
SHORT CUT
ส่องดูทิศทางและกลยุทธ์การเติบโตของ HOKA ในประเทศไทย ในช่วงเวลาที่การวิ่ง วงการวิ่งบูมเป็นดอกเห็ด แต่แบรนด์ เลือกจะไม่วิ่งหนีตัวตน แต่ขยายมันให้กว้างพอสำหรับทุกย่างก้าวของคนเมืองยุคใหม่
จากสนามแข่งสู่ทางเท้าเมือง : เมื่อ HOKA เปลี่ยน “รองเท้าวิ่งเฉพาะกลุ่ม” ให้กลายเป็นไลฟ์สไตล์ของคนเมือง
หากสังเกตชีวิตประจำวันของคนเมืองให้ดี จะพบว่ามีบางอย่าง หลายๆคนเริ่มจะเห็นบ่อยขึ้น นั่นคือ —รองเท้าทรงหนา ที่ดูจริงจังกว่ารองเท้าแฟชั่นทั่วไป แต่กลับถูกสวมใส่ตั้งแต่รถไฟฟ้า ออฟฟิศ ไปจนถึงสวนสาธารณะ มากมายเต็มไปหมด
หนึ่งในชื่อที่โดดเด่นที่สุดคือ HOKA แบรนด์ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ “เฉพาะทาง” ของนักวิ่งอัลตรามาราธอน ที่เน้น Performance นักวิ่งเทรลที่แท้ทรู แต่วันนี้กลับก้าวเข้ามายืนกลางถนนไลฟ์สไตล์ของคนไทยมากขึ้นกว่าเดิมมากๆ
พรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา ซีอีโอ REV Edition และ โจเอล ลิม หัวหน้าแบรนด์ HOKA เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ขยายความและฉายภาพให้เห็นชัด กล่าวคือ สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ไม่ใช่ผลของกระแสแฟชั่นฉาบฉวย แต่คือการบรรจบกันของสองแรงหลัก นั่นคือ นวัตกรรมด้านสมรรถนะ และ วิถีชีวิตคนเมืองยุคใหม่
HOKA ไม่ได้ถือกำเนิดจากโต๊ะออกแบบแฟชั่น แต่มาจากโจทย์ที่โหดที่สุดในโลกการวิ่ง—การวิ่งลงเขาด้วยแรงกระแทกสูง “เนื้อแท้ของ HOKA คือการรองรับแรงกระแทกให้ได้มากที่สุด โดยไม่สูญเสียประสิทธิภาพการวิ่ง” พรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา ย้ำชัด
น่าสนใจตรงที่ เทคโนโลยีซึ่งถูกสร้างมาเพื่อปกป้องนักวิ่งระดับ Elite กลับตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานที่สุดของมนุษย์เมือง ความสบายในการเคลื่อนไหวทั้งวัน
HOKA ไม่ได้พยายามกระโดดเข้าแฟชั่น แต่ปล่อยให้ประสบการณ์ของผู้ใช้ทำงานแทน เพราะเมื่อความสบายกลายเป็นสิ่งที่ “ถอดไม่ลง” การนำรองเท้าวิ่งมาใส่ในชีวิตประจำวันจึงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่กลายเป็นสามัญ นี่คือการเปลี่ยนผ่านจากสนามแข่งสู่ทางเท้าเมืองที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่การยัดเยียดภาพลักษณ์
ในกรุงเทพฯ เส้นแบ่งระหว่าง “ทำงาน–ออกกำลังกาย–ใช้ชีวิต” แทบไม่เหลืออยู่จริงแล้ว ณ ปี 2025 เช้าเบียดรถไฟฟ้า กลางวันเดินออฟฟิศ เย็นเลิกงานไปวิ่งสวน—ทั้งหมดเกิดขึ้นในวันเดียว ผู้บริโภคจึงมองหารองเท้าที่ อเนกประสงค์ (Versatility) ใส่แล้วดูดี แต่พร้อมใช้งานทันที
HOKA วางตำแหน่งตัวเองตรงจุดกึ่งกลางนี้อย่างแม่นยำ—Performance DNA ที่กลายเป็น Everyday Use
