svasdssvasds

SmartWater เทคโนโลยีที่ช่วยป้องกันภัยคุกคามและการทำร้ายร่างกาย

SmartWater เทคโนโลยีที่ช่วยป้องกันภัยคุกคามและการทำร้ายร่างกาย

ความรุนแรงในครอบครัวมักเกิดขึ้นกับเด็กและผู้หญิงที่ไม่สามารถป้องกันตัวจากเหตุทำร้ายร่างกายได้ SmartWater เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยระงับเหตุและลากตัวผู้กระทำความผิดมารับโทษได้เป็นผลสำเร็จ

ภาพสะท้อนปัญหาความรุนแรงในครอบครัว
ผู้ก่อเหตุรายแรกในสหราชอาณาจักรที่ถูกตัดสินความผิดและจำคุกใน ข้อหาละเมิดคำสั่งห้ามใช้ความรุนแรงหรือข่มขู่จะใช้ความรุนแรงกับอีกฝ่ายหลังเหยื่อฉีดพ่นสารจาก SmartWater ทำให้สามารถระบุตัวและยืนยันหลักฐานในการกระทำความผิด

 


โดยในกรณีนี้ ชายจากเมืองเวคฟิลด์ เวสต์ยอร์กเชียร์ ตามคุกคามอดีตคนรักและฝ่าฝืนคำสั่งห้ามเข้าใกล้เธอ  พยายามจะบุกเข้าไปในบ้านของธอ จนเป็นเหตุให้เธอฉีด  SmartWater ที่มีลักษณะของเหลวนี้เพื่อป้องกันตัวเอง จึงช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถรวบตัวชายคนดังกล่าวได้เป็นผลสำเร็จ เพราะหลักฐานสามารถระบุยืนยันตัวเขากับสถานที่เกิดเหตุ เพราะแต่ละกระป๋องจะมีรหัสเฉพาะขวดอยู่ ทำให้ชายคนนี้ถูกจำคุกเป็นเวลา 24 สัปดาห์และได้รับคำสั่งห้ามเข้าใกล้หรือติดต่อกับเหยื่อเป็นเวลา 2 ปี

 

เหยื่อรายนี้ในยอร์กเชียร์ตะวันตก เป็น 1 ในผู้หญิงกว่า 200 คนทั่วอังกฤษ ที่มีชุดป้องกันทางนิติเวชอยู่ในบ้าน

 

Lee Berry ผู้กำกับการนักสืบของ West Yorkshire Police ผู้คิดไอเดียนี้กล่าวกับสื่อว่า "การล่วงละเมิดในครอบครัวมักจับกุมและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดได้ยากเพราะส่วนใหญ่เกิดขึ้นโดยที่ไม่มีพยานรู้เห็น

 

ของเหลวในแต่ละกระป๋องจะมีสารเฉพาะเจาะจงแตกต่างกัน ทำให้สามารถระบุชุดของของเหลวได้อย่างชัดเจน จากฐานข้อมูลที่มีสามารถเชื่อมโยงทางนิติเวชกลับไปยังบุคคลนั้นได้ 

ภาพจำลองการใช้งาน SmartWater จาก BBC News

SmartWater บรรจุสารที่เป็นของเหลวทางนิติวิทยาศาสตร์ซึ่งสามารถมองเห็นภายใต้ แสงอัลตราไวโอเลต เท่านั้น ที่สำคัญสารนี้จะคงอยู่บนผิวหนังได้นานถึง 6 สัปดาห์ และติดบนเสื้อผ้าได้นานมากกว่านั้น จึงทำให้เชื่อมโยงผู้กระทำความผิดกับน้ำที่มีคุณสมบัติเฉพาะนี้หลังจากที่ฉีดพ่นไปแล้ว 


จากรายงานของ The National Coalition Against Domestic Violence’s Vision (NCADV) พบว่า ในทุก 1 นาทีจะมีผู้หญิงสหรัฐอเมริกาถูกทำร้ายร่างกายจากคนในครอบครัว 20 คน และผู้หญิง 1 ใน 4 ผู้ชาย 1 ใน 9 เป็นเหยื่อที่ได้รับความรุนแรงทั้งร่างกายและจิตใจ และขั้นร้ายแรง ที่สุดของความรุนแรงในครอบครัว คือ มีการใช้อาวุธ ซึ่งคิดเป็น 19%

เหตุ ความรุนแรงในครอบครัว ส่งผลกระทบต่อทั้งชายและหญิงเหยื่อส่วนใหญ่ที่ใช้เทคโนโลยีนี้บอกกับตำรวจว่าพวกเขารู้สึกปลอดภัยมากขึ้น และ 94% ที่ได้รับการสำรวจจากกองกำลังทั้งสามกล่าวว่าพวกเขาจะแนะนำให้คนอื่นรู้จัก นอกเหนือจากช่วยป้องกันเหตุความรุนแรงในครอบครัวแล้ว คาดว่าจะมีการนำเทคโนโลยีไปปรับใช้กับการระงับเหตุวิวาทหรืออาชญากรรมหน้าสถานบันเทิงยามค่ำคืนอีกด้วยในอนาคต

ที่มา
1 2 3

 

related