ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า บรรยากาศโดยทั่วไปยังคงมีเมฆฝนแพร่ปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ และมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องเป็นช่วงๆ ส่งผลทำให้น้ำป่าที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาสันกาลาคีรีในพื้นที่ อ.สุคิริน ที่อิ่มตัวและสะสมกันเป็นเวลานาน 4 วัน มวลน้ำได้ไหลทะลักลงมาสมทบกับปริมาณน้ำฝนในแม่น้ำสุไหงโก-ลกอย่างรวดเร็ว ส่งผลทำให้แม่น้ำสุไหงโก-ลก ล้นตลิ่ง และได้ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนที่ปลูกสร้างอยู่ที่ราบลุ่มตลอดแนวริมตลิ่งของแม่น้ำสุไหงโก-ลก ในพื้นที่ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.แว้ง สุไหงโก-ลกและตากใบ โดยมีระดับน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ย 30 ถึง 60 ซ.ม. โดยประชาชนบางครอบครัวได้รับความเดือดร้อน ต้องขอสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ในการขนย้ายสัมภาระที่จำเป็นหนีน้ำ เพื่อไปอยู่ที่บ้านของเครือญาติเป็นการชั่วคราว แต่ส่วนใหญ่ชาวบ้านยังคงอาศัยอยู่ที่บ้านพักบริเวณชั้น 2 เพื่อดูท่าที หากสภาวะฝนยังไม่หยุดตก ก็คงจะอพยพไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพเป็นการชั่วคราว นอกจากนี้แล้วผลพ่วงของสภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ ยังส่งผลทำให้แม่น้ำสายหลักอีก 2 สาย คือ แม่น้ำบางนรา ที่ได้รับอิทธิพลของมวลน้ำจากพื้นที่ อ.จะแนะและระแงะ และแม่น้ำสายบุรี ที่ได้รับอิทธิพลของมวลน้ำจากพื้นที่ อ.ศรีสาครและรือเสาะ ก็มีปริมาณน้ำล้นตลิ่งแล้วเช่นกัน ส่งผลทำให้มวลน้ำได้ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตรใน 5 อำเภอ ประกอบด้วย ระแงะ เจาะไอร้อง บาเจาะ ยี่งอ และอำเภอเมืองนราธิวาส โดยมีระดับน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ย 80 ซ.ม. ชาวบ้านบางส่วนก็ได้เริ่มอพยพสิ่งของสัมภาระที่จำเป็นรวมทั้งสัตว์เลี้ยง ไปอาศัยอยู่ตามบ้านของเครือญาติเป็นการชั่วคราว
โดยทางสำนักงานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นราธิวาส ได้รายงานผลกระทบจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. 60 ถึงวันที่ 27 พ.ย.60 เกิดสภาวะน้ำท่วมขังในพื้นที่ 25หมู่บ้าน 1 ชุมชน 13 ตำบล 8 อำเภอ มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 580 ครัวเรือน รวม 1,714 คน บ้านพักเสียหายบางส่วน 9 หลัง แยกเป็นพื้นที่ อ.สุคิริน 2 หลัง บาเจาะ 5 หลัง ตากใบ 2 หลัง