ปรากฏการณ์ "รันคลับ" ที่ได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ถือว่า Run Club เป็นมากกว่าแค่การรวมตัวเพื่อสุขภาพกาย แต่คือกระจกสะท้อนของการเชื่อมต่อที่แท้จริงในยุคสมัยที่ความสัมพันธ์ถูกก่อขึ้นในยุคดิจิทัล
ภาพของกลุ่มคนที่สวมใส่ชุดออกกำลังกายและรองเท้าวิ่งกลายเป็นเรื่องคุ้นตาในสวนสาธารณะและท้องถนนทั่วเมืองใหญ่
แต่หากมองให้ลึกลงไป ปรากฏการณ์ "รันคลับ" ที่ได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ถือว่า Run Club เป็นมากกว่าแค่การรวมตัวเพื่อสุขภาพกาย แต่คือกระจกสะท้อนของการเชื่อมต่อที่แท้จริงในยุคสมัยที่ความสัมพันธ์ถูกก่อขึ้นในยุคดิจิทัล
รัน คลับ คือการสร้างคอมมูนิตี้ที่ค่อยๆแข็งแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีเสน่ห์ และน่าดึงดูด แม้แต่กับคนที่ไม่เคยคิดจะออกมาวิ่งมาก่อน
รันคลับ อาจจะเป็นจำลองของสังคมย่อส่วนที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานบวก หลายๆรันคลับ อาจจะนัดวิ่งกัน 5 วันต่อสัปดาห์ในเส้นทางที่หลากหลาย หรือถ้างานยุ่งรัดตัว เราอาจจะนัดกันสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และทุกกิจกรรมมักปิดท้ายด้วยการแฮงก์เอาท์ อัปเดตชีวิตกัน รวมถึงการทำความรู้จักกันกับผู้คนใหม่ๆ ที่เข้ามาในคลับ
บางทีในยิม,ผู้คนมักก้มหน้าดูมือถือ แต่ที่คลับวิ่ง มันจะไม่มีเวลาทำแบบนั้น เพราะเวลาวิ่ง ทุกคนต้องวิ่งจริงๆ โฟกัสอยู่กับจังหวะก้าวและพื้นถนน จะมาพิมพ์หรือเลื่อนหน้าจอไม่ได้ ดังนั้นการปฏิสัมพันธ์จึงเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและปราศจากสิ่งรบกวนทางดิจิทัล
ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในกลุ่มคนรักการวิ่ง เพราะในต่างประเทศ ผู้คนเลือกที่จะสร้างสายสัมพันธ์ผ่าน คลับรูปแบบอื่นๆ อาทิ "Silent Book Club" คลับหนังสือที่สมาชิกนำหนังสือมาอ่านเงียบๆ ด้วยกันเดือนละครั้ง
สิ่งที่เกิดขึ้นตอกย้ำถึงความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ที่กำลังถูกท้าทายในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z ซึ่งเติบโตมาพร้อมกับโซเชียลมีเดีย รายงานของ McCrindle เรื่องอนาคตการศึกษาในออสเตรเลียชี้ว่า เกือบ 60% ของนักเรียนรู้สึกว่าความเหงาและการโดดเดี่ยวเป็นความท้าทายใหญ่ และ 82% ยอมรับว่าใช้เวลากับเทคโนโลยีมากเกินไป ดังนั้น การมีกิจกรรมทางสังคมแบบ สัมผัสกันจริงๆ เจอตัวกันเป็นๆ อาจจะเป็นคำตอบสำหรับเรื่องนี้
ศาสตราจารย์ด้านสังคมวิทยา โรเจอร์ พาทัลนี อธิบายว่า Gen Z เป็นรุ่นแรกที่ "โตมากับอินเทอร์เน็ต" พวกเขาจึงเข้าใจธรรมชาติของมันอย่างลึกซึ้ง และเริ่มตระหนักถึงผลกระทบต่อสุขภาพจิต ทำให้เกิดแนวโน้มการ "ดีท็อกซ์" จากโลกออนไลน์ และหันมาแสวงหากิจกรรมในโลกแห่งความเป็นจริงมากขึ้น
น่าสนใจว่าเทคโนโลยีที่เคยถูกมองว่าเป็นสาเหตุของความโดดเดี่ยว กลับกำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อสร้างการเชื่อมต่อในชีวิตจริง ใช้ในการนัดหมาย , บางที หลายคนไม่ได้ใช้โซเชียลเพื่อโชว์ชีวิตอีกต่อไป แต่ใช้มันเพื่อหาวิธีเชื่อมต่อกับผู้คนจริงๆ มารู้จักกันจริงๆ มันคือการใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างชีวิตจริง ไม่ใช่แค่ใช้เพื่อแสดงตัวตนในโลกออนไลน์
หัวใจสำคัญ ไม่ใช่ตัวกิจกรรม แต่คือ "โอกาสในการพบปะผู้คนใหม่ๆ" ในยุคหลังโควิดที่หลายคนขาดการเชื่อมต่อกับสังคมรอบข้าง "ตอนนี้ผู้คนต้องออกมาค้นหาคอมมูนิตี้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นคลับวิ่ง คลับหนังสือ หรืองานฝีมือ...มันคือการได้เชื่อมต่อกับคนอื่น"
ท้ายที่สุดแล้ว ปรากฏการณ์ "รันคลับ" มันบอกว่า แก่นแท้ของมันคือการสร้างพื้นที่ที่ผู้คนสามารถเป็นตัวของตัวเองและเชื่อมโยงถึงกันได้อย่างมีความหมาย
หากคุณไม่ใช่สายวิ่ง ก็ไม่จำเป็นต้องฝืน คีย์เวิร์ดสำคัญคือการทำในสิ่งที่รักอย่างแท้จริง ปล่อยให้ความหลงใหลนั้นนำทางไปสู่การพบเจอผู้คนที่มีจังหวะชีวิตเดียวกัน เพราะมิตรภาพและความรักที่เริ่มต้นจากความจริงใจ ย่อมวิ่งได้ไกลกว่าและยั่งยืนกว่าเสมอ
มันไม่ใช่แค่คนรู้จักชั่วคราว แต่คือมิตรภาพจริงๆ คนจริงๆ ที่จะอยู่กับเราไปจริงๆ" และนั่นคือปลายทางเส้นชัยที่ทุกคนกำลังตามหาในโลกยุคนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง