svasdssvasds

นิด้าโพล ชี้ คนไทยส่วนใหญ่ "ไม่ไว้ใจ" 'ฮุน เซน' มองคำทาย "มั่ว"

นิด้าโพล ชี้ คนไทยส่วนใหญ่ "ไม่ไว้ใจ" 'ฮุน เซน' มองคำทาย "มั่ว"

นิด้าโพล เผย คนไทยส่วนใหญ่ไม่เชื่อ 'ฮุน เซน' มองเป็นคนไม่น่าไว้วางใจ ทำเพื่อประโยชน์ตนเอง และคำทำนายเปลี่ยนนายกฯ เป็นเพียงเรื่อง "มั่วๆ" ที่แทรกแซงไทย

SHORT CUT

  • คนไทยส่วนใหญ่มองว่าสมเด็จ ฮุน เซน เป็นบุคคลที่ไม่น่าไว้วางใจ โดยร้อยละ 57.25 ระบุว่าไม่น่าไว้วางใจ และร้อยละ 67.63 มองว่าท่านกระทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
  • ประชาชนไม่เชื่อคำทำนายของสมเด็จ ฮุน เซน เกี่ยวกับการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีไทย โดยร้อยละ 43.05 ระบุว่าไม่น่าเชื่อ และร้อยละ 34.12 มองว่าเป็นการทำนายมั่วๆ
  • การเคลื่อนไหวและคำทำนายของสมเด็จ ฮุน เซน ถูกมองว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย โดยร้อยละ 18.85 มองว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในจากความเคลื่อนไหวทั่วไป และร้อยละ 19.01 มองว่าคำทำนายเรื่องนายกฯ ก็เป็นการแทรกแซงเช่นกัน

นิด้าโพล เผย คนไทยส่วนใหญ่ไม่เชื่อ 'ฮุน เซน' มองเป็นคนไม่น่าไว้วางใจ ทำเพื่อประโยชน์ตนเอง และคำทำนายเปลี่ยนนายกฯ เป็นเพียงเรื่อง "มั่วๆ" ที่แทรกแซงไทย

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนชาวไทยเกี่ยวกับ สมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา และคำทำนายของเขาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย การสำรวจนี้จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม 2568 โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง กระจายตัวทั่วประเทศ. ผลสำรวจเผยให้เห็นถึงทัศนคติของคนไทยที่มีต่อสมเด็จ ฮุน เซน ว่าเป็นบุคคลที่ไม่น่าไว้วางใจและกระทำการเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก

ทัศนคติของประชาชนไทยต่อสมเด็จ ฮุน เซน ในกรณีความขัดแย้งไทย-กัมพูชา เมื่อสอบถามความรู้สึกของประชาชนต่อความเคลื่อนไหวของสมเด็จ ฮุน เซน ในกรณีปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา

พบว่าประชาชนส่วนใหญ่มีมุมมองเชิงลบอย่างชัดเจน

ร้อยละ 67.63 ระบุว่า สมเด็จ ฮุน เซน ทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง

รองลงมา ร้อยละ 57.25 ระบุว่า สมเด็จ ฮุน เซน เป็นบุคคลที่ไม่น่าไว้วางใจ

นอกจากนี้ ร้อยละ 44.66 เห็นว่าคำพูดของสมเด็จ ฮุน เซน ไม่มีความน่าเชื่อถือ

ร้อยละ 40.53 ระบุว่า เขากำลังยุให้คนไทยแตกแยกกัน

มีประชาชนบางส่วน ร้อยละ 25.34 มองว่าสมเด็จ ฮุน เซน ต้องการยึดครองดินแดนของไทย

ร้อยละ 18.85 ระบุว่าเขากำลังแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย

และร้อยละ 14.12 เชื่อว่าเขากำลังเปิดเผยความลับเกี่ยวกับการเมืองไทย

ในทางกลับกัน มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่มองสมเด็จ ฮุน เซน ในแง่บวก

ร้อยละ 9.31 ระบุว่าทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศกัมพูชา

ร้อยละ 3.36 ระบุว่าทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนชาวกัมพูชา

