สภาล่ม! พ.ร.บ.อากาศสะอาด สะดุด ขาดสมาชิกเพียง 1 เสียง การพิจารณาถูกเลื่อนออกไป ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่าง พรรคประชาชน และ พรรคเพื่อไทย ว่าด้วยความรับผิดชอบต่อองค์ประชุม
“วันนี้ผมขอให้ทุกฝ่ายไม่โทษกันแล้วครับ”
นี่คือคำกล่าวของนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดฯ ที่โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กช่วงกลางดึกหลังที่ประชุมล่ม และร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ ต้องเลื่อนไปพิจารณาในการประชุมครั้งหน้า
วานนี้ (25 ก.ย. 2568) ที่ประชุมรัฐสภามีนัดพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. ... ในวาระที่ 2 แต่มีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้น ทำให้การพิจารณาดำเนินไปอย่างเชื่องช้า
ตั้งแต่เวลา 11.30 น. มาจนถึง 15.45 น. ระหว่างนั้นที่ประชุมรัฐสภาพยายามประครององค์ประชุมเกินกึ่งหนึ่งมาได้อย่างทุลักทุเล โดยเวลาส่วนมากหมดไปกับการแสดงตนของสมาชิกรัฐสภา และในการลงมติในแต่ละมาตราของร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ มีสส.แสดงตนเป็นองค์ประชุมเกินมาเพียง 2-3เสียงเท่านั้น
จนกระทั่งถึงงมาตรา 16 ที่ต้องรอองค์ประชุมเกือบ 10 นาที ทำให้สส.พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชนไม่พอใจ เพราะมีแต่สส.พรรคประชาชน พรรคภูมิใจไทยเป็นองค์ประชุม แต่ไม่มีสส.พรรคเพื่อไทยเป็นองค์ประชุม
ต่อมานายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 สั่งพักประชุม 40 นาที เมื่อกลับมาประชุมใหม่ นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ขอให้พักพิจารณาร่างพ.ร.บ.บริหารจัดการอากาศสะอาด เลื่อนไปประชุมสัปดาห์หน้า เพื่อให้ที่ประชุมหารือปัญหาเร่งด่วน ถนนสามเสนยุบตัวเป็นหลุมลึก
และแน่นอนว่า สส.พรรคประชาชนไม่เห็นด้วย และขอให้ที่ประชุมเดินหน้าพิจารณากฎหมายฉบับนี้ต่อ ระหว่างนั้น เกิดการโต้เถียงกันไปมาระหว่างสมาชิกรัฐสภาในประเด็นว่าควรหยิบอะไรมาพิจารณาก่อนระหว่างพ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ หรือถนนสามเสนยุบตัว
นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.พรรคประชาชน และในฐานะ กมธ.อากาศสะอาศ กล่าวว่า “ขอฝากไปยัง ประธาน กมธ. ที่ทำงานหนักมากับพวกเราทุกคน ตลอด 1 ปี 8 เดือน ผ่านทางประธานสภาฯ ว่าท่านสามารถที่จะบอกกับพรรคเพื่อไทยได้ไหมครับ ให้เข้าประชุม คือตอนนี้ปัญหาไม่ใช่ว่าการอภิปรายร่างฯ นี้ใช้เวลานาน แต่ว่าแต่ละมาตราจับเวลา ไม่มีการอภิปรายใด ๆ ใช้เวลาแสดงตน 3-8 นาที ต่อมาตรา”
ต่อมา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.พรรคเพื่อไทย กล่าวตอบโต้ว่า ตนอยู่มาตั้งแต่เมื่อวาน พยายามจะเอาให้สุด ให้กฎหมายผ่าน เพราะเป็นกฎหมายที่มีความสำคัญต่อพี่น้องประชาชน วันนี้ก็นั่งอยู่ที่นี่ และกดให้ทุกครั้ง จึงต้องมองว่าเรามีความอดทน ให้ทุกคนช่วยกันกดเท่าที่ทำได้ เพื่อให้กฎหมายฉบับนี้ผ่าน
ผู้ที่ขึ้นพูดคนถัดมาคือ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน โดยระบุว่า กฎหมายฉบับนี้เสนอมา 7 ร่าง ซึ่งร่างนี้เป็นการรวมกันทั้ง 7 ร่างจนเกิดเป็นร่างใหม่ ที่ลงนามโดย อดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน พรรคเพื่อไทยโดย จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์
“ลุกขึ้นมาพูดสิครับ ว่านี่เป็นการแบกองค์ประชุมของรัฐบาล ลุกขึ้นมาพูดสิครับ เอาให้ชัด ๆ ให้ประชาชนรู้ไปเลย ว่าพรรคเพื่อไทยไม่รับผิดชอบ พ.ร.บ.อากาศสะอาด อีกแล้ว ผมจะไปคุยกับพรรคอื่นให้มาเป็นองค์ประชุมให้เองครับ”
เวลาล่วงเลยไปถึง 15.45 น. เมื่อที่ประชุมพิจารณาถึงมาตรา 22 และพบว่ามี สส. ร่วมลงมติด้วยการกดบัตร 245 คน และขานการลงคะแนน 1 คน ผลคือ เห็นด้วย 245 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง เป็นอันว่าไม่ครบองค์ประชุม ทำให้ “ฉลาด ขามช่วง” รองประธานสภาฯ คนที่สอง ต้องปิดการประชุมทันที
ในช่วงกลางดึกของวันที่ 25 ก.ย. 2568 นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดฯ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กชี้แจงหลังสภาล่มไม่เป็นท่า โดยระบุว่า “ผมขอเรียนว่า การพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ เป็นของพวกเราคนไทยทุกคน ร่างนี้มาจาก 5 ร่างพรรคการเมือง 1 ร่าง ครม. และ1 ร่าง จากภาคประชาชน 22,000 กว่ารายชื่อ”
“ในฐานะอดีต สส.เชียงใหม่ และผลักดันเรื่องนี้มายาวนาน ผมมีความหวังว่าเราจะต้องผ่านกฎหมายฉบับนี้ให้ได้ ตั้งแต่เป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้ติดตามการเข้าวาระ 1 ของทุกร่าง และในฐานะประธาน กมธ. ก็ได้ร่วมพิจารณาและเห็นความตั้งใจของกรรมาธิการ ที่ปรึกษากรรมาธิการ และผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เกี่ยวข้องทุกท่านที่ กมธ.เราเชิญมา”
“วันนี้ผมขอให้ทุกฝ่ายไม่โทษกันแล้วครับ ไม่ว่าจะฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้น ฝ่ายค้ำ ที่แต่ละท่านจะเรียก เพราะทุกท่านคือตัวแทนพี่น้องประชาชน แต่ผมขอให้สัปดาห์หน้าทุกท่านจากทุกพรรคมาช่วยสร้างหน้าประวัติศาสตร์ ผลักดันกฎหมาย พ.ร.บ.อากาศสะอาด ไปด้วยกันเพื่อพี่น้องคนไทยได้มีอากาศบริสุทธิ์ไว้หายใจครับ”
(25 ก.ย.68) นางสาวขัตติยา สวัสดิผล ส.ส. บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ชี้แจงถึงกรณีสภาล่ม ระหว่างพิจารณาร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ที่ถูกระบุว่า เป็นเพราะ สส.พรรคเพื่อไทยไม่เข้าร่วมโหวตร่างกฎหมายดังกล่าว พร้อมแนบเอกสารรายชื่อการลงมติของ สส.พรรคร่วมรัฐบาล ว่า หน้าที่ในการรักษาองค์ประชุม เป็นหน้าที่ของรัฐบาลและคู่สัญญาใน ‘MOA ส้ม/น้ำเงิน’
จริงอยู่ที่ประธาน กมธ.ร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด มาจากพรรคเพื่อไทย แต่ร่างที่ใช้พิจารณามาจาก “ทุกพรรคการเมือง” และกรรมาธิการที่นั่งในคณะ “มาจากทุกพรรคการเมืองและภาคประชาชน” ดังนั้น ทุกพรรคการเมืองควรจริงจังค่ะ
อย่างไรก็ดี อยู่ประชุมมาทั้งวัน องค์ประชุมไม่ล่มค่ะ ในระหว่างที่พิจารณา มี สส.จากพรรคเพื่อไทย ได้เสนอวาระเร่งด่วน ขอขยับเอาเรื่องถนนยุบขึ้นมาพูดคุยกัน และเมื่อพูดคุยกันเสร็จจะเอาเรื่องอากาศสะอาดมาคุยกันต่อ
เรื่องถนนยุบ…ก็ได้มีการพูดถึงบริษัท ชิโน-ไทย อย่างหนาหู ว่า ควรมีส่วนรับผิดชอบหรือไม่
จึงอยากตั้งข้อสังเกตว่า…ในเมื่อองค์ประชุมขาดไป 1 เสียง ใครกันแน่ที่ทำองค์ประชุมล่ม ทั้งๆ ที่อยู่ในสภา แต่กลับไม่ลงมติ (ตามรูปแนบเลยค่ะ)
ใจคอจะยอม “ล่ม” เพื่อ “เลี่ยง” แล้วป้ายสีพรรคเพื่อไทย แบบนี้ “ไม่น่ารักเลย”
อยู่มาทั้งวันองค์ประชุมไม่ล่ม เป็นเพราะข้อเสนอของ สส.เพื่อไทย ให้สภาพูดคุยกันประเด็นดินถล่มหรือเปล่าคะ ที่ทำให้องค์ประชุมล่ม
"ผมขอเรียนว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ ไม่ใช่ของเพื่อไทยเพียงพรรคเดียว แต่เป็นร่างของทุกพรรคการเมืองที่เสนอร่วมกันครับ
"คงจะทราบดีนะครับ ว่าการรักษาองค์ประชุมต้องเป็นหน้าที่ของฝ่ายรัฐบาล ไม่ใช่ฝ่ายค้าน ทำไมตอนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ สส. หลายท่าน พร้อมใจกันขานชื่อคุณอนุทิน ชาญวีรกูล ถึงมี 311 เสียง แต่วันนี้มันหายไปไหนหมดครับ ถ้าฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้ำอยู่กันครบจริง จะมาถามหาพรรคเพื่อไทยทำไม
"พรรคเพื่อไทยยืนยันว่า เราไม่ได้ทอดทิ้งกฎหมายฉบับนี้ หรือไม่อยากให้ พ.ร.บ. อากาศสะอาดฯ เดินหน้า แต่ความจริงคือ เมื่อเข้าสู่ช่วงโหวตลงมติสุดท้าย มี สส.จำนวนหนึ่งอยู่นอกห้อง ไม่เข้ามาเป็นองค์ประชุม
"จึงอดสงสัยไม่ได้ว่า เพราะสภาฯ มีมติร่วมกันแล้ว ว่าจะเลื่อนร่างกฎหมายฉบับนี้ไปสัปดาห์หน้า เพื่อเปิดทางให้หารือปัญหาเร่งด่วนของประชาชน คือเรื่องถนนสามเสนทรุดตัว ที่มีความเชื่อมโยงกับบริษัทที่เกี่ยวโยงกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่
"ดังนั้น ผมในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า เราทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในฐานะผู้รักษาองค์ประชุมและพร้อมทำงานในสภาฯ เพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชนเสมอครับ
นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก กล่าวกรณีสภาฯ ล่มเสียงไม่พอโหวต ร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด โดยระบุว่า “อากาศสะอาดไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่คือเรื่องลมหายใจประชาชนที่ทุกพรรคต้องร่วมมือกัน”
“มาดูกันว่าใครเห็นความสำคัญของปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 กับการโหวตกฎหมายอากาศสะอาด ที่จะเป็นหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่จะแก้ปัญหานี้กันจริง ๆ บ้าง ทุกพรรคขึ้นเวทีดีเบตเรื่องนี้ ทุกพรรคบอกว่านี่คือเรื่องสำคัญ แต่แค่มาทำงานเข้าประชุมสภาเสียบบัตรกดลงมติโหวตยังไม่ทำ”
โดยแต่พรรคการเมืองมีจำนวน สส.ที่มาร่วมลงมติ ร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ ดังนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง