ฆาตกรรมภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ รณณรงค์ ชี้โทษ ประหาร เท่านั้น

ฆาตกรรมนักท่องเที่ยวสาวในภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ นับเป็นหนึ่งในคดีที่เร็วที่สุดคดีหนึ่ง 

วันที่ 5 ส.ค. 64
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุ พบศพนักท่องเที่ยวสาว ทราบชื่อว่า นิโคล ซอเวน ไวซคอป (Nicole Sauvain-Weisskopf) วัย 57 ปี สัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการกองพิธีการรัฐสภาแห่งสมาพันธ์รัฐสวิตเซอร์แลนด์

วันที่ 6 ส.ค. 64
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร่วมแสดงความเสียใจให้กับคดีสะเทือนขวัญในครั้งนี้ และสั่งการให้ตำรวจจากส่วนกลางและในพื้นที่เร่งสืบสวนข้อเท็จจริง ตามหาตัวผู้กระทำความผิด

วันที่ 7 ส.ค. 64
ตำรวจสามารถรวบผู้ต้องหา ทราบชื่อ นายธีรวัฒน์ ท่อทิพย์ (บังหลี) อายุ 27 ปี ชาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

วันที่ 8 ส.ค. 64
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลง ตั้งข้อหาให้บังหลี ผู้ต้องหาก่อเหตุเพื่อหวังชิงทรัพย์ จึงตั้งข้อหา "ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย" และนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• สาวสวิตเซอร์แลนด์ถูกฆ่าภูเก็ต เขย่าเชื่อมั่นแผนเปิดประเทศปลุกเศรษฐกิจ

• "ดอน" ต่อสายด่วนแสดงความเสียใจ ทูตสวิส ปมทัวริสต์สาว ถูกฆาตกรรม จ.ภูเก็ต

• ผบ.ตร.แถลงจับมือฆ่านักท่องเที่ยวสวิส สารภาพไม่ได้ตั้งใจฆ่า หวังชิงทรัพย์

ทางสปริงนิวส์ จึงได้สอบถามไปยัง ทนายความรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ว่าการนี้ทางสวิตเซอร์แลนด์จะสามารถขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปรับโทษได้หรือไม่ 

จึงได้คำตอบกลับมาว่า "คดีฆาตกรรมภูเก็ตนี้ เหตุเกิดที่ประเทศไทย ภายในราชอาณาจักรไทย ต้องใช้อำนาจอธิปไตยไทย ลงโทษด้วยกฎหมายไทย สวิตเซอร์แลนด์ไม่สามารถขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ การจะขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ ต้องไปก่อเหตุในประเทศนั้นๆ แล้วหลบหนีไปประเทศอื่น ให้ประเทศนั้นๆ ทำการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้"

"ซึ่งตามที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาไว้ 'ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย' ซึ่งเป็นโทษตาม มาตรา 339 ต้องจำคุก 5-10 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000-20,000 บาท แต่ข้อหาในครั้งนี้พ่วงด้วยว่า 'เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย' ทำให้อยู่ในส่วนของ มาตรา 339 ทวิ มีอัตราโทษ คือ 'ประหารชีวิต' เท่านั้น" ทนายรณณรงค์ กล่าว

จากนั้น ทนายรณณรงค์ เสริมด้วยว่า "แม้ทางการสวิตเซอร์แลนด์จะไม่สามารถขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปได้ แต่สิ่งที่ทางสวิตเซอร์แลนด์สามารถทำได้ คือการแต่งตั้งทนายความ มาเป็นโจทก์ร่วมในชั้นศาลไทย"