svasdssvasds

'นางบี' กัดฟันสู้เอาชนะความจนเพื่อครอบครัวพร้อมหน้า

'นางบี' กัดฟันสู้เอาชนะความจนเพื่อครอบครัวพร้อมหน้า

เบื้องหน้าที่สนุกสนานเฮฮาของ 'นางบี' บดบังเบื้องหลังที่ยากลำบากตลอด 6 ปีที่เธอต้องก่อร่างสร้างตัวจากศูนย์ จนเอาชนะความจน สามารถพาลูกๆ กลับมาอยู่พร้อมหน้าในครอบครัว

เมื่อช่วงปลายปี 2566 'นางบี' ได้ให้กำเนิดลูกชายชื่อ 'เจย์เดน' สร้างความปลื้มใจให้กับคุณพ่อมือใหม่อย่าง 'อ้ายสติ๊ก' และพี่ๆ อย่าง 'ออสติน-เจสสิก้า-เจ็นสัน' ลูกกับสามีเก่าของนางบีที่เรียนอยู่ประเทศออสเตรเลียและกลับมารับขวัญน้องที่เมืองไทย บรรยากาศความประทับใจที่ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าเป็นเหมือนภาพฝันของนางบีที่เคยวาดหวังไว้เมื่อหลายปีก่อน

ทีมข่าว SPRiNG สัมภาษณ์พิเศษ นางบี หรือ สุภาวดี ไลลานี บูเตอเลอซ์ อินฟลูเอ็นเซอร์ออนไลน์ ถึงความเป็นแม่ อีกบทบาทที่เธอแทบจะไม่ได้เปิดเผยให้แฟนๆ ในโลกออนไลน์ได้เห็นมากนัก เธอเล่าว่า เธอมีลูก 3 คนกับอดีตสามี ชาวออสเตรเลีย ก่อนที่จะหย่าร้างกันและต้องส่งลูกไปอยู่กับสามีที่ประเทศออสเตรเลียตั้งแต่ยังเล็กๆ เพราะความจน และต้องการให้ลูกมีอนาคตที่ดี โดยเธอก็อยู่ที่ประเทศไทยทำงานหาเงินเพื่อช่วยอดีตสามีส่งเสียลูกๆ และแวะเวียนไปเยี่ยมบ้างปีละครั้ง จนปัจจุบัน 'ออสติน' ลูกชายคนโตอายุได้ 19 ปีแล้ว

"อยากให้ลูกมีการศึกษาที่ดี ถ้าเกิดว่าลูกอยู่บ้านนอกอย่างนี้ เราไม่มีโรงเรียนอินเตอร์ บวกกับตอนนั้นนางบีเองก็ไม่มีเงิน ที่จะพอส่งเสียลูกได้...จะเอาปัญญาจากไหน แค่เงินจะซื้ออันนั้นอันนี้ให้ลูกกินยังไม่มี ก็เลยตัดสินใจว่าให้ลูกไปอยู่กับเธอ แต่ฉันก็ไปมาหาลูกได้ตลอดเวลา"

เธอเล่าว่าลูกๆ เป็นแรงบันดาลใจให้เธอในการทำงานหาเงิน เธอจะจินตนาการภาพในหัวถึงวันที่ลูกๆ และเธอได้กลับมาอยู่ด้วยกัน มันทำให้มีกำลังใจ มีความสุข และทำงานด้วยรอยยิ้ม ไม่ว่าจะเป็นแพ็กของ หรือไลฟ์ขายของ เธอบอกว่าสมัยก่อนที่ยังไม่มีเงินมาก เธอจะได้บินไปเยี่ยมลูกปีละครั้ง ครั้งละไม่กี่วัน แต่จะวีดิโอคอลกับลูกทุกวัน และให้ออสติน ซึ่งเป็นพี่คนโตดูแลน้องๆ

แต่ในช่วงเวลา 6 ปีมานี้ เธอเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัว และหลังจากแต่งงานกับ อ้ายสติ๊ก หรือ ดิมิทรี ปาสกาล เจอราส์ อองรี บูเตอเลอซ์ ก็เริ่มทำไลฟ์ขายน้ำปลาร้า ผลิตภัณฑ์พื้นบ้านจากจังหวัดสุรินทร์ กาแฟ และอาหารเสริม แม้ช่วงแรกๆ จะขายของยังไม่ดีมากนัก แต่เธอก็กัดฟันสู้ทำไปเรื่อยๆ จนเป็นที่รู้จักโด่งดัง โดยมีครอบครัวเป็นแรงบันดาลใจ เธอมีรายได้มากขึ้น เลี้ยงดูพ่อแม่ ญาติพี่น้องให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันก็มีเวลาบินไปเยี่ยมลูกได้บ่อยขึ้นและอยู่กับลูกได้นานขึ้น หรือตอนลูกปิดเทอมก็ให้ลูกกลับมาอยู่กับเธอและครอบครัวที่ประเทศไทย

"นางบีคิดเสมอค่ะว่า ไม่เป็นไรวะ วันนี้กูขายไม่ได้ไม่เป็นไร ปีนึงมีตั้ง 365 วัน วันนี้กูขายไม่ได้ไม่เป็นไร...ทำก็เลยทำทุกวัน วันนี้ไม่มีคนดู ช่างแม่ง กูไม่สน กูทำต่อ มันต้องมีแหละ พอคิดแบบนี้ก็เลยได้เป็นนางบีในทุกวันนี้ นึกถึงหน้าลูก ฉันอยากไปหาลูก...อยากจะพาลูกไปในที่ที่ลูกไม่เคยไป ยิ่งเวลาเราคิดมาแบบนี้ มันทำให้เรามีความสุข เราก็ยิ้ม นั่งยิ้ม แพ็กไป ไลฟ์ไป ยิ้มไป ความเหนื่อยมันหายไป"

เธอขอบคุณตัวเอง เหตุการณ์ที่ผ่านมา และผู้ที่ติดตามเธอทุกคนที่ทำให้เธอและครอบครัวมีวันนี้ และเธอก็ระลึกกับตัวเองเสมอว่าทุกคนคือลมใต้ปีกที่ทำให้เธอเดินมาถึงวันนี้

"ลูกเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะอยากกลับมาใช้ชีวิตกับ...อยากให้ลูกทุกคนกลับมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เพราะนางบีเป็นคนที่ฝันใหญ่และเป็นคนที่ฝันสูง อยากจะให้ทุกคนได้มีชีวิตที่ดีขึ้น แต่จะให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่อยากให้เขาได้หลงระเริง แม้กระทั่งตัวนางบีเองทุกวันนี้ยังเตือนตัวเองอยู่ทุกวันว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อมันขึ้นสูงได้มันก็สามารถลงต่ำได้ แต่จะทำยังไงที่จะไม่ทำให้ลมใต้ปีกของเรา มันหมดลง ขอบคุณเอง ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม ขอบคุณเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่ทำให้เรามายืนอยู่จุดนี้ได้"

นางบี อ้ายสติ๊ก น้องเจย์เดน

สมาชิกใหม่ 'น้องเจย์เดน' กับการบริหารความสัมพันธ์ในครอบครัว

นางบี ยอมรับว่า ช่วงแรกก็กลัวว่าลูกๆ 3 คนจะมีความรู้สึกว่าน้องจะแย่งความรัก แต่สุดท้ายมันอยู่ที่การให้ความรักกับลูกๆ ใช้เวลาที่มีคุณภาพกับลูกๆ ทุกคนก็รู้สึกว่าแม่รักเขาเหมือนกัน เติมเต็มให้พวกเขาเท่าๆ กัน และเธอเองก็คุยกับลูกๆ ไว้ก่อนแล้ว วันที่คลอดเจย์เดนก็วีดิโอคอลให้ลูกๆ 3 คนดู พวกเขาก็ดีใจเพราะอยากได้น้องผู้ชายอยู่แล้ว

เธอยังบอกอีกว่า เธอเลี้ยงลูกด้วยเหตุผล แต่จะไม่เลี้ยงลูกด้วยเงิน ถ้าเกิดว่าถึงวัยที่ลูกทำงานได้แล้ว เธอก็จะไม่ให้เงินลูกแม้แต่บาทเดียว เช่น ออสตินที่ตอนนี้อายุ 19 ปีแล้ว ทำงานก่อสร้าง หาเงินเลี้ยงตัวเอง และเธอก็สนับสนุนให้ลูกทำแบรนด์เสื้อผ้าในอินสตาแกรมเป็นของตัวเองด้วย เธอย้ำว่าเธอจะไม่ให้เงินลูก แต่จะสอนวิธีการหาเงินให้ลูกแทน เช่นการทำธุรกิจออนไลน์จากโซเชียลมีเดีย เพราะถ้าวันใดวันหนึ่ง ไม่มีพ่อแม่อยู่ที่จะคอยสนับสนุนแล้ว เขาจะสามารถดำเนินชีวิตและจะหาเงินได้ด้วยตัวเขาเอง ส่วนเงินที่เธอมี เธอจะเก็บเอาไว้ใช้ตอนแก่ เพราะไม่ได้หวังว่าลูกจะมาดูแลจนแก่จนเฒ่า ลูกก็ต้องมีชีวิตของเขา ใช้ชีวิตของเขาไป 

แม้หลายคนจะเห็นว่าเธอในไลฟ์ว่าเป็นคนเสียงดัง ชอบด่าผัว แต่พอหลังจากจบไลฟ์ก็จะบอกลูกว่า มันจะอยู่ในบทบาทของแม่ เวลาแม่อยู่หน้ากล้องต้องเป็นอย่างนี้ เพราะว่าตัวเองจริงๆ แล้วเวลาอยู่หลังกล้องจะคุยกับลูกด้วยเหตุผลเสมอ เป็นน้ำเสียงหรือท่าทางอ่อนโยนที่ทุกคนในหน้ากล้องไม่เคยเห็น แต่เราต้องอธิบายกับลูกว่านี่คือการทำงาน

