Monogamy vs Polygamy เลือกอะไรดี ในเมื่อมีข้อดีทั้งคู่ ?

เราทุกคนมีความเข้าใจว่า “การรักเดียวใจเดียว” คือสิ่งที่ถูกต้อง เพราะในประเทศส่วนใหญ่บนโลกที่ไม่ว่าจะศาสนาใด หรือมีวัฒนธรรมแบบไหน ก็มักยกย่องว่า คู่สมรสคนเดียว คือความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์แบบของมนุษย์ และการแหกกฎนั้นคืออาชญากรรมที่สมควรถูกประณาม

ทว่าเราอาจถูกค่านิยมสมัยใหม่ปิดตาในบางมุมก็ได้ เพราะในปัจจุบันมนุษย์สร้างกฎเกณฑ์มากมายเพื่อไม่ให้มีใครแตกแถว ซึ่งรวมถึงกฎระเบียบในเรื่องชีวิตคู่ด้วย ทว่าถ้าพูดกันตามจริง การบังคับให้ใครสักคนรักใครอีกคนอย่างไม่เปลี่ยนแปลง คือการฝืนธรรมชาติมนุษย์เอามาก ๆ เพราะแท้จริงแล้ว เรื่องรักเดียวใจเดียวอาจเป็นแค่เรื่องในนิทาน เนื่องจากมนุษย์ไม่ได้ถูกกำหนดมาให้รักเดียวใจเดียวมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว

ทั้งนี้ การ “รักเดียวใจเดียว” ที่มีคำภาษาอังกฤษว่า Monogamy ซึ่งหมายถึงรักได้ทีละคนเท่านั้น ซึ่งจะเป็นรักหลังจากการสมรส รักเพราะตัดสินใจอยู่ด้วยกัน หรือรักเพราะมีเซ็กซ์ด้วยกัน และจะไม่ไปมีเซ็กซ์กับคนอื่น ตราบใดที่ยังใช้ชีวิตร่วมกันอยู่

แนวคิดข้างต้น ตรงกันข้ามกับ “หลายรัก” ซึ่งเรียก” ที่มีคำภาษาอังกฤษ Polygamy ซึ่งในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการเล่นชู้ หรือนอกใจ แต่หมายถึงมีคู่ชีวิตหลายคนอย่างเปิดเผย และไม่มีใครมีปัญหาในความสัมพันธ์นั้น ซึ่งคนที่เลือกแนวทางนี้ จะเป็นฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงก็ได้ โดยผู้ชายที่มีภรรยาหลายคน จะเรียกว่า Polygyny ส่วนผู้หญิงที่มีสามีหลายคนจะเรียกว่า Polyandry แต่จากการสำรวจ พบว่าในโลกนี้มี Polygyny มากกว่า

สาเหตุที่เป็นแบบนั้น เพราะผู้ชายจะมีสัญชาตญาณนักล่ามากกว่า และสิ่งนี้ฝังอยู่ในยีน(Gene)  โดย วงการวิทยาศาสตร์เรียกว่า allele 334” ซึ่งจากการสำรวจพบว่า ผู้ชายที่มียีนนี้มากกว่า 1 ตัวขึ้นไป จะมีความเจ้าชู้สูง และมีแนวโน้มจะออกไปตามหาความตื่นเต้นที่นอกเหนือจากคู่สมรสของตัวเอง  

ในทางกลับกัน ผู้หญิง จะมีแนวโน้มที่จะมองหาความมั่นคงจากคู่สมรสคนเดียวมากกว่า แต่ในบางกรณีผู้หญิงก็ยอมมีสามีหลายคนที่ช่วยกันหาเงิน และต่างรักเธอเท่าๆ กัน  มากกว่าเลือกอยู่กับผู้ชายคนเดียวที่มีหน้าที่การงานล้มเหลว

ทั้งนี้ หลายรัก อาจดูเป็นเรื่องที่ผิดประเพณีในปัจจุบัน แต่เมื่อมองไปในอดีตกาลมนุษย์ไม่ได้แต่งงานโดยมีพื้นฐานมาจากความรักมาตั้งแต่ต้น แต่แต่งงานเพราะต้องการปกครองอาณาจักร ผลประโยชน์ทางการเมือง และเพื่อสร้างระบบพันธมิตรระหว่างรัฐให้แข็งแกร่ง จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นบุคคลในประวัติศาสตร์เปลี่ยนคู่ครองไม่จบสิ้น หรือบางครั้งก็มีคู่ครองหลายคนพร้อมกันไปเลย เพื่อให้อำนาจมั่นคง

นอกจากนี้ในวัฒนธรรมของบางชนเผ่า ผู้ชายจะมีภรรยาหลายคน เพราะง่ายต่อการปกครอง และมองว่าลูกๆ ที่เกิดจากภรรยาทุกคนคือคนของชนเผ่า และสมาชิกของเผ่าทุกคนต้องดูแลเด็กๆ เหล่านั้นโดยไม่เกี่ยงกัน ซึ่งส่งผลให้เด็กที่เกิดมาได้รับความรักจากพ่อแม่หลายคน ก่อนจะเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีความเฉลียวฉลาด และแต่งงานเพื่อทำหน้าที่ของเผ่าต่อไป

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ กล่าวได้ว่า การรักเดียวใจเดียว ไม่เคยเป็นธรรมชาติของมนุษย์ เพราะมนุษย์

มนุษย์เราก็มีความเป็น Polygamy เหมือนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ ที่กว่า 90 % ของทุกสายพันธุ์บนโลกจะใฝ่หาคู่ตัวใหม่อยู่เรื่อยๆ ดังนั้น รักเดียวใจเดียว จึงดูเป็นเรื่องในอุดมคติ มากกว่าจะจับต้องได้จริง

ส่วนกฎที่ว่าด้วยคู่สมรส ต้องแต่งงานกันด้วยความรักที่เพิ่งจะมีมาเมื่อไม่กี่ร้อยปีมานี้ ทำให้มีความคิดใหม่ก่อตัวขึ้น และทำให้เรื่องที่ดูโรแมนติกอย่าง รักแรกพบ คู่ชีวิต และมี่คู่ชีวิตแค่คนเดียว กลายเป็นค่านิยมที่ยึดถือตามกันมา และถ้าใครไม่ทำแบบนั้น ก็เท่ากับว่าก้าวสู่เส้นทางที่ผิดศีลธรรม

ข้อดีของการมีหลายคน

แม้ Polygamy จะไม่ถูกกฎหมายในหลายประเทศ แต่ในบางประเทศและบางวัฒนธรรมก็ยังเป็นที่ยอมรับเช่นกัน ซึ่งข้อดีของคนที่นิยมมีคู่ครองหลายคนคือ มีความสัมพันธ์ที่หลากหลาย มีคนช่วยหาเงินเข้าครอบครัวมากขึ้น

ในกรณีของผู้ชาย พวกเขาสามารถมีลูกได้หลายคน และมีแม่หลายคนช่วยเลี้ยงลูกๆ ซึ่งทำให้ครอบครัวมีความเข้มแข็งมากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้ความสัมพันธ์มีความตื่นเต้นตลอดเวลาอีกด้วย

แต่นั่นก็อาจเป็นดาบสองคมได้ เพราะหากผู้ที่เป็น Polygamy บริหารความสัมพันธ์ไม่ดี ก็อาจนำไปสู่หายนะในครอบครัวได้ ดังนั้นผู้ที่เลือกแนวทางนี้ควรทำให้แน่ใจว่า คู่ครองทุกคนของคุณมีความสำคัญพอๆ กัน เพื่อไม่ให้มีใครคนใดคนหนึ่งเกิดความน้อยใจ

 

ข้อดีของการมีคู่ครองคนเดียว

ผู้ที่เป็น Monogamy ส่วนใหญ่ มักมองถึงความผูกพันกับคนใดคนหนึ่ง มากกว่าการใฝ่หาความตื่นเต้น หรือความมั่งคั่งแบบ Polygamy ซึ่งข้อดีคือในความสัมพันธ์ที่มีแค่สองคนคือไม่ต้องกังวลว่าใครจะได้รับความรักน้อยไป ซึ่งก่อให้เกิความมั่นคงทางอารมณ์และความสุขได้ เพราะการมีคู่ชีวิตที่เต็มใจแก่เฒ่าไปด้วยกัน คือของขวัญที่ล้ำค่า นอกจากนี้ยังหลีกเลี่ยงโอกาสที่จะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากการมีจากการมีเซ็กซ์กับคนหลายคนได้อีกด้วย

ทว่านั้นก็เป็นความเสี่ยงในชีวิตที่สูง เนื่องจากอาจเกิดความเบื่อหน่ายในความสัมพันธ์ ไม่มีความยืดหยุ่นในชีวิต ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาการหย่าร้าง หรือการแอบนอกใจได้

 

เลือกแบบไหนดี?

แน่นอนว่าหลายคนเลือกแบบ Monogamy เพราะเป็นค่านิยมที่ปฏิบัติกันทั่วไป แต่การเร่งรีบแต่งงานกับใครสักคนหนึ่ง เพียงเพราะเชื่อว่าเขาเป็นคู่ชีวิต อาจนำมาสู่ปัญหาในระยะยาวได้ ดังนั้นพิจารณาว่า อะไรทำให้คุณมีความสุข เช่นสมมติว่าความคิดที่จะมีความสัมพันธ์กับคนหลายคนพร้อมๆ กันกระตุ้นให้คุณตื่นเต้น และถ้าคุณไม่กังวลเรื่องการบริหารความสัมพันธ์ในชีวิต การมีหลายรัก ก็อาจเป็นตัวเลือกที่เย้ายวนกว่า

แต่ถ้าคุณไม่ได้คาดหวังว่า ลูกของคุณจะต้องมีแม่หลายคนช่วยกันเลี้ยงดู หรือ คิดว่าความสัมพันธ์ต้องมีความหลากหลาย การเลือก รักเดียว ก็ดูจะเป็นคำตอบที่ถูกต้องแล้ว

ท้ายที่สุด นี่ไม่ใช่การหาคำตอบว่า ระหว่าง Monogamy หรือ Polygamy อะไรดีกว่ากัน แต่เป็นการชี้ให้เห็นว่า แท้จริงแล้ว เรื่องคู่ชีวิต (2 คน) อาจเป็นเรื่องที่มนุษย์ตั้งกรอบขึ้นมาเอง และเราก็ไม่ผิดเลย หากอยากทลายกรอบนั้น ด้วยการหาความตื่นเต้นในความรักเพิ่มเติม ตราบใดที่ยังไม่ทำให้ใครเดือดร้อน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• รู้อะไร ไม่สู้รู้(จัก)ตัวเอง รับมือกับสิ่งที่ไม่ถนัด-พัฒนาตัวเองได้เร็ว 
• "เทคนิคคุยเพื่อนใหม่" ถ้าเราเป็นคนไม่มั่นใจ จะหาเพื่อนในที่ทำงานอย่างไร 
• ไม่อยากไปทํางาน ซึมเศร้าหลังวันหยุดยาว ทำอย่างไรดี ?