ร้อยละ 1.30 เชื่อว่าคำพูดของเขามีความน่าเชื่อถือ

และมีเพียงร้อยละ 0.53 เท่านั้นที่มองว่าเขากระทำเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา

ปฏิกิริยาต่อคำทำนายการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีไทย

เมื่อสอบถามถึงความรู้สึกของประชาชนต่อคำทำนายของสมเด็จ ฮุน เซน ที่กล่าวว่าประเทศไทยจะมีการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีภายในสามเดือน และเขารู้ว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่

เชื่อถือในคำทำนาย

ร้อยละ 43.05 ระบุว่าไม่น่าเชื่อถือ

ร้อยละ 34.12 ระบุว่า สมเด็จ ฮุน เซน ทำนายมั่วๆ

ร้อยละ 33.97 มองว่าเป็นความพยายามยุให้คนไทยตีกัน

ร้อยละ 30.31 เห็นว่าการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีเป็นไปได้ แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ว่าใครจะได้เป็นนายกฯ

ร้อยละ 25.34 มองว่าเป็นการวิเคราะห์ตามสถานการณ์ทางการเมืองไทย

ร้อยละ 19.01 เชื่อว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย

ร้อยละ 14.66 ระบุว่าสมเด็จ ฮุน เซน พูดตามข่าวกรองที่ได้มา

ร้อยละ 10.69 มองว่าเป็นการเตือนนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร

มีเพยงร้อยละ 7.25 เท่านั้นที่เชื่อว่าคำทำนายนี้ "น่าเชื่อ"

ระเบียบวิธีวิจัยและลักษณะของกลุ่มตัวอย่าง การสำรวจนี้ดำเนินการโดยอาศัย การสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) และเก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ การสำรวจนี้มีค่าความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 0.05 ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 97.0

ลักษณะทั่วไปของกลุ่มตัวอย่างมีความหลากหลาย

ภูมิลำเนา: กระจายตัวในทุกภูมิภาค โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีสัดส่วนมากที่สุดที่ร้อยละ 33.28

เพศ: เป็นเพศชายร้อยละ 47.94 และเพศหญิงร้อยละ 52.06

อายุ: ครอบคลุมทุกช่วงวัย โดยกลุ่มอายุ 46-59 ปี มีสัดส่วนมากที่สุดที่ร้อยละ 26.34

ศาสนา: ส่วนใหญ่เป็นศาสนาพุทธ ร้อยละ 96.79

สถานภาพสมรส: ส่วนใหญ่สมรสแล้ว ร้อยละ 61.99

ระดับการศึกษา: มีตั้งแต่ไม่ได้รับการศึกษา (ร้อยละ 0.31) จนถึงสูงกว่าปริญญาตรี (ร้อยละ 5.50) โดยกลุ่มที่จบมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่ามีสัดส่วนมากที่สุดที่ร้อยละ 33.89

อาชีพ: มีหลากหลายอาชีพ เช่น พนักงานเอกชน (ร้อยละ 17.48), เจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ (ร้อยละ 25.34), เกษตรกร/ประมง (ร้อยละ 9.16), และรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน (ร้อยละ 13.98) รวมถึงกลุ่มพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน (ร้อยละ 19.54)

รายได้: มีความหลากหลาย โดยกลุ่มที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท มีสัดส่วนมากที่สุดที่ร้อยละ 34.66.

ผลสำรวจจากนิด้าโพลชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่มีความรู้สึกไม่ไว้วางใจสมเด็จ ฮุน เซน และมองว่าการกระทำของเขามักจะเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน รวมถึงคำพูดของเขาขาดความน่าเชื่อถือในสายตาของคนไทย

สำหรับคำทำนายเกี่ยวกับการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ประชาชนส่วนมากมองว่าเป็นเพียง "การทำนายมั่วๆ" และไม่น่าเชื่อถือ หรือเป็นความพยายามที่จะสร้างความแตกแยกในสังคมไทย

ผลการสำรวจนี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองของคนไทยที่ค่อนข้างเป็นเอกฉันท์และระมัดระวังต่อการเคลื่อนไหวและคำกล่าวอ้างจากสมเด็จ ฮุน เซน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและกิจการภายในของไทย

อ้างอิง

นิด้า

related