และ การเปิด Concept Store แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ EmQuartier และ Hybrid Flagship Store ขนาดใหญ่ที่ Siam Center ไม่ใช่แค่การขยายสาขาเท่านั้น แต่มันคือการ “ประกาศจุดยืน” ว่า HOKA ก้าวพ้นสถานะอุปกรณ์กีฬา สู่ ไลฟ์สไตล์แบรนด์เต็มตัว ภายใต้แนวคิด Performance Meets Lifestyle การได้พื้นที่ Facade ระดับพรีเมียม คือสัญญาณว่าภาพลักษณ์ของแบรนด์เปลี่ยนไปแล้วจริง
อนาคตของ HOKA ในไทย ไม่ใช่การทิ้งตัวตนเดิมเพื่อวิ่งตามแฟชั่น แต่คือการเดินสองขาพร้อมกัน
ขาหนึ่ง: พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการวิ่งอย่างจริงจัง อีกขา: ขยายไลน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชัดขึ้น เป้าหมายคือการเป็น “รองเท้าคู่เก่งประจำวัน” ของผู้คน ไม่ใช่แค่รองเท้าสำหรับวันแข่ง
เหนือกว่าผลิตภัณฑ์ - แบรนด์ที่สร้างชุมชน และในช่วงหลัง HOKA ไม่ได้ขายแค่รองเท้า แต่กำลังสร้าง Ecosystem ผ่าน Run Club และกิจกรรมที่เปิดกว้าง ตั้งแต่มือใหม่จนถึงระดับ Elite นี่คือการสร้างความผูกพันระยะยาว และเปลี่ยนแบรนด์ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คน
เรื่องราวของ HOKA วันนี้ จึงไม่ใช่แบรนด์รองเท้าที่อยากเป็นแฟชั่น แต่คือเรื่องของ สมรรถนะที่เหนือกว่า จนค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไปในชีวิตประจำวัน ในโลกที่สุขภาพ ความสบาย และสไตล์ ต้องเดินไปพร้อมกัน—HOKA เลือกจะไม่วิ่งหนีตัวตน แต่ขยายมันให้กว้างพอสำหรับทุกย่างก้าวของคนเมืองยุคใหม่
ทั้งนี้ ตลอดช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา HOKA ได้กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์รองเท้าสายเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่เติบโตเร็วที่สุดแบรนด์หนึ่ง และทันทีที่เข้ามาทำตลาดในไทย แบรนด์ก็ได้ขยายตัวและเติบโตอย่างรวดเร็ว จากสาขาแรกที่เซ็นทรัลเวิลด์ โดยปลายปีนี้ HOKA กำลังเปิดตัวสามสาขาหลักใน
กรุงเทพฯ ซึ่งที่เพิ่งเปิดไปคือ EmQuartier, Siam Center และที่กำลังจะเปิดอีกสาขาในวันที่ 13 ธ.ค. นี้ คือสาขา Central Ladprao
ทำให้ปัจจุบันภายในสิ้นปีนี้ HOKA จะมีสาขาในไทยทั้งหมด 9 สาขา และมีแผนจะขยายสาขาเพิ่มอีกภายในปีหน้า โดยเฉพาะสาขาสยามเซ็นเตอร์ ที่เราอยู่กันวันนี้ ถือว่าเป็น Hybrid Flagship Store แห่งแรกของ HOKA และเป็นสโตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยพื้นที่กว่า 312 ตร.ม.
นอกจากการเติบโตของหน้าร้าน HOKA ยังสร้างคอมมูนิตี้การวิ่งและ Active Lifestyle ขึ้นอย่างแข็งแรง จนกลายเป็นหนึ่งใน Ecosystem ที่มีพลังที่สุดและเป็นการตอกย้ำบทบาทของกรุงเทพฯ ในฐานะ Strategic Hub ของ HOKA ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง