มนู สั่งสอบตำรวจชุดจับยา ใครใช้ความรุนแรงแบบ ผกก.โจ้ ฟันไม่เลี้ยง!

จากกรณีที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีคำสั่งแต่งตั้งให้พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร.เป็นผู้ตรวจสอบชุดปฏิบัติการพิเศษปราบปรามยาเสพติด ทุกหน่วยทั่วประเทศว่า มีตำรวจนายใดมีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์หรือกระทำการรุนแรงเช่นเดียวกับ กรณี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนพล อดีตผู้กำกับการ(ผกก.)สภ.เมืองนครสวรรค์ ผกก.โจ้ หรือไม่

วันที่ 28 สิงหาคม 2564 พล.ต.อ.มนู กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินการตามคำสั่งของ ผบ.ตร.ว่า ขณะนี้ได้ทำหนังสือไปยังผู้บังคับบัญชาทุกหน่วย ที่มีชุดปฏิบัติการพิเศษปราบปรามยาเสพติด และมีตำรวจที่ทำงานเกี่ยวข้องกับยาเสพติดทุกนาย ให้ส่งรายชื่อและหน้าที่ที่รับผิดชอบ รวมถึงการปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดทุกคดี มาให้คณะทำงานตรวจสอบว่า มีความเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของ ผกก.โจ้ หรือมีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์ ใช้ความรุนแรงในการสืบสวนสอบสวนแบบเดียวกับคดีของ ผกก.โจ้ หรือไม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• แฉ! อีกราย เรื่องฉาววงการสีกากี คดีคล้าย "ผู้กำกับโจ้"

• "หมอพรทิพย์" เผย ตาชั่งเอียงตั้งแต่เริ่มต้น ปมแถลงคดี "ผู้กำกับโจ้"

• สิระ แฉ ผกก.โจ้ เคยให้ถูกออกจากราชการ เตรียมลากคนคนมีคลิปแต่เก็บเงียบ

หากพบการกระทำความผิด หรือมีพฤติการณ์ลักษณะใกล้เคียงกัน ก็จะมีคำสั่งให้ออกจากชุดปฏิบัติการหรือพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดไปก่อน จนกว่าการตรวจสอบของคณะกรรมการจะเสร็จสิ้น พร้อมคาดโทษไปถึงผู้บังคับบัญชาทุกหน่วย หากมีการปกปิดรายชื่อหรือปกปิดพฤติกรรมของผู้ใต้บังคับบัญชา จะต้องถูกลงโทษตามขั้นตอนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทันที

ทั้งนี้ ได้กำชับไปยังทุกหน่วยว่า ให้รีบส่งรายชื่อไปยังคณะทำงานโดยเร็วที่สุด เพื่อให้รวดเร็วต่อการตรวจสอบ พร้อม ยังได้ประสานงานกับจเรตำรวจแห่งชาติ นำขอร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดมาตรวจสอบ เบื้องต้นพบ การร้องเรียนมาหลายคดี แต่ยังไม่ทราบถึงรายละเอียดดังกล่าว

ขอยืนยันว่า การตรวจสอบในครั้งนี้จะไม่มีการช่วยเหลือ หรือละเว้นบุคคลใดไม่ว่าจะมาจากกองบัญชาการ กองบังคับการ สภ.หรือสน.ใด หากพบการกระทำความผิดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ และหากมีมูลความผิดก็ต้องดำเนินการทางวินัยและอาญา โดยไม่ละเว้น เนื่องจากเป็นเรื่องที่ ผบ.ตร.ให้ความสำคัญและกังวลต่อเรื่องนี้ เพราะมีผลต่อภาพลักษณ์การทำงานของตำรวจโดยรวม และต้องการกู้ภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

นอกจากนี้ ในฐานะที่ดูแลงานด้านการปราบปรามยาเสพติด ได้กำชับไปยังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ระมัดระวังเรื่องการจับกุม ล่อซื้อ และการขยายผลคดียาเสพติดต่างๆ ทุกคดี ให้เป็นไปตามยุทธวิธีและขั้นตอนกระบวนการของกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับ ผกก.โจ้ ขึ้นมาอีก