อัฟกานิสถานน่าเป็นห่วง เกิดวิกฤตอาหาร ต้องการเงินต่างชาติหมุนช่วยด่วน

28 Jan 2022

ชาวอัฟกันหลายคนหิวโหย หลังกลุ่มตาลีบันเข้าปกครอง ส่งผลให้การสนับสนุนเงินทุนจากต่างประเทศหยุดชะงัก เศรษฐกิจย่ำแย่ลง รวมไปถึงมีการริดรอนสิทธิสตรี และภาวะหิวโหยรุนแรง

สถานการณ์ในอัฟกานิสถานกำลังตกอยู่ในสถานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก และสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤตหลายด้าน ทั้งภัยความมั่นคง ความปลอดภัยในชีวิต ขาดแคลนทรัพยากรจำเป็น เช่น ยา อาหาร น้ำดื่ม ไฟฟ้า การเข้าถึงสาธารนูปโภค รวมไปถึงเกิดการริดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนในประเทศ หลังกลุ่มตาลีบันเข้าปกครองเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2021 และมีการตกลงกับนานาชาติว่าจะสร้างความเท่าเทียมให้กับคนทุกเพศ ทุกสถานะ แต่อยู่ในระเบียบของศาสนา

ปัจจุบันประชาชนหลายล้านคนยังคงอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง และขาดสิทธิเสรีภาพในการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็กผู้หญิง ที่สื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานตรงกันว่า กฎหมายใหม่ของกลุ่มตาลีบันนั้น ริดรอนสิทธิเสรีภาพของสตรีอย่างเห็นได้ชัด แม้ตาลีบันจะออกมาโต้ว่า ทั้งหมดคือข้อบังคับชั่วคราว เพื่อจัดระเบียบการปกครองเท่านั้น แต่จนตอนนี้ยังไม่เกิดการเปลี่ยนใดๆที่ส่อถึงสถานการณ์ที่ดีขึ้น

ล่าสุด อันโตนิโอ กูเตอร์เรส (Antonio Guterres) เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวกับคณะมนตรีความมั่นคงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยเรียกร้องให้ประเทศต่างๆอนุมัติการทำธุรกรรมทั้งหมดที่จำเป็นเพื่อดำเนินกิจกรรมด้านมนุษยธรรมในรัฐที่ปกครองโดยตาลีบัน

Antonio Guterres กล่าวในสภาว่าต้องกระจายเงินจากธนาคารเพื่อช่วยเหลือประชาชนอัฟกันให้เร็วที่สุด Cr.REUTERS/Mohamed Azakir นอกจากนี้ เขายังผลักดันให้มีการระงับกฎหรือเงื่อนไขใดๆที่บีบรัดการดำเนินการเข้าช่วยเหลือผู้คนนับล้านในประเทศที่กำลังประสบปัญหาความหิวโหยอย่างรุนแรง การศึกษาและสิทธิมนุษยชนที่เข้าใกล้กับคำว่าล่มสลายแล้ว การขาดสภาพคล่องในหลายๆด้านจำกัดความสามารถของสหประชาชาติและกลุ่มที่มีความประสงค์เข้าช่วยเหลือผู้ยากไร้

“เราจำเป็นต้องให้การรับรองทางกฎหมายแก่สถาบันการเงินและพันธมิตรทางการค้า เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาสามารถทำงานร่วมกับผู้ปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรมโดยไม่ต้องกลัวหรือกังวลว่าจะละเมิดมาตรการการคว่ำบาตรใดๆ” กูเตอร์เรสกล่าว

เงินสำรองของธนาคารกลางอัฟกานิสถานจำนวน 9.5 พันล้านดอลลาร์ยังคงถูกปิดกั้นในต่างประเทศ และการสนับสนุนการพัฒนาระหว่างประเทศได้เหือดแห้งลง ตั้งแต่กลุ่มตาลีบันเข้ายึดอำนาจเมื่อเดือนสิงหาคม 2021 ผู้บริจาคพยายามใช้เงินเพื่อยกระดับกลุ่มตาลีบันในประเด็นต่างๆรวมถึงสิทธิมนุษยชน

เดโบราห์ ลียง (Deborah Lyons) ทูตพิเศษขององค์การสหประชาชาติประจำอัฟกานิสถาน กล่าวกับสภาว่า “มีหลักฐานที่น่าสนใจ ว่ามีการคุกคามและเสื่อมถอยในด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการรวมอำนาจของรัฐบาลอาจนำไปสู่การควบคุมประชาชนด้วยความหวาดกลัว”

ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ผู้ที่บริจาคให้กับกองทุนความน่าเชื่อถือในการฟื้นฟูอัฟกันของธนาคารโลก ซึ่งบริหารงานโดยธนาคารโลก ตกลงที่จะโอนเงินจำนวน 280 ล้านดอลลาร์ให้กับโครงการอาหารโลกและองค์การยูนิเซฟเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ เพื่อสนับสนุนโภชนาการและสุขภาพในอัฟกานิสถาน Guterres กล่าวว่า เงินที่เหลือในธนาคารโลก 1.2 พันล้านดอลลาร์นั้นมีความจำเป็นต้องได้รับการปลดปล่อยโดยด่วน เพื่อนำมาช่วยให้ชาวอัฟกานิสถานอยู่รอดในฤดูหนาว

ลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติ กล่าวกับสภาว่า วอชิงตันได้เริ่มเคลื่อนไหวเพื่อให้แน่ใจว่าการคว่ำบาตรของสหรัฐฯจะไม่ขัดต่อกิจกรรมด้านมนุษยธรรมและกำลังตรวจสอบการเลือกอื่นๆเพื่อเข้าบรรเทาวิกฤติสภาพคล่องในด้านต่างๆ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ต้องการเงินสดหมุนในระบบเศรษฐกิจอัฟกัน

โดมินิก สติลฮาร์ต ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของ ICRC กล่าวว่าการหารืออย่าง "เข้มข้น" ระหว่างสหประชาชาติ, ICRC, ธนาคารโลก และประเทศผู้บริจาคหลักนั้นเน้นตรงไปที่ "สถานที่แลกเปลี่ยนด้านมนุษยธรรม" ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนหรือจัดการโดยธนาคารโลก และอนุญาตให้เงินเพื่ออัดฉีดเข้าสู่เศรษฐกิจอัฟกัน

เขาบอกกับผู้สื่อข่าวว่าสามารถฝากเงินไว้ในสิ่งอำนวยความสะดวก "ภายใต้เงื่อนไขบางประการที่ผู้ค้าในอัฟกานิสถานสามารถใช้เงินสดได้" แม้ว่าเขาจะกล่าวว่าเป็นมาตรการชั่วคราวเพราะ "ต้องเป็นธนาคารกลางเท่านั้นที่มีความสามารถ เพื่อปลดเปลื้องหน้าที่เหล่านี้"

Thomas-Greenfield กล่าวว่า "ในท้ายที่สุด เศรษฐกิจอัฟกันที่จะดำเนินการต่อได้จะต้องอาศัยธนาคารกลางที่เป็นอิสระและมีความสามารถทางเทคนิคซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการธนาคารระหว่างประเทศ"

เมื่อต้นเดือนนี้องค์การสหประชาชาติได้ยื่นขอเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจำนวน 4.4 พันล้านดอลลาร์สำหรับอัฟกานิสถานในปี 2565 และเมื่อวันพุธที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติระบุว่าต้องการเงินอีก 3.6 พันล้านดอลลาร์สำหรับสุขภาพและการศึกษา โครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมการดำรงชีวิตและการอยู่ร่วมกันในสังคม โดยเฉพาะความต้องการของผู้หญิงและสาวๆ

องค์กรยูนิเวฟให้การช่วยเหลือตลอด แต่ยังกังวลด้านการเข้าถึงที่แท้จริงของสิ่งของที่ส่งไปให้ Cr. REUTERS/Zohra Bensemra อย่างที่พอทราบกันมาบ้างว่า กลุ่มตาลีบันนั่นเคร่งครัดเรื่องกฎทางศาสนาแบบสุดโต่งและภายใต้กฎข้อบังคับเหล่านั้น ส่วนใหญ่เป็นการกดทับสิทธิสตรีรวมไปถึงอิสระภาพในหลายๆด้านตามความเชื่อเฉพาะกลุ่ม การปกครองครั้งนี้ ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ตกอยู่ภายใต้อำนาจที่เคร่งครัดและสภาพการณ์ที่มืดมนลงไปกับการขาดอิสรภาพ เช่น เด็กผู้หญิงห้ามเรียนหนังสือ ผู้หญิงห้ามออกไปทำงาน ต้องอยู่ทำงานบ้านภายในบ้านของตนเท่านั้น จะไปไหนคนเดียวไม่ได้ต้องมีญาติชายไปด้วย เล่นดนตรีไม่ได้ แสดงละครโทรทัศน์ไม่ได้ ห้ามแต่งกายนอกเหนือจากที่ศาสนากำหนด เป็นต้น ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การปิดการกิจกรรมทั่วไปของผู้หญิงที่เคยเท่าเทียมกับผู้ชายออกไป จึงไม่แปลกใจถ้าหากว่าอัฟกานิสถานจะถูกคว่ำบาตรจากนานาประเทศที่เห็นความสำคัญของสิทธิเสรีภาพประชาชนมากกว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ประชาชนต้องมาก่อนเสมอ