
SHORT CUT
ศูนย์ฯ สิริกิติ์: จาก “ฮอลล์จัดงาน” สู่โซนบำบัดออฟฟิศซินโดรมใจกลางกรุง Relax. Reboost. Rehab. 3 โหมดใหม่ของชีวิตทำงานยุคเมืองเร่งรีบ ให้ชีวิตมีสมดุลมากขึ้น
เมืองที่วิ่งไม่หยุด…แต่ร่างกายเราแอบพังเงียบ ๆ
ลองนับดูเล่น ๆ ว่าวันหนึ่งคุณนั่งเก้าอี้ทำงานกี่ชั่วโมง? ประชุมต่อหน้าจอ ซูมคอลต่อ ทานข้าวเที่ยงหน้าโน้ตบุ๊ก เลิกงานก็เลื่อนมือถือบนรถไฟฟ้า ไม่แปลกที่ “ออฟฟิศซินโดรม” จะกลายเป็นคำที่ได้ยินบ่อยพอ ๆ กับคำว่า “เดดไลน์”
ข้อมูลจากกรมอนามัยเคยสำรวจตั้งแต่ปี 2558 ว่ากว่า 60% ของคนวัยทำงาน โดยเฉพาะสายออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานยาว ๆ เกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน มีอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ไม่ว่าจะเป็นปวดคอ ไหล่ หลัง มือชา ไมเกรน ไปจนถึงเอ็นอักเสบ — และแนวโน้มก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ถ้าเมื่อก่อนเราอาจคิดว่า “อดทนหน่อย เดี๋ยวก็หาย” วันนี้เราเริ่มรู้แล้วว่า ถ้าปล่อยยาว ๆ ไม่ใช่แค่เมื่อย แต่คือคุณภาพชีวิตที่ถูกหักคะแนนทุกวันแบบไม่รู้ตัว แล้วคำถามคือ…ต้องหนีออกนอกเมืองไปเข้าคอร์สสุขภาพเป็นสัปดาห์ไหม ถึงจะได้ฟื้นฟูตัวเองให้จริงจังสักที?
คำตอบคือ “ไม่จำเป็น” เพราะใจกลางอโศก–คลองเตย มี Hub เล็ก ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อคนทำงานโดยเฉพาะอยู่แล้ว
ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในเวอร์ชันรีโนเวตใหม่ ไม่ได้มีแค่ฮอลจัดอีเวนต์ ร้านอาหาร และคาเฟ่เท่านั้น แต่ยังพัฒนาโซนรีเทลภายใต้คอนเซ็ปต์ BALM : Bangkok Active Lifestyle Mall ชื่อก็บอกอยู่ในตัว — BALM ที่ไม่ได้เป็นแค่ “ยาหม่อง” ทางใจ แต่คือ บาล์มของไลฟ์สไตล์
ที่รวมทุกอย่างซึ่งคนเมืองยุคนี้ต้องการ :
ทั้งหมดถูกจัดเรียงภายใต้ 3 โหมดง่าย ๆ ที่จำได้แบบสั้นและชัด:
Relax. Reboost. Rehab.จากคนทำงานที่ “นั่งพัง” มาทั้งวัน → สู่ร่างกายที่กลับมาสมดุลอีกครั้งในที่เดียว
Let’s Relax Spa : จุดพักของคนเมืองที่อยากปล่อยตัว–ปล่อยใจจริง ๆ
คนทำงานจำนวนมากคิดว่า “สปา” คือของฟุ่มเฟือย
แต่ในโลกที่กล้ามเนื้อหลังคอและสายตาโดนกดใช้ทุกวันเหมือนเครื่องจักร การผ่อนคลายแบบตั้งใจเริ่มกลายเป็น “จำเป็น” มากกว่าคำว่า “หรูหรา”
ที่ Let’s Relax Spa ในศูนย์ฯ สิริกิติ์ คือพื้นที่ที่ออกแบบมาให้เราได้กดปุ่มพักทั้งตัวและหัว พร้อมกัน
ไฮไลต์ของที่นี่คือการนวดฝ่าเท้า (Foot Massage) เพราะตามศาสตร์การนวด จุดบนฝ่าเท้าถูกเชื่อมโยงกับระบบต่าง ๆ ในร่างกาย
ผลที่ได้เลยไม่ใช่แค่ “สบายเท้า” แต่คือ: คลายกล้ามเนื้อที่ตึงจากการนั่งนาน ๆ , กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต , บรรเทาอาการปวดเมื่อยเรื้อรัง
ลดความเครียดสะสมที่เก็บทั้งอาทิตย์ เหมาะกับคนที่รู้ตัวว่า “เริ่มไม่ไหวแล้วแหละ” แต่ยังไม่พร้อมไปหาหมอ อยากเริ่มดูแลตัวเองด้วยวิธีที่ เบา อ่อนโยน และเห็นผลเร็ว
ที่นี่เชื่อในแนวคิดง่าย ๆ แต่จริงจังว่า การผ่อนคลาย คือจุดเริ่มต้นของสุขภาพที่ดี เพราะถ้าร่างกายไม่เคยได้พักเลย การจะไปฟื้นฟูขั้นลึกหรือเริ่มออกกำลังกายจริงจัง ก็เหมือนออกรบทั้งที่ยังไม่ได้ชาร์จแบต
Warrix Run Hub: สปอร์ตคลับที่เล็งตรงจุดคนเป็นออฟฟิศซินโดรม
หลังจาก “คลาย” แล้ว ขั้นต่อมาคือ “คืนความฟิต”
Warrix Run Hub ที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์ไม่ใช่แค่ฟิตเนสที่มีเครื่องครบ แต่เป็นพื้นที่ที่ออกแบบให้คนวัยทำงาน – โดยเฉพาะคนที่มีอาการออฟฟิศซินโดรม – ได้กลับมาเคลื่อนไหวร่างกายอย่างถูกวิธี
จุดเด่นคือโปรแกรม Personal Training ที่ไม่ใช่เทรนเนอร์สั่งให้ยกเวทไปเรื่อย ๆ แล้วจบ แต่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง: เทรนเนอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกาย , ทีมเวชศาสตร์ฟื้นฟู , นักกายภาพบำบัด
เพื่อออกแบบโปรแกรมให้เหมาะกับ “ร่างกายของแต่ละคนจริง ๆ” โฟกัสหลักของโปรแกรมคือ: เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่ควรทำงาน , เพิ่มความยืดหยุ่น (ไม่ใช่แค่จับเท้าแตะพื้น แต่คือขยับแล้วไม่เจ็บ) , ปรับสมดุลการทำงานของกล้ามเนื้อทั้งตัว
ผลลัพธ์คือไม่ใช่แค่ “หุ่นดีขึ้น” แต่คือ: ปวดน้อยลง นั่งทำงานได้นานขึ้นโดยไม่ทรมานเท่าเดิม ลดโอกาสที่อาการออฟฟิศซินโดรมจะวนกลับมาซ้ำ
สำหรับคนทำงานยุคใหม่ที่รู้ว่า “อยากอยู่ในเกมการทำงานยาว ๆ ต้องเริ่มลงทุนกับสุขภาพตัวเอง” นี่คือการลงทุนที่ไม่ใช่แค่สวยในกระจก แต่คือดีต่อชีวิตการทำงานทั้งระบบ
ReActive Rehab Clinic : จากอาการปวดเรื้อรัง สู่การรักษาแบบแพทย์ดูแลใกล้ชิด
บางคนเลยจุด “เมื่อย ๆ นิดหน่อย” มาไกลแล้ว ปวดคอ ปวดหลัง ปวดสะบัก ลามเป็นอาการเรื้อรัง เริ่มชา แขนยกไม่สุด หันคอแล้วมีเสียงกรอบแกรบ จุดนี้การนวดอย่างเดียวอาจไม่พอ ต้องมีทีมแพทย์เข้ามาดูแลจริงจัง
ReActive Rehab Clinic คือคลินิกเวชศาสตร์ฟื้นฟูเฉพาะทาง ที่ตั้งอยู่ใน BALM เช่นกัน ดูแลโดยทีมแพทย์และนักกายภาพบำบัดที่โฟกัสกับคำถามสำคัญข้อเดียว:
“ต้นตอของอาการปวดมาจากไหนกันแน่?” ก่อนจะวางแผนรักษาให้ตรงจุดด้วยเทคโนโลยีกายภาพสมัยใหม่ เช่น
• Focus Shockwave Therapy
ช่วยลดจุดตึงลึกของกล้ามเนื้อ และกระตุ้นการฟื้นฟูของเนื้อเยื่อ
• Dry Needling
เทคนิคการใช้เข็มแบบแพทย์ตะวันตกที่ช่วยสะกิดจุดปวดลึก ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ
• PMS (Pulsed Magnetic Stimulation)
ช่วยกระตุ้นระบบประสาทและการทำงานของกล้ามเนื้อ เหมาะกับคนที่กล้ามเนื้อทำงานผิดปกติจากการใช้งานซ้ำ ๆ
• Ultrasound Therapy
ช่วยบรรเทาการอักเสบ และกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นในบริเวณที่มีปัญหา
• Physiotherapist – Guide Stretching
นักกายภาพบำบัดจะช่วยยืดเหยียดและแนะนำท่าที่เหมาะสม เพื่อพาร่างกายกลับสู่สมดุลในระยะยาว
ทั้งหมดนี้คือการ Rehab ที่ไม่ใช่การกดจุดแบบเดา ๆ แต่คือการอ่านอาการหาต้นเหตุ และรักษาด้วยวิธีที่อิงทั้งศาสตร์การแพทย์และการฟื้นฟู เหมาะกับคนที่รู้สึกชัดเจนแล้วว่า “นี่ไม่ใช่แค่เมื่อยจากงาน แต่ร่างกายกำลังส่งสัญญาณเตือนจริงจัง”
ภาพของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ในวันนี้ จึงไม่ได้จบแค่การเป็น Venue จัดคอนเสิร์ต งานประชุม หรือแฟร์ใหญ่ ๆ อีกต่อไป แต่เต็มไปด้วยองค์ประกอบของ “ชีวิตเมืองแบบสมดุล”
- ร้านอาหารและคาเฟ่ให้รีเซ็ตหัวหลังเลิกงาน
- โคเวิร์กกิ้งสเปซสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน
- โซนสุขภาพ ทั้งสปา สปอร์ตคลับ คลินิกเวชศาสตร์ฟื้นฟู
- และโลเคชันที่โอบล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวของ สวนเบญจกิติ ที่แค่เดินออกไปไม่กี่ก้าว ก็เปลี่ยนจากห้องประชุมสู่บรรยากาศสวนกลางเมืองได้ทันที
ทั้งหมดนี้ทำให้ศูนย์ฯ สิริกิติ์ กลายเป็น “อีกหนึ่งทางเลือกของคนทำงานทุกไลฟ์สไตล์” ที่อยากดูแลทั้งร่างกายและจิตใจ โดยไม่ต้องหนีออกนอกเมือง
จาก After Work เป็น After Care เปลี่ยนเวลาหลังเลิกงาน ให้เป็นเวลาฟื้นฟูตัวเอง ในยุคที่ชีวิตการทำงานไม่ได้ยืดหยุ่นแค่รูปแบบ (Hybrid / Remote) แต่ “สุขภาพ” ก็เริ่มถูกมองเป็นทุนสำคัญพอ ๆ กับเงินเดือน
แนวคิด Relax. Reboost. Rehab. จึงไม่ใช่แค่สโลแกนเก๋ ๆ แต่เป็น Framework ง่าย ๆ ให้เราย้อนถามตัวเองว่า:
- วันนี้เรา ได้ผ่อนคลาย ร่างกายและหัวบ้างหรือยัง? (Relax)
- เราได้ เติมพลังให้ร่างกายฟิตขึ้น หรือแค่ใช้มันไปวัน ๆ? (Reboost)
- ถ้าปวดเรื้อรังสะสมมาเป็นปี ๆ เราได้ ฟื้นฟูให้ถูกจุด บ้างหรือยัง? (Rehab)
บางที “การดูแลตัวเอง” อาจไม่ใช่ทริปยาว ๆ ปีละครั้ง แต่คือการค่อย ๆ เติมบาล์มเล็ก ๆ ให้ชีวิตในทุกสัปดาห์ และสำหรับคนทำงานใจกลางกรุงเทพฯ ศูนย์ฯ สิริกิติ์อาจเป็นหนึ่งในไม่กี่ที่ ที่ทุกคน สามารถ แวะผ่อนคลาย – เติมฟิต – ฟื้นฟูเชิงลึก ได้ครบจบในที่เดียว ก่อนกลับบ้านไปนอน พร้อมเริ่มวันใหม่แบบสมดุลขึ้นอีกนิด