แนะนำ หนังสงคราม ที่เป็น มากกว่าหนังสงคราม: Hacksaw Ridge สาส์นต่อต้านความรุนแรง ไปสงครามเพื่อช่วยชีวิตคน ไม่ใช่พรากชีวิตใคร
ในโลกของภาพยนตร์สงครามที่มักเชิดชูวีรกรรมผ่านปลายกระบอกปืน Hacksaw Ridge (2016) ผลงานการกำกับของเมล กิ๊บสัน กลับนำเสนอภาพที่แตกต่างออกไป ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เล่าเรื่องของทหารผู้พิฆาตศัตรู แต่เป็นเรื่องราวของวีรบุรุษผู้ปฏิเสธที่จะจับอาวุธโดยสิ้นเชิง , Hacksaw Ridge จึงเป็นหนังสงครามที่ต่อต้านความรุนแรงได้อย่างลึกซึ้งและน่าจดจำ
หัวใจหนังเรื่องนี้คือเรื่องจริงของ เดสมอนด์ ที. ดอสส์ Desmond Doss (รับบทโดย แอนดรูว์ การ์ฟิลด์) ชายหนุ่มผู้ยึดมั่นในศรัทธาศาสนาเซเวนธ์เดย์แอดเวนทิสต์อย่างแรงกล้า เขาอาสาเข้าร่วมกองทัพสหรัฐฯ ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยความรักชาติ แต่ยืนกรานในหลักการที่จะ ไม่แตะต้องอาวุธและไม่สังหารผู้ใด
จุดยืนนี้ไม่ได้มาจากความเชื่อทางศาสนาเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกิดจากบาดแผลในใจจากประสบการณ์ความรุนแรงในครอบครัว ทั้งภาพพ่อผู้เป็นทหารผ่านศึกที่ติดสุราและเหตุการณ์ที่เขาเกือบพลั้งมือทำร้ายคนในครอบครัว สิ่งเหล่านี้หล่อหลอมให้ดอสส์ปฏิเสธความรุนแรงทุกรูปแบบ เขาต้องการรับใช้ชาติในฐานะ "แพทย์สนาม" เพื่อช่วยชีวิตคน ไม่ใช่พรากชีวิตใคร
การตัดสินใจนี้ทำให้เขาต้องเผชิญกับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากกองทัพ ทั้งเพื่อนทหาร-ผู้บังคับบัญชาต่างมองว่าเขาเป็นคนขี้ขลาด เป็นตัวถ่วง
เขาถูกกดดัน ข่มเหง และทำร้ายร่างกายเพื่อบีบให้เขาลาออกหรือยอมจับปืน แต่ดอสส์ก็ยังคงยืนหยัดในศรัทธาของตนอย่างไม่สั่นคลอน
บทพิสูจน์ที่แท้จริงมาถึง ณ สมรภูมิโอกินาวา บนหน้าผามาเอดะที่ได้ชื่อว่า "Hacksaw Ridge" ซึ่งเป็นสมรภูมิที่นองเลือดและโหดร้ายที่สุดแห่งหนึ่งในแปซิฟิก ตอนที่ทหารสหรัฐฯ ถูกตีจนต้องล่าถอย เดสมอนด์ ดอสส์ ผู้ไร้อาวุธ ตัดสินใจทำในสิ่งที่เหลือเชื่อ เขายังคงปักหลักอยู่บนสมรภูมิท่ามกลางวงล้อมของศัตรูเพียงลำพัง
ตลอดทั้งคืน ดอสส์ได้เสี่ยงชีวิตตามหา-ลำเลียงทหารบาดเจ็บ หลายต่อหลายคนลงมาจากหน้าผา
"ได้โปรด...อีกสักคน" (Lord, please help me get one more) นั่นคือคำที่เขาอ้อนวอนต่อพระเจ้าของเขา
วีรกรรมของเขาในคืนเดียวนั้นสามารถช่วยชีวิตเพื่อนทหารได้ถึง 75 นาย ความกล้าหาญนี้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า วีรกรรมไม่จำเป็นต้องมาพร้อมกับอาวุธสังหาร และทำให้เขาได้รับการยอมรับนับถือจากทหารทั้งกองทัพ
สิ่งที่ทำให้ Hacksaw Ridge โดดเด่นคือการนำเสนอภาพสงครามที่ สมจริงและโหดร้ายอย่างที่สุด ร่างกายที่ฉีกขาด เลือดที่สาดกระเซ็น ความตายที่ปรากฏอยู่ทุกตรงหน้า ถูกนำเสนออย่างตรงไปตรงมา
อย่างไรก็ตาม ความรุนแรงที่ล้นทะลักนี้กลับทำหน้าที่สำคัญในการ "ชดเชย" การไม่ใช้ความรุนแรงของตัวเอก ความโหดร้ายของสงครามยิ่งขับเน้นให้การกระทำของดอสส์ที่ปราศจากอาวุธนั้นยิ่งใหญ่และเจิดจรัสขึ้นไปอีก ผู้ชมจะตระหนักได้ทันทีว่าการเลือกที่จะช่วยชีวิตท่ามกลางห่ากระสุนนั้นต้องใช้ความกล้าหาญและศรัทธาที่มหาศาลเพียงใด
ภาพยนตร์ได้ตอกย้ำแนวคิดหลักที่ว่า "พลังอำนาจที่เหนือกว่าอาวุธ คือความเชื่อมั่นและศรัทธา" ซึ่งสะท้อนถึงเรื่องราวของดาวิดกับโกไลแอธในคัมภีร์ไบเบิล ที่เด็กหนุ่มผู้ปราศจากเกราะและดาบสามารถล้มยักษ์ได้ด้วยศรัทธาในพระเจ้า
Hacksaw Ridge ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวสิ่งที่น่าทึ่ง แต่ยังเป็นบทบันทึกที่ทรงคุณค่าเกี่ยวกับพลังของมนุษย์ในการยึดมั่นต่อหลักการสันติวิธี
แม้จะต้องเผชิญหน้ากับความรุนแรงที่เลวร้ายที่สุดก็ตาม เรื่องราวของเดสมอนด์ ดอสส์ ซึ่งจบลงด้วยการได้รับเหรียญกล้าหาญ Medal of Honor จากประธานาธิบดีทรูแมน คือเครื่องยืนยันว่า ฮีโร่ตัวจริงไม่จำเป็นต้องมีชุดรัดรูปหรืออาวุธวิเศษ แต่คือคนธรรมดาที่มีหัวใจเปี่ยมไปด้วยศรัทธาและความกล้าหาญที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริง
ที่มา : theguardian Hacksaw_Ridge