อย่างไรก็ตามที่สำคัญที่สุดคือการผลักดันกฎหมายสำคัญ พ.ร.บ. อากาศสะอาด) อย่างโปร่งใส โดยเรื่องกฎหมายอากาศสะอาดเป็นสิ่งที่หลายคนจับตา ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีได้ให้แนวทางที่ชัดเจนไว้ดังนี้
• ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง หลักการสำคัญที่สุดคือกฎหมายจะต้องเกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน ไม่ใช่กลุ่มทุนใดกลุ่มทุนหนึ่ง
• บทบาทของกระทรวงฯ กระทรวงฯจะทำหน้าที่เป็นผู้ให้ข้อมูลที่รอบด้านแก่สภาผู้แทนราษฎร โดยจะชี้ให้เห็นข้อดีข้อเสีย หรือเหรียญสองด้านของประเด็นต่างๆ เพื่อให้ สส. ทั้ง 500 ท่านใช้ประกอบการตัดสินใจ
• เคารพกระบวนการนิติบัญญัติ การตัดสินใจสุดท้ายขึ้นอยู่กับเสียงของ สส. ในสภา ซึ่งกระทรวงฯ จะไม่เข้าไปก้าวก่ายแต่จะสนับสนุนข้อมูลให้ดีที่สุด
กล่าวโดยสรุปคือ พ.ร.บ. อากาศสะอาด รัฐบาลใหม่จะเน้นหัวใจหลักจะอยู่ที่ผลประโยชน์ของประชาชน โดยกระทรวงฯ จะทำหน้าที่ให้ข้อมูลอย่างโปร่งใสและรอบด้าน เพื่อให้กระบวนการในสภาเป็นไปอย่างมีคุณภาพที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้ตั้งอยู่บนหลักการทำงานที่รับฟังเสียงจากประชาชนเป็นสำคัญ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สรุปให้ พ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ เจอเกมนับองค์ประชุม สภาล่ม เตรียมถกใหม่
การเดินทางอันแสนยาวนานของ กฎหมายอากาศสะอาด หวังคืนอากาศบริสุทธิ์