จำคุก 25 ปี จำเลยขนยาบ้ารถ "ชัยภูมิ ป่าแส" ที่ถูกวิสามัญ
ศาลเชียงใหม่ พิพากษาจำคุก 25 ปี ผู้ต้องหาขนยาบ้า ในรถยนต์นายชัยภูมิ ป่าแส ที่ถูกทหารวิสามัญเสียชีวิต เมื่อปีที่แล้ว ส่วนคดีชันสูตรศพ ศาลนัดฟังคำตัดสิน 6 มิ.ย.นี้
วานนี้(24 เม.ย.61) ศาลจังหวัดเชียงใหม่ มีคำพิพากษาคดีที่อัยการ เป็นโจทก์ฟ้องนางนาแส แสขื่อ , นางนาหวะ จะอือ และนางนวล คำป้าง ในคดีขนยาบ้า 2,800 เม็ด เมื่อวันที่ 17 มี.ค.60 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น นายชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมชาวลาหู่ ถูกทหารวิสามัญเสียชีวิตโดยจำเลยทั้ง 3 คน ถูกฟ้องในข้อหาร่วมกันสนับสนุน หรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิด ก่อนหรือขณะกระทำความผิด , และร่วมกันสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อร่วมกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
ทั้งในคำฟ้องระบุพฤติการณ์สำคัญว่า คดีนี้นางนวล จำเลยที่ 3 สั่งซื้อยาบ้าจำนวน 2,800 เม็ด จากนางนาแส จำเลยที่ 1 ที่มีการจัดหาและติดต่อไปยังนางนาหวะ จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นน้องสะใภ้นายไมตรี จำเริญสุขสกุล ประธานกลุ่มรักลาหู่ และเป็นผู้ดูแลนายชัยภูมิ เพื่อให้ทำหน้าที่ขนยาบ้า ไปส่งผู้สั่งซื้อ โดยใช้รถยนต์ฮอนด้าแจ๊ส สีดำ ขนของกลางดังกล่าว ที่มีนายชัยภูมิ เป็นคนขับ
ซึ่งระหว่างทาง ที่กำลังขับผ่านด่านบ้านรินหลวง ต.เมืองนะ จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ทหารอ้างว่า นายชัยภูมิ ขัดขืนการจับกุม และ พยายามจะขว้างระเบิดเข้าใส่ จึงต้องใช้อาวุธปืนวิสามัญ ก่อนตรวจค้นพบยาบ้าของกลาง ซุกซ่อนอยู่ในกรองอากาศรถคันดังกล่าว กระทั่งเดือนพ.ค.60 ตำรวจจับจำเลยทั้ง 3 คนได้
สุดท้ายศาลพิพากษาจำคุกนางนาแส ซึ่งเป็นผู้จัดหายาบ้าของกลาง เป็นเวลา 25 ปี ที่ให้การรับสารภาพว่าเป็นเจ้าของยาบ้าจริง โดยนางนาแส อ้างว่า นายชัยภูมิ เป็นผู้สั่งซื้อยาบ้า ก่อนถูกวิสามัญพร้อมของกลาง และไม่รู้จักกับนางนาหวะ ส่วนนางนาหวะ ผู้เลี้ยงดูนายชัยภูมิ และถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ทำหน้าที่ ออกคำสั่งให้นายชัยภูมิ ขนส่งยาบ้าไปให้ผู้ซื้อนั้น มีคำสั่งยกฟ้อง เนื่องจากพยานหลักฐานสืบไม่ถึง โดยชั้นสอบสวนนางนาหวะ ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ขณะที่นางนวล ผู้สั่งซื้อยาบ้า ไม่ได้ร่วมรับฟังคำพิพากษา เนื่องจากป่วยเส้นเลือดในสมองแตก ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาเป็นวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ ต่อหน้าจำเลยแทน ซึ่งนางนวล อ้างว่า เคยสั่งซื้อยาบ้าจากนางนาแส จำเลยที่ 1 จริง แต่ไม่เกี่ยวข้องกับยาบ้าชุดดังกล่าวสำหรับคดีไต่สวนการชันสูตรพลิกศพนายชัยภูมิ ที่มีการไต่สวนพยานทั้ง 2 ฝ่าย มานานกว่า 1 ปีนั้น ศาลจังหวัดเชียงใหม่ นัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 6 มิ.ย.นี้ ซึ่งผลคำตัดสินในคดีนี้ ศาลจะมีคำสั่งนำไปสู่สำนวนคดีวิสามัญฆาตกรรม ที่อยู่ในความติดตามของสังคมต่อไป
