SHORT CUT
จากภาพยนตร์ ลักกันวันตาย ที่กำลังดังใน #Netflix จุดประกายคำถามในสังคมไทยว่า "เงินบัญชีคนตายไปอยู่ที่ไหนต่อ" นี่คือประเด็นสำคัญใกล้ตัวที่เราทุกคนควรทราบ การจัดการกับบัญชีเงินฝากของบุคคลที่เสียชีวิตเป็นเรื่องที่ต้องรู้เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจตามมาในภายหลัง
ตามกฎหมายไทย บัญชีเงินฝากที่เปิดไว้กับธนาคารและมีชื่อเจ้าของบัญชีระบุไว้ เมื่อเจ้าของบัญชีเสียชีวิต เงินในบัญชีดังกล่าวจะถือเป็นทรัพย์มรดก ซึ่งจะถูกส่งต่อไปยังทายาทหรือผู้มีสิทธิ์รับมรดก ดังนั้น ขั้นตอนสำคัญที่ต้องดำเนินการคือ การที่ทายาทต้องติดต่อกับธนาคารเพื่อจัดการกับเงินก้อนนี้
ทายาทผู้รับมรดก: สองกลุ่มหลักตามกฎหมาย
คำว่า "ทายาท" ในทางกฎหมายไม่ได้มีเพียงกลุ่มเดียว แต่แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่
1. ทายาทโดยธรรม (กรณีไม่มีพินัยกรรม) หมายถึงญาติที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดตามกฎหมาย ซึ่งมีลำดับการรับมรดกเรียงกันดังนี้:
ข้อควรทราบ: ลำดับของทายาทนี้เป็นการระบุว่าใครมีสิทธิ์ได้รับมรดกก่อน ไม่ได้หมายความว่าผู้เสียชีวิตจะต้องแบ่งมรดกให้กับทายาททั้ง 6 ลำดับเท่า ๆ กัน หากมีทายาทในลำดับที่ใกล้ชิดกว่า ทายาทลำดับถัดไปจะถูกตัดสิทธิ์ เว้นแต่กรณีพิเศษบางอย่าง เช่น ทายาทลำดับที่ 1 ยังมีชีวิตอยู่ แต่บิดามารดา (ลำดับที่ 2) ก็มีสิทธิได้รับมรดกร่วมด้วยในบางกรณี
2. ทายาทโดยพินัยกรรม คือบุคคลที่ผู้เสียชีวิตได้ระบุชื่อไว้ในพินัยกรรมว่าต้องการยกมรดกให้คนนั้น ๆ ซึ่งผู้รับมรดกอาจเป็นใครก็ได้ไม่จำกัดเฉพาะญาติ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สามารถใช้อ้างสิทธิ์รับมรดกกับธนาคารได้ พินัยกรรมนั้นต้องมีความถูกต้องสมบูรณ์ตามกฎหมาย โดยมีรูปแบบหลัก ๆ 5 รูปแบบ ได้แก่
พินัยกรรมแต่ละรูปแบบมีข้อกำหนดสำคัญแตกต่างกันไป เช่น การลงวันที่ที่ชัดเจน จำนวนพยานที่ต้องลงชื่อรับรอง หรือการมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง ดังนั้น การตรวจสอบความสมบูรณ์ของพินัยกรรมฉบับจริงก่อนจะช่วยป้องกันปัญหาทางกฎหมายได้
.
บ่อยครั้งที่การจัดการมรดกมีความซับซ้อน จึงอาจมีการแต่งตั้ง ผู้จัดการมรดก ซึ่งเป็นบุคคลที่ศาลแต่งตั้งขึ้นมาให้ทำหน้าที่ดูแลจัดการทรัพย์มรดกทั้งหมด บุคคลนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นทายาทเสมอไป อาจเป็นทนายความ หรือตัวแทนในครอบครัวก็ได้ หน้าที่หลักคือการจัดการมรดกตามชื่อ ตั้งแต่การยื่นคำร้องต่อศาล จัดการทรัพย์สิน หนี้สิน ไปจนถึงการแบ่งมรดก และรวมถึงการถอนเงินจากบัญชีธนาคารของผู้เสียชีวิตด้วย
ในกรณีที่ผู้เสียชีวิตไม่มีทายาทและไม่มีการทำพินัยกรรมไว้ ธนาคารจะเป็นผู้ดำเนินการจัดการบัญชีเงินฝากนั้นตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด โดยไม่ใช่การ "ฮุบเงิน" แต่อย่างใด:
บัญชีไม่มีการเคลื่อนไหว 10 ปี: หากบัญชีไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ (ยกเว้นดอกเบี้ยโอนเข้า) ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 10 ปีขึ้นไป ธนาคารสามารถดำเนินการปิดบัญชีได้
การแจ้งเตือน: ภายใน 3 เดือนก่อนสิ้นปีที่ 10 ธนาคารจะแจ้งเตือนเจ้าของบัญชี (แม้จะเสียชีวิต) เพื่อให้มาเคลื่อนไหวบัญชี
ส่งเงินให้กรมบัญชีกลาง: หากยังไม่มีการเคลื่อนไหวตามกำหนด ธนาคารจะโอนเงินและข้อมูลบัญชีไปให้กรมบัญชีกลาง เพื่อนำไปเป็นงบประมาณแผ่นดินต่อไป
กรณีทายาทมาปรากฏตัวภายหลัง: หากเงินถูกโอนไปที่กรมบัญชีกลางแล้ว และมีทายาทมาติดต่อขอเงินคืนภายหลัง ทายาทสามารถดำเนินการได้ โดยกรมบัญชีกลางจะตรวจสอบและคำนวณเงินคืนให้ (โดยไม่มีดอกเบี้ย) และโอนเงินคืนผ่านธนาคารหลังจากยืนยันตัวตนและข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ธนาคารมีหน้าที่ต้องส่งเงินให้ครบถ้วนและทันเวลา หากล่าช้ากว่ากำหนดจะต้องเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 2 ต่อเดือน การจัดการบัญชีเงินฝากของคนตายจึงเป็นกระบวนการที่มีระเบียบแบบแผน และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง