ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
วันนี้ (21 ก.ค. 60) - พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป. ,พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท. ภาณุมาศ แสงส่อง สว.กก.1 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.1 บก.ป. จับกุม นายบุณยสิทธิ์ หรือ เฮียหลอ รุ่งธนเกียรติ อายุ 65 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.358/2560 ลงวันที่ 12 มิ.ย. 60 ในข้อหา ร่วมกันค้ามนุษย์โดยร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิด , ร่วมกันเป็นธุระจัดหาเพื่อสนองความไคร่ของผู้อื่นซึ่งบุคคลอายุเกิน 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี , ดำรงชีพแม้เพียงบางส่วนจากผู้ซึ่งค้าประเวณีอายุกว่า 16 ปี , ร่วมกันเป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทําการค้าประเวณีโดยกระทําแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี เป็นเจ้าของกิจการค้าประเวณี ผู้ดูแลหรือผู้จัดการกิจการค้าประเวณี หรือเป็นผู้ควบคุมผู้ค้าประเวณีโดยมีบุคคลอายุเกิน15ปีแต่ไม่เกิน18ปี , ร่วมกันชักจูง ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร โดยจับได้บริเวณลานจอดรถโรงแรมแห่งหนึ่งแขวงและเขตปทุมวัน
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงปลายเดือน มีนาคม 59 เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ภาค 5 ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำกำลังตรวจสอบร้านคาราโอเกะโซไนท์ ริมถนนศรีศรีดอนชัย ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์และการค้าประเวณีในเด็กและเยาวชน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าภายในร้านดังกล่าวมีการล่อลวงเด็กสาวอายุต่ำกว่า 18 ปีมาค้าบริการทางเพศ จำนวน 3 คน นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่ามีร้านคาราโอเกะที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกันในพื้นที่ จ.เชียงใหม่อีก 7 แห่ง ซึ่งทั้งหมดนั้นมี นายบุณยสิทธิ์ หรือ เฮียหลอ ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งเป็นพี่ชายของนักการเมืองระดับชาติคนหนึ่ง เป็นเจ้าของกิจการ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการขยายผลพร้อมทั้งติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีก่อนหน้านี้ได้แล้วจำนวน 6 ราย คงเหลือเพียง นายบุณยสิทธิ์ หรือ เฮียหลอ ที่ยังคงหลบหนี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงลงพื้นที่สืบหาเบาะแสเพิ่มเติม ก่อนจะทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ได้หลบหนีเข้ามากบดานซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่กระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการตรวจสอบประวัติของเครือข่ายแก๊งเฮียหลอ นั้น จะพบว่ามีพฤติกรรมในการล่อลวงเด็กสาวที่เป็นชาวต่างด้าว หรือ ชาวเขาบนพื้นที่สูงผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยจะอ้างว่าสามารถจัดหางานให้ทำมีรายได้สูงประมาณ 4-5 หมื่นบาทต่อเดือน เมื่อเหยื่อหลงเชื่อยอมมาทำงานด้วยก็จะถูกบังคับให้ขายตัว
เบื้องต้นจากการสอบสวน นายบุณยสิทธิ์ ยังคงให้การปฏิเสธ โดยจะขอให้รายละเอียดในชั้นศาลเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ก่อนส่งตัวให้ พนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ รับตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป