สคบ. เกาะติดโกง 3 ปัญหาร้อนของสังคม "โฆษณาเกินจริง-แชร์ลูกโซ่-อีวอลเลท"
กลุ่มธุรกิจค้าปลี สายขายตรง จับกลุ่มถก สมรรถนะขายตรงไทยยุคใหม่ หลังถูกตั้งคำถามธุรกิจขายตรงโฆษณาเป็นเท็จและเกินจริง แถมทำธุรกิจกลายพันธุ์เป็นแชร์ลูกโซ่ และเปิดอี-วอลเล็ตผิดกฎหมาย
ประกาศเอาจริงคุ้มครองผู้บริโภค
พล.ต.ต.ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า สคบ.กำลังเฝ้าระวังและติดตามใน 3 ประเด็นร้อนทีเป็นปัญหาสังคม คือ 1. การโฆษณาสินค้าและบริการที่เกินจริงและเป็นเท็จ ไม่เป็นไปตามกฎระเบียบที่กำหนด โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารซึ่งพบมาก จากนี้ สคบ.จะเร่งตรวจสอบโฆษณาทุกชิ้น ที่่อยู่ในความรับผิดชอบ
อีกประเด็นร้อนคือ ธุรกิจขายตรง ที่มีการจ่ายผลตอบแทนไม่เป็นไปตามข้อกำหนด จนกลายพันธุ์ไปสู่ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ได้ หรืออาจมีเจตนาแอบแฝงเป็นแชร์ลูกโซ่ อี-วอลเลท (E-Wallet) หรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งหากผู้ประกอบการต้องการยื่นขอจดทะเบียนธุรกิจขายตรงด้วย จะต้องได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์จากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ก่อน จากนั้น สคบ.จึงจะรับจดทะเบียนธุรกิจขายตรง ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีผู้ประกอบการอี-วอลเลท ที่ได้รับอนุญาตจาก ธปท.เพียงกว่า 10 รายเท่านั้น
เลขาธิการ สคบ. กล่าวว่า 3 เรื่องนี้ เป็นประเด็นที่เฝ้าระวังและติดตาม โดยอยากเห็นธุรกิจขายตรงมีธรรมาภิบาล มีความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค และสังคม หากมีเรื่องร้องเรียนเข้ามา สคบ.จะเร่งส่งคนเข้าไปตรวจสอบ ที่ผ่านมาพบเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับธุรกิจขายตรง 200 กว่าราย
