10 ประเด็น เกร็ดประวัติศาสตร์เกมแดงเดือด แมนฯยูฯ - ลิเวอร์พูล ผีแพ้ยับ 0-5

1.) เกมแดงเดือด แมนฯยูฯ - ลิเวอร์พูล ที่โรงละครแห่งความฝัน กลายเป็นฝันร้ายของแฟนบอลผีแดงทั่วโลก เพราะมันคือประวัติศาสตร์การแพ้ยับเยินที่สุดในเกมแดงเดือด ผลสกอร์ออกมา 0-5 แม้ แมนฯยูฯจะเหลือ 10 คน แต่เมื่อพิจารณาจากรูปเกมแล้ว โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมแมนฯยฯ ถือว่าอยู่ในภาวะวิกฤตแล้ว โดยการพ่ายแพ้นัดนี้ ทำให้ แมนฯยูฯ แพ้ในเกมแดงเดือด เละที่สุดในประวัติศาสตร์ที่บ้านตัวเอง
.
2). การพ่ายแพ้ของแมนฯยูฯ ในเกมแดงเดือด แมนฯยูฯ - ลิเวอร์พูล 24 ตุลาคม 2021 หรือค่ำคืนที่ผ่านมา นับเป็นแพ้ยับที่สุด ในรอบ 126 ปี โดย เมื่อตุลาคม ปี 1895 ลิเวอร์พูล เคยชนะแมนฯยูฯ สกอร์ 7-1 มาแล้ว แต่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นที่แอนฟิลด์ 
.
3) สกอร์ 0-5 ที่แมนฯยูฯ แพ้ในเกมแดงเดือดต่อลิเวอร์พูล ยังเป็นสกอร์แพ้คาบ้านต่อคู่แข่งที่เละที่สุด นับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่แมนฯยูฯ แพ้แมนฯซิตี้ คาบ้าน เมื่อปี 1955 ในยุคการคุมทีมของแมตต์ บัสบี้ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เยอร์เก้น คล็อปป์ ขอไม่ฉลองเยอะ ให้เกียรติผีแดง หลังเกม แมนฯยูฯ - ลิเวอร์พูล

• 10 เกร็ดสถิติ เกมแดงเดือด แมนฯยูฯ - ลิเวอร์พูล เกมแห่งศักดิ์ศรีพรีเมียร์ลีก
• เปิดผลงาน ทีมชาติไทย U23 ชิงแชมป์เอเชียในอดีต ตีตั๋วรอบสุดท้ายแล้ว 3 ครั้ง
• ทำความรู้จัก 4 แข้งนอก ติดทีมชาติไทย U23 ลุยชิงแชมป์เอเชีย 2022 รอบคัดเลือก

4). โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือแมนฯยูฯ ยืนยันหลังเกมว่า ยังไม่ใช่เวลาที่ต้องยอมแพ้ เพราะเขามาไกลแล้ว แม้แมนฯยูฯจะอยู่ในจุดที่ตกต่ำ แต่มันไม่ใช่เวลายอมแพ้ 
.
5).ด้าน เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล แม้จะชนะขาดลอย แต่เขายังยอมรับว่า ผลการแข่งขันเกมแดงเดือด 0-5 เป็นสิ่้งที่เหนือความคาดหมาย มันเป็นชัยชนะที่พิเศษ แต่ลิเวอร์พูล จะไม่ ฉลองอย่างบ้าคลั่งเพราะเขาให้ความเคารพคู่แข่ง
.
6) กลายเป็นอีกหนึ่งภาพประวัติศาสตร์จากเกมแดงเดือด โดยแฟนบอลแมนฯยูฯ เรดเดวิลส์ ทะยอยออกจากสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด หลักหลายพันคน (หรือบางทีอาจเป็นหมื่น) ตั้งแต่นาทีที่ 65 เมื่อสกอร์ตามหลัง 0-5 

7) อีกหนึ่งเรื่องจากเกมแดงเดือด คือช็อตที่กล้องจับภาพเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตกุนซือแมนฯยูฯ ที่มาชมเกมนี้ในสนามด้วย และเซอร์อเล็กซ์ ถึงกับส่ายหน้ากับรูปเกมที่ออกมา แต่แฟนบอลแมนฯยูฯ ที่หวังจะเห็นเซอร์อเล็กซ์ กลับมาคุมทีมคงหมดสิทธิ์เกือบ 100 เปอร์เซนต์ เพราะ ปัจจุบัน กำลังจะย่างก้าวเข้าสู่วัย 80 ปีแล้ว 

8). โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กองหน้าลิเวอร์พูล สถาปนาเป็นเป็นสุดยอดกองหน้า ณ นาทีนี้อย่างแท้จริงกดแฮตทริกใส่ แมนฯ ยูฯ ในโอลด์แทรฟฟอร์ด ในเกมแดงเดือด โม ซาลาห์ และเป็นคนแรกต่อจาก โรนัลโด้ (R9)  ที่ทำไว้ในแชมเปี้ยนส์ลีก 2003 , นอกจากนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แข้งอียิปต์ ยังเป็น คนแรกของลิเวอร์พูลหลัง เฟร็ด ฮาว ทำแฮตทริคได้ที่โอลด์ แทรฟเฟิร์ด นับจาก พ.ย. 1936 หรือเมื่อ 85 ปีที่แล้ว 
.
9) นอกจากนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นนักเตะ ลิเวอร์พูล คนแรกที่ยิงในโอลด์แทรฟฟอร์ดเกมแมนฯยูฯ - ลิเวอร์พูล  ติดต่อกันสามเกม  นับทุกรายการ แกยิงรวดแล้ว 10 นัด เป็น 7 ในพรีเมียร์ลีก หากเกมหน้ายิงได้จะขึ้นมาทาบ ดาเนียล สเตอริดจ์ ที่ทำไว้ 8ในสีเสื้อ ลิเวอร์พูล
.
10) . เจอร์เกน คล็อปป์ กลายเป็นกุนซือที่คุมทีมลิเวอรพูลลงเล่นในพรีเมียร์ลีกมากที่สุด 229 เกมแซงหน้า ราฟาเอล เบนิเตซ และ เชราร์ด อุลลิเยร์(นับรวมช่วงที่ทำงานร่วมกับ รอย อีแวนส์)ยืนหนึ่งไม่มีใครทาบ