ในโลกที่ทุกคนอยากสร้างภาคต่อ ฮายาโอะ มิยาซากิ กลับเลือก “จบให้สวยงาม” มากกว่า “เล่าซ้ำ” ปรัชญาแห่งการปล่อยวางของ Studio Ghibli
ภาพยนตร์ของ Studio Ghibli คือหนึ่งในผลงานที่งดงามและกลมกล่อมที่สุดในประวัติศาสตร์วงการแอนิเมชัน เทียบได้กับค่ายฝั่งตะวันตกอย่าง Pixar และ Disney แต่สิ่งที่แตกต่างอย่างมากคือ ในขณะที่สตูดิโอฝั่งตะวันตกเน้นสร้างภาคต่อจากเรื่องที่ประสบความสำเร็จ แต่ Studio Ghibli กลับ “ไม่เคยสร้างภาคต่อเลยสักเรื่อง”
หลายคนอาจคิดว่า ‘ฮายาโอะ มิยาซากิ’ ขาดไอเดีย หรือขาดทุนสนับสนุน แต่เหตุผลจริงๆ อาจเรียบง่ายกว่านั้น นั่นคือ แอนิเมชัน Studio Ghibli ทุกเรื่อง เป็นเรื่องราวที่จบลงอย่างสวยงามแล้ว
แม้ มิยาซากิ จะไม่เคยออกมาพูดสาเหตุตรงๆ ถึงสาเหตุที่ผลงานของเขาไม่มีภาคต่อ แต่เราก็พอจะเดาได้จากเรื่องราวในแอนิเมชันเหล่านั้น เพราะทุกเรื่อง เขามักเล่าถึงตัวละครที่ต้องออกเดินทาง ผ่านประสบการณ์ เปลี่ยนแปลงตนเอง และกลับมาเติบโต เหมือนกับวัฏจักรของชีวิตที่เริ่มต้น เจ็บปวด และจบลงอย่างสมบูรณ์
ไม่ว่าจะเป็น Spirited Away ที่จิฮิโระต้องเรียนรู้การปล่อยมือจากโลกที่เธอผูกพัน หรือ The Boy and the Heron ที่พูดถึงการสูญเสียและการยอมรับ ทุกเรื่องราวของ มิยาซากิ คือบทเรียนเรื่องมิตรภาพและการจากลา
โดยทั่วไป ภาพยนตร์เรื่องแรกถือเป็นผลงานชิ้นเอกในตัวของมันเอง และหลายครั้งที่การมีภาคสองก็ทำให้ “เสน่ห์ดั้งเดิม” ของเรื่องจางหายไป นอกจากนี้ หนังของ มิยาซากิ มีมนตร์ขลังเพราะเขามัก “ปล่อยช่องว่าง” ให้ผู้ชมตีความด้วยตัวเอง
ถ้ามีภาคสอง ก็มีความเสี่ยงที่เรื่องจะถูก “อธิบายมากเกินไป” จนทำลายความลึกลับและเสน่ห์ที่ทำให้ภาคแรกพิเศษ
โดยสรุปคือ แอนิเมชันของ Studio Ghibli ก็เหมือน ชีวิตของเรา มีพบก็ต้องมีจาก และมันสวยงามที่เป็นแบบนั้น
นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ ฮายาโอะ มิยาซากิ เลือกจะไม่ย้อนกลับไปเล่าเรื่องเดิมอีกครั้ง