
เทศกาลดนตรี Creamfields - ปรากฏการณ์ EDM ระดับโลก และ รากฐานแห่งพลังงานแดนซ์ ที่ใครรักเสียงเพลงต้องมาสักครั้ง
ถ้อยคำที่ว่า "พลังงานของเพลงแดนซ์ คือ เชื้อเพลิงชั้นดี ที่ทำให้เราลืมเหนื่อยและก้าวไปข้างหน้า" ได้สะท้อนแก่นแท้ของดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ (EDM) ซึ่งปัจจุบันได้ผงาดจากดนตรีใต้ดินในคลับสู่ปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมระดับโลก และหนึ่งในสถาบันดนตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุดคือ Creamfields เทศกาลดนตรีจากสหราชอาณาจักรที่สายแดนซ์ทั่วโลกให้การยอมรับ
Creamfields คือเทศกาลดนตรี EDM ชั้นนำของสหราชอาณาจักร ก่อตั้งโดย "Cream" คลับชื่อดังจากลิเวอร์พูล จัดขึ้นครั้งแรกในปี 1998 และปัจจุบันปักหลักอยู่ที่ Daresbury Estate, Cheshire ในชื่อ Creamfields North
• จุดเด่น: ขึ้นชื่อเรื่องบรรยากาศสุดเร้าใจ และการรวมเอาการแสดงจาก ดีเจระดับตำนาน เข้ากับเวทีที่ผสมผสานดนตรี EDM สายหลัก (Mainstream) เข้ากับแนวเทคโน (Techno) และเฮาส์ (House) จากวงการอันเดอร์กราวด์ (Underground) ได้อย่างลงตัว
• สถานะ: Creamfields ได้รับการจัดอันดับให้เป็น เทศกาลดนตรีกลางแจ้งที่ดีที่สุด อันดับ 1 ในสหราชอาณาจักร และติดอันดับโลก ซึ่งตอกย้ำสถานะของงานในฐานะจุดหมายปลายทางที่สาย EDM จากทั่วโลกต้องมาแสวงบุญทางดนตรีสักครั้งหนึ่งในชีวิต
ความสำคัญของ Creamfields ไม่อาจเล่าได้โดยปราศจากการเข้าใจวิวัฒนาการของ EDM ซึ่งเป็นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากแนวดนตรีที่มาก่อนหน้า โดยมีจุดสำคัญอยู่ที่การใช้ เครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสร้างสรรค์จังหวะสำหรับฟลอร์เต้นรำโดยเฉพาะ ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกใจสาวๆทั่วโลก
รากฐานจากยุคดิสโก้ (Disco) - ทศวรรษ 1970: เน้นจังหวะที่หนักแน่นและต่อเนื่อง ผู้บุกเบิกคนสำคัญคือ Giorgio Moroder ที่ใช้ซินธิไซเซอร์ในการสร้างสรรค์เพลง เช่น "I Feel Love" ของ Donna Summer (ปี 1977) ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าเป็นเพลงที่บุกเบิกการใช้เสียงสังเคราะห์ในดนตรีแดนซ์
การกำเนิดของ House และ Techno - ต้น-กลางทศวรรษ 1980: เมื่อดิสโก้เริ่มเสื่อม ดีเจในสหรัฐฯ ได้นำเทคโนโลยีใหม่ๆ (เช่น ดรัมแมชชีน Roland TR-808) มาสร้างแนวดนตรีใหม่:
House Music: ถือกำเนิดที่ชิคาโก โดยดีเจ Frankie Knuckles ที่ไนท์คลับ The Warehouse
Techno: ถือกำเนิดที่ดีทรอยต์ โดยกลุ่ม The Belleville Three (Derrick May, Juan Atkins, Kevin Saunderson) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ยุโรป
จากจุดเริ่มต้นเหล่านี้ ดนตรีแดนซ์อิเล็กทรอนิกส์ได้พัฒนาและเข้าสู่กระแสหลัก กลายเป็น EDM ที่ทรงพลังในปัจจุบัน
Creamfields คือสัญลักษณ์ที่ยืนยันถึงความรุ่งโรจน์ของดนตรีแดนซ์:
• ประวัติศาสตร์อันยาวนาน: จัดมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 20 ปี (ตั้งแต่ปี 1998)
•การขยายตัวระดับโลก: ขยับขยายกระจายความสนุกไปยัง กว่า 30 ประเทศ ทั่วทุกมุมโลก รวมถึงสเปน, เม็กซิโก, ฮ่องกง, และไต้หวัน มี Partygoers จากทั่วโลกเข้าร่วมงานกว่า 4 ล้านคน
•เวทีที่เป็นนวัตกรรม: ในอดีตที่ผ่านมา การเปิดตัวเวทีอย่าง “Steel Yard” ในปี 2016 ซึ่งเป็นโครงสร้างเหล็กขนาดใหญ่ที่สร้างประสบการณ์ด้านแสง สี เสียง ได้อย่างอลังการ
• จุดนัดพบของตำนาน: เทศกาลดนตรีนี้ เป็นเวทีที่ต้อนรับการกลับมาของศิลปินระดับโลกหลายครั้ง เช่น การแสดงครั้งแรกในสหราชอาณาจักรของวง Swedish House Mafia ในปี 2019
• บันทึกหน้าเพลงแดนซ์: จากยุคแรกที่เคยต้อนรับ Daft Punk, Pet Shop Boys ถึงยุคล่าสุดกับ Avicii, Calvin Harris—Creamfields เปรียบเหมือนไทม์แคปซูลของ EDM
สำหรับสาย EDM ในภูมิภาคเอเชีย การมาเยือนของ Creamfields Asia 2025 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 13 และ 14 ธันวาคม 2568 ที่ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5 - 10 เมืองทองธานี คือโอกาสทองที่ต้องคว้าไว้ เพราะนี่คือมากกว่าคอนเสิร์ต แต่คือการรวมตัวของพลังงานระดับโลก :
เทศกาลดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำติดท็อป 10 ของโลก: การันตีด้วยอันดับโลก ซึ่งตอกย้ำสถานะของกรุงเทพฯ ในฐานะศูนย์กลางดนตรีระดับโลก
ประสบการณ์ Indoor เต็มรูปแบบ: ด้วยการจัดงานในฮอลล์ขนาดใหญ่ (Large scale indoor club like never before) ทำให้สามารถควบคุม แสง สี เสียง และการจัดวางเวที ได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสภาพอากาศ
ฮัปรองรับความมันส์ระดับเอเชีย: งานระดับโลกนี้พร้อมต้อนรับคนรักเสียงตื้ดกว่า 50,000 คน จากทั่วภูมิภาคเอเชียให้มาเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้จังหวะเดียวกัน ("เราเป็นหนึ่งเดียวกัน ดนตรีเชื่อมโยงเรา")
พื้นที่จัดงานสุดยิ่งใหญ่: การใช้พื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 33,500 ตารางเมตร มอบประสบการณ์ทางดนตรีที่อลังการและเหนือกว่าการจัดคลับทั่วไป
Creamfields ไม่ใช่แค่เทศกาล แต่คือการฉลองให้กับวิวัฒนาการของดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ และการมาถึงของ Creamfields Asia 2025 คือสัญญาณว่าพลังงานแห่งการเต้นรำระดับโลกกำลังจะจุดติดในภูมิภาคนี้!
สำหรับ ปีนี้ เทศกาลดนตรีอิเล็กโทรนิกส์ระดับโลก “Creamfields Asia 2025” ประกาศไฟนอลไลน์อัปแบบสะเทือนวงการ เปิดจำหน่ายบัตรราคาเริ่มต้น 4,500 บาท รีบซื้อตอนนี้ ราคาดีกว่าหน้างาน เปิดจำหน่ายที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์
โดยนอกจากศิลปินแถวหน้าที่เตรียมมาครองพื้นที่กว่า 33,000 ตารางเมตร ของอิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ ได้แก่ Calvin Harris, Camelphat, Skrillex, Steve Angello ¥ØU$UK€ ¥UK1MAT$U, R3hab และอีกมากมาย ปักหมุดที่สเตจหลัก “ARC Immersive” แล้ว เตรียมไปสนุกกับไลน์อัปล่าสุดบนเวที “Johnnie Walker Stage” กับความมันส์แบบหลากหลายแนวเพลงทั้งแทร็ป, ดับสเต็ป เคป็อป และฮิปฮอปไปกับควีนออฟเคป็อป-EDM อย่าง HYO รวมถึง Far East Movement, Innellea, Plastik Funk, JUNIOR และ Lynne ส่วนในวันอาทิตย์เตรียมไปแดนซ์กับกองทัพดีเจจาก “Altitude Without Limits” ที่จะมาเปิดสเตจที่ไทยเป็นครั้งแรก นำโดย Will Sparks, D-Block & S-Te-Fan, MaRLo, Nifra, MatricK, Oskah และ V3nom
นอกจากนี้ ยังได้เหล่าดีเจจาก “Worried About Henry” เจ้าของดนตรี Drum & Bass ที่ขนทัพดีเจอย่าง Andy C, Hybrid Minds, IVY, K Motionz, Kanine, Pendulum (DJ Set) มาเสิร์ฟความมันส์บนเวที “Singha Life Presents Worried About Henry”
รวมถึงค่ายเพลงสองพี่น้องเจ้าของแนวเพลงอิเล็กโทรนิกส์ที่แตกต่างอย่างลงตัว “Anjunadeep” และ “Anjunabeats” รับประกันความมันส์ตลอดวีคเอนด์กับ BLAKE.08, CRi, DOSEM B2B HANA, ELI & FUR, ROMAIN GARCIA, Amy Wiles, Ilan Bluestone, Mat Zo และ Oliver Smith
สัมผัสประสบการณ์สุดร้อนแรง ในบรรยากาศเย็นฉ่ำ และเหล่าศิลปินระดับโลกมากมายที่ Creamfields Asia 2025 ในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 13-14 ธันวาคมนี้ เปิดจำหน่ายบัตร General Tickets ราคา 8,500 บาท (บุคคลทั่วไป เข้างานได้ 2 วัน) 13,900 บาท (วีไอพี เข้างานได้ 2 วัน) 4,500 บาท (บุคคลทั่วไป เข้างานได้ 1 วัน) 7,200 บาท (วีไอพี เข้างานได้ 1 วัน) เปิดจำหน่ายที่ที่ thaiticketmajor.com หรือไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา (ในเวลาทำการ) รายละเอียดเพิ่มเติมที่ creamfieldsasia.com
ข่าวที่เกี่ยวข้อง