นางบี

การกระทำเสียงดังกว่าคำพูด ขอแค่ลูกเอาตัวรอดได้ในสังคม

นางบีเล่าว่าเธอไม่เคยคาดหวังกับชีวิตลูกว่าโตขึ้นมาเขาต้องเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ แต่คาดหวังแค่ว่าโตขึ้นมา เขาไม่ทำความทุกข์ใจให้กับสังคม ไม่ทำความทุกข์ใจให้กับครอบครัวและตัวเขาเองไม่เป็นทุกข์ เช่นเดียวกับคู่ชีวิต เธอก็จะเปลี่ยนให้เลือกเอง จะชอบใครจะชอบคนยังไงเรื่องของเขาเลย เพราะอย่างตัวเธอเอง ที่เลือกมากี่คนแล้ว ก็ยังไม่ถูก จนมาจบที่อ้ายสติ๊ก ดังนั้นถ้าเกิดว่าลูกเจอคนที่ไม่ใช่ เจอคนที่ไม่ดี ตัวเขาเองก็จะรับรู้เอง แล้วสักวันหนึ่งเขาก็ต้องออกไป 

สำหรับเธอคิดว่า การกระทำมันเสียงดังกว่าคำพูด เธอเลยพยายามทำให้เขาเห็นทุกวัน ตื่นขึ้นมาตอนเช้าแม่ทำอันนั้น แม่ทำอันนี้ แม่ไลฟ์ แม่ตอบลูกค้า แล้วเธอก็จะบอกลูกก่อนเสมอว่าถ้าแม่จะไลฟ์ ลูกจะเข้ามาในไลฟ์ด้วยไหม ก็แล้วแต่ความสมัครใจ แต่เธอจะทำงานให้ลูกเห็น เช่นเดียวกัน เวลาที่จะสอนให้ลูกทำหรือไม่ทำอะไร เธอก็จะเอาประสบการณ์ชีวิตในอดีตไปเล่าให้ลูกฟัง เช่น ถ้าลูกไม่อยากเข้าเรียน ก็จะเล่าให้ฟังว่าตอนที่แม่เรียนอยู่ แม่เนี่ยโดดเรียนประจำ ถ้าแม่ย้อนกลับเวลาไปได้ แม่จะไม่ทำ เพราะว่าตอนนั้นแม่เรียนโง่มาก แล้วแม่ก็อายเพื่อนเขา เป็นต้น แล้วก็จะพูดถึงวิธีการที่อยากจะกลับไปแก้ไขให้เขาได้รับรู้ 

นางบี กล่าวต่อว่า การเลี้ยงดูลูกก็เหมือนกัน เราอยากจะให้เขาเป็นยังไง เราอยากจะให้เขาไม่เป็นยังไง อยู่ที่ตัวเราว่าเราเลือกที่จะให้ลูกอยู่ในจุดไหน เสี้ยมสอนเขาให้เขาได้เห็นในมุมไหนมากกว่า ถ้าเราโฟกัสอะไร เราก็จะเจอแต่สิ่งนั้น ถ้าเราเปิดรับโอกาส เราก็จะได้โอกาส เช่น "ถ้านางบีแบบไม่เปิดโอกาสให้เด็กน้อยอายุ 22 ตอนนั้น คงจะไม่ได้กันจนถึงตอนนี้" นางบีพูดถึงอ้ายสติ๊กแบบติดตลก ก่อนที่จะกล่าวทิ้งท้ายว่าคนเป็นแม่ ยังไงก็รักลูก

"คนเป็นแม่ ลูกก็คือลูก ต่อให้อยู่ห่างไกลกันคนละฟากฟ้า ลูกก็คือลูก ลูกคือดวงใจ ลูกคือหัวใจของคนเป็นแม่ ความรักของแม่ที่มีให้ลูก ไม่เคยลดน้อยลง มีแต่รักไปทุกวันๆ เราจะทำได้ทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเราจะได้อยู่กับลูก ถึงแม้ไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตามแต่ เราจะพยายามหาเวลา หาเงิน หาความสุขไปใช้ให้ลูกได้เติมเต็มอยู่เสมอ"

ครอบครัวนางบีและอ้ายสติ๊ก

รับชมเพิ่มเติม

อ่านเพิ่มเติม

How to เบิ่งหมอลำ แบบ ‘ใหม่ พัชรี ไชยเลิศ’

รันคิวแท็กซี่ งานเล็กๆ ที่สร้างความประทับใจยิ่งใหญ่

ติดหนี้พนันเกือบตาย เกิดใหม่ได้เพราะ 'ไก่ย่าง ส้มตำ คุณครู'

related