
ถ้าพกหนังสือมาอ่านในที่สาธารณะ คุณอาจถูกมองว่าเป็น ‘performative reading’ หรือ นักอ่านตัวปลอม สำหรับคนยุคนี้ก็ได้นะ
ถามก่อนว่าใครชอบพกหนังสือไปอ่านในที่สาธารณะบ้าง เช่น บนรถไฟฟ้า คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อมีนักอ่านจำนวนนึงมองว่าพฤติกรรมแบบนี้คือพวก ‘นักอ่านตัวปลอม’ ในต่างประเทศ เรียกพฤติกรรมนี้ว่า performative reading
มันก็คล้าย ๆ กับ performative male หรือ พ่อหนุ่มเทสต์ดี กินมัจฉะ ใส่หูฟังมีสาย ถือหนังสือเล่มดัง ที่เป็นเทรนด์อยู่ในช่วงนึงนั่นแหละ กล่าวคือคำว่า performative ไม่ว่าจะถูกไปใส่ขยายนำหน้าคำไหน มักจะมีความหมายส่อไปว่ามันสิ่งปลอมเปลือกทั้งสิ้น
ทีนี้มาดูคำว่า performative reading กันบ้าง ถ้าอธิบายแบบเข้าใจง่ายที่สุด มันก็คือการอ่านโชว์สังคม อ่านหนังสือในสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง เพื่อบอกให้คนทั้งโลกรู้ว่าฉันอ่านหนังสือเล่มนี้อยู่ แม้คน ๆ นั้นจะอ่านจริง หรือจะแค่ถือทำทรงแต่ไม่ได้อ่านเลยก็ตาม
ประเด็นนี้ถูกมองต่างไปในแต่ละสังคม หากไปพูดเรื่องนี้ในสังคมที่ประชากรอ่านหนังสือกันเป็นล่ำเป็นสันอยู่แล้ว นักอ่านกลุ่มนี้ก็จะมองว่าเรื่องนี้มันไร้สาระ ในระดับต่อไป ในสังคมที่ไม่ได้เห็นคนอ่านหนังสือในที่สาธารณะมากขนาดนั้น ก็จะมองว่าพวกนี้คือนักอ่านตัวปลอม
คำถามที่น่าสนใจคือ แล้วนักอ่านตัวจริงนี่ต้องมีพฤติกรรมแบบไหนกันนะ อ่านหนังสืออยู่บ้าน ในสถานที่ปิด บรรยากาศเงียบสงัด และดำดิ่งไปสู่เนื้อหาที่ผู้เขียนตั้งใจเรียบเรียงมาเป็นอย่างดี แบบนี้คือนักอ่านตัวจริงหรือไม่
เรื่องนี้สามารถมองได้หลายมุม อย่างแรกเราต้องเข้าใจก่อนว่ายุคนี้ การกระทำหรือพฤติกรรมใดก็ถูกมองเป็นคอนเทนท์ไปหมด และพฤติกรรมการอ่านหนังสือในที่สาธารณะก็เข้าข่ายให้คนเชื่อไปแบบนั้นได้ แม้เธอหรือเขากำลังติดหนังสือเล่มนั้นจนวางไม่ลงก็ตาม
และช่วงวัยก็มีส่วน ลองนึกภาพว่าถ้าเราเห็นชายวัยกลางคน หรือผู้สูงอายุดูทรงภูมิสวมแว่นอ่านหนังสืออยู่อย่างเงียบ ๆ คงมีคนน้อยมากที่สงสัยว่าตานี่เป็นนักอ่านตัวจริงหรือเปล่า กลับกัน ถ้าคน ๆ นั้นดูเด็กหน่อย สมมติว่าเป็น Gen Z ภาพของ performative ก็จะแล่นเข้ามาในหัวผู้พบเห็นทันที
มันก็น่าสนใจในการพูดคุย ว่าการที่คนอุดหนุนหนังสือจากสำนักพิมพ์มาแล้ว แม้จะซื้อไปรองขาโต๊ะ ทำทรงอ่าน หรืออ่านจริง ๆ มันก็ถือว่าเป็นการสนับสนุนวงการหนังสือแล้วหรือไม่ หรือแค่ซื้อมาทำทรงนั้นยังไม่เพียงพอ
หรือจริง ๆ มันก็เป็นเรื่องที่ดีแล้วหรือเปล่าที่คนหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน แทนที่จะจ้องดูมือถือ วนเวียนอยู่กับคลิปไวรัลในโลกออนไลน์ แถมไม่ได้สนับสนุนหนังสืออีกด้วย การด่วนตัดสินกันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่
กลับกัน คิดว่าคงมี performative reading อยู่จริง ๆ คืออ่านเพื่อโชว์ให้โลกเห็น อ่านหนังสือเล่มดัง คลาสสิคเพื่อสร้างภาพทางสังคมให้ตัวเอง นั่นแปลว่าสำนักพิมพ์คงต้องแข่งกันออกแบบปกหนังสือให้สวยน่าดึงดูด เพื่อกระตุ้นยอดขายแล้วล่ะ
อย่างไรก็ตาม ถ้าเราตัดสินกันว่าพฤติกรรมการอ่านหนังสือโชว์ให้โลกเห็นคือนักอ่านตัวปลอม เราคงต้องมาคุยกันแล้วล่ะว่าแล้วนักอ่านตัวจริงในความเห็นของคุณเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคือ การอ่านหนังสือในที่สาธารณะได้ถูกแปะป้ายไปแล้วว่าคุณมีสิทธิจะเป็นนักอ่านตัวปลอม
ที่มา: nbcnews
ข่าวที่เกี่ยวข้อง