SHORT CUT
เนเธอร์แลนด์พิสูจน์ 4 วันทำงานต่อสัปดาห์ได้จริง เฉลี่ยเพียง 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ผู้หญิงคือแรงขับเคลื่อนหลัก พลิกโครงสร้างครอบครัว-ภาษี จนกลายเป็นมาตรฐานแรงงาน
ขณะที่หลายประเทศทั่วโลกยังคงยึดติดกับตารางการทำงาน 5 วันต่่อสัปดาห์ แต่ที่เนเธอร์แลนด์ คนทำงานกลับค่อย ๆ ละทิ้งการทำงานสัปดาห์ละ 5 วัน แล้วหันมาทำงานเฉลี่ยเพียง 32.1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในปี 2024 และเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ต้องยกเครดิตให้ “ผู้หญิง” ที่เข้ามามีบทบาทในตลาดแรงงานมากขึ้น ระบบการทำงานแบบใหม่จึงช่วยรักษาคนให้อยู่ในตลาดงานได้นานขึ้น ตรงกันข้ามกับสหรัฐฯ ที่ผู้หญิงจำนวนมากกำลังทยอยลาออกเพราะถูกบังคับกลับเข้าออฟฟิศ (RTO)
หลังโควิด-19 พนักงานอเมริกันพยายามรักษาการทำงานจากบ้านให้นานที่สุด ในขณะที่ผู้บริหารกดดันให้กลับเข้าออฟฟิศ หลายคนจึงเรียกร้องตารางการทำงานแบบ 4 วันต่อสัปดาห์ แต่สำหรับเนเธอร์แลนด์ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงแล้ว !
ตามข้อมูลของ Eurostat คนอายุ 20–64 ปีในประเทศทำงานเฉลี่ยเพียง 32.1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ถือว่าสั้นที่สุดในยุโรป รองลงมาคือออสเตรีย เยอรมนี และเดนมาร์ก ที่เฉลี่ยราว 34 ชั่วโมง ส่วนคนอเมริกันทำงานเฉลี่ย 42.9 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แม้จะลดลงจากปี 2019 ที่เฉลี่ย 44.1 ชั่วโมงก็ตาม
สาเหตุสำคัญที่ทำให้เนเธอร์แลนด์เปลี่ยนสู่การทำงานสั้นลงก็คือ “แรงงานหญิง” เดิมทีโมเดลแรงงานเน้นให้ผู้ชายเป็นเสาหลักทำงานเต็มเวลา แต่พอผู้หญิงเริ่มเข้าสู่ตลาดแรงงานในช่วงทศวรรษ 1980 โดยเฉพาะงานพาร์ตไทม์ ก็ทำให้โครงสร้างครอบครัวและระบบภาษีเปลี่ยนไป ประเทศจึงปรับเป็นโมเดล “รายได้หนึ่งครึ่ง” คือมีคนหนึ่งทำงานเต็มเวลา อีกคนทำงานพาร์ตไทม์ โดยรัฐสนับสนุนด้วยสิทธิประโยชน์ทางภาษี รูปแบบนี้ค่อย ๆ กลายเป็นมาตรฐานจนผู้ชายเองก็เลือกทำงานสั้นลงเพื่อกลับบ้านไปดูแลลูก
นโยบายนี้ไม่เพียงช่วยให้พ่อแม่ทำงานพร้อมดูแลครอบครัว แต่ยังช่วยลดอัตราการว่างงานอีกด้วย ปี 1991 เนเธอร์แลนด์มีคนว่างงานถึง 7.3% แต่เพียงสิบปีต่อมา ตัวเลขลดเหลือแค่ 2.1% และตั้งแต่ปี 2018 อัตราว่างงานก็ทรงตัวต่ำ ปัจจุบันอยู่ที่ 3.6% เท่านั้น ในทางกลับกัน สหรัฐฯ มีอัตราว่างงาน 4.2% ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ฟังดูใกล้เคียง แต่เมื่อคิดจากประชากร 342 ล้านคน เทียบกับเนเธอร์แลนด์เพียง 17.8 ล้าน ความแตกต่างเพียง 0.6% นั้นหมายถึงชาวอเมริกันอีก “หลายล้านคน” ที่ตกงาน
กลุ่มที่น่ากังวลที่สุดในสหรัฐฯ คือผู้หญิง ระหว่างเดือนมกราคมถึงมิถุนายน ปีนี้ มีผู้หญิงอายุเกิน 20 ปี ออกจากตลาดแรงงานไปกว่า 212,000 คน ขณะที่ผู้ชายกลับเพิ่มขึ้น 44,000 คน โดยเฉพาะกลุ่มแม่ลูกเล็ก ตัวเลขการทำงานของผู้หญิงที่มีลูกอายุต่ำกว่า 5 ปี ลดจาก 69.7% เหลือ 66.9% ในเวลาเพียง 6 เดือน เท่ากับว่าผู้หญิงกำลังถูกกดดันให้ออกจากระบบแรงงานมากขึ้นเรื่อย ๆ ต่างจากโมเดลของเนเธอร์แลนด์ที่เปิดทางให้ทุกเพศทำงานน้อยลงแต่ยังมีงานมั่นคงและคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า.
ที่มา :fortune
ข่าวที่เกี่ยวข้อง