svasdssvasds

"กัมพูชา" ถอยแล้วหนึ่งก้าว! กลบคูเลต-ถอนกำลังไปในแนวปี 67

"กัมพูชา" ถอยแล้วหนึ่งก้าว! กลบคูเลต-ถอนกำลังไปในแนวปี 67

กัมพูชาถอยแล้วหนึ่งก้าว กลบคูเลต-ถอนกำลังไปในแนวปี 67 ทหารไทยเดินหน้ากดดันให้เอาอาวุธหนักออกจากแนวชายแดนต่อไป

วันที่ 8 มิ.ย. 68 มีรายงานว่า ทหารกัมพูชา ถอนกำลังและปิดกลบคูเลต บริเวณต้นพญาสัตบรรณ โดยตกลงกันว่าจะถอยกลับไปอยู่ในแนวเดิมเมื่อปี 2567 และจะมีการนัดพูดคุยระหว่างทหารทั้งสองฝ่ายสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง เพื่อลดความตึงเครียด

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า มีมีความยินดีที่สถานการณ์เป็นไปในทางบวกมากขึ้น กระทรวงกลาโหมและกองทัพไทยขอบคุณรัฐบาลกัมพูชาและกองกำลังส่วนหน้าของกองทัพกัมพูชา ที่ได้ร่วมเจรจาและช่วยคลี่คลายสถานการณ์ให้เป็นไปในทางที่ดี โดยคาดหวังว่าการเจรจา JBC ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ จะเป็นการคลี่คลายปัญหาของทั้งสองประเทศได้อย่างสันติ

ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พลโท สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พลตรี สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก

จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชาได้ยินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพระยาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต

นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียดและสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ

ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้ กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสม และยั่งยืนต่อไป

ทั้งนี้มีรายงานว่ากองทัพไทยแต่อยากเดินหน้าเจรจาเพื่อกดดันให้กัมพูชาได้ทำการถอนกำลังและอาวุธหนักที่ได้นำมาประชิดบริเวณแนวชายแดนออกไปเพื่อลดความตึงเครียด คาดว่าผลบวกครั้งนี้สืบเนื่องมาจากมาตรการกดดันการปิดด่านการค้า และการเจรจาลับที่เกิดขึ้นตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา

related