มาเลเซียเตรียมขาย ถุงยางอนามัย Unisex ใช้ได้ทั้งสองเพศ ครั้งแรกของโลก

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า บริษัทเวชภัณฑ์ในมาเลเซีย เตรียมเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ ถุงยางอนามัย Unisex ที่ใช้ได้ทั้งชายและหญิงเป็นครั้งแรกของโลก และข่าวนี้ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ของการคุมกำเนิดของโลก ที่สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก
.
 ถุงยางอนามัยที่ใช้ทั้งได้สองเพศ ซึ่งผลิตในมาเลเซียครั้งนี้ ใช้ชื่อว่า “วอนดาลีฟ” (Wondaleaf) โดยเป็นถุงยางอนามัย Unisex ที่สวมใส่ได้ทั้งชายและหญิงเป็นแบบแรกของโลก โดยเป็นผลผลิตของ “ทวิน แคทาลิสต์” บริษัทเวชภัณฑ์ในมาเลเซีย
.
ทางด้าน ‘จอห์น ตั้ง อิง ชิง’ สูตินรีแพทย์ หัวหน้าทีมนักวิจัยและพัฒนาถุงยางอนามัยที่ใช้ทั้งได้สองเพศ หรือถุงยางอนามัยยูนิเซ็กส์ เปิดเผยว่า คิดจะผลิตถุงยางชนิดนี้  หลังจากพบว่า ปัญหาจากการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีอัตราเพิ่มสูงขึ้น และเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการคุมกำเนิดรูปแบบอื่น เนื่องการคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนมีผลข้างเคียง และมีค่าใช้จ่ายสูงสำหรับผู้หญิง

ข่าวที่น่าสนใจอื่นๆ

• เมอร์ค Merck จะอนุญาตให้ 105 ประเทศ ผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ ต้านโควิด-19

• จีนที่ย้อนแย้งกับท่าทีสับสนในนโยบายสิ่งแวดล้อม ที่ขัดแย้งกันเอง

• Sharenting ที่อาจบานปลาย สู่การ ละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของคนในครอบครัว

นายแพทย์ จอห์น ตั้ง อิง ชิง ให้ความเห็นผ่านรอยเตอร์ว่า ถุงยางอนามัยยูนิเซ็กส์ ทำมาจากวัสดุชนิดเดียวกับแผ่นปิดแผลแบบใสที่บาง ยืดหยุ่น และให้การปกป้อง ด้วยลักษณะการยึดติดของถุงยางอนามัย ทำให้สามารถสวมก่อนเวลาได้โดยไม่ลื่นหลุด และเป็นการคุมกำเนิดที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถกลับด้านได้
.
จากคำอธิบายของ นายแพทย์ จอห์น ตั้ง อิง ชิง นั่นหมายความว่า คู่รักที่ใช้ ถุงยางอนามัย Unisex  สามารถสอดเข้าไปในช่องคลอด หรือสวมทับอวัยวะเพศชายได้ นั่นเอง
.
ทั้งนี้ ถุงยางอนามัยที่ใช้ทั้งได้สองเพศ ได้ผ่านการวิจัยและทดสอบทางคลินิกหลายรอบแล้วในมาเลเซีย และจะวางจำหน่ายผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทในเดือนธันวาคมนี้ หนึ่งกล่องบรรจุถุงยางอนามัย 2 ชิ้น จำหน่ายใน ราคา 14.99 ริงกิต หรือ ราว 120 บาท

ประวัติถุงยางอนามัย
.
สำหรับ ประวัติถุงยางอนามัย ...จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ที่มีการคิดค้นพัฒนาจนมี ถุงยางอนามัย Unisex กันแล้วบนโลกใบนี้ โดยในอดีตนั้น ถุงยางอนามัย (Condom) มาจากภาษาละติน แปลว่า ภาชนะที่รองรับ
.
เป็นอุปกรณ์คุมกำเนิดที่นิยมใช้กันมากที่สุดในขณะร่วมเพศ ทำด้วยวัสดุจากยางพารา หรือโพลียูรีเทน โดยมีทั้งแบบสำหรับผู้ชายและผู้หญิง ส่วนใหญ่ฝ่ายชายจะเป็นฝ่ายใช้โดยใช้สวมครอบอวัยวะเพศ
.
โดยหลักๆแล้ว ถุงยางอนามัย หากแบ่งแยกตามวัสดุที่ใช้ผลิต จะแบ่งได้ 2 ชนิด คือ 1 ชนิดที่ทำจากน้ำยางธรรมชาติ (rubber condom or latex condom) 2. ชนิดที่ทำจาก Polyurethane หรือ Polyisoprene (ถุงยางพลาสติก)
.
และไม่ใช่ว่า ถุงยางอนามัย จะใช้เป็นอุปกรณ์ในการป้องกันการคุมกำเนิดเพียงเท่านั้น แต่ ยังช่วยป้องกันการติดเชื้อเอดส์  HIV 70-87 % ในกลุ่มชายรักชาย และมากกว่า 90 %ในกลุ่มคู่รักชายหญิง อีกทั้ง  ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคเริม โรคตับอักเสบบี โรคหูดหงอนไก่ โรคหนองในแท้และเทียม โรคซิฟิลิส ได้ 50-90% ได้ด้วย