CODA สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่เพื่อชุมชนคนหูหนวกในวงการบันเทิง

แม้จะมี ดราม่า วิล สมิธ ตบหน้า คริส ร็อก จนเป็นไวรัลไปทั่วโลกเมื่อเช้าวันประกาศรางวัลอคาเดมี อวอร์ด (28 มีนาคม ในเวลาประเทศไทย) แต่แสงของค่ำคืนนี้ที่ควรฉายไปที่ ภาพยนตร์เรื่อง CODA (Child of Deaf Adults) หรือในชื่อภาษาไทย โคด้า หัวใจไม่ไร้เสียง ที่คว้า 3 รางวัลใหญ่จากเวที ออสการ์ และสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการภาพยนตร์

โดยรางวัลที่ได้รับ คือ

• ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture) 
• บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม Siân Heder (ฌอน เฮเดอร์)
• นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม Troy Kotsur (ทรอย คอตเซอร์) 

What a moment. https://t.co/TZLBRpIUHo #oscars pic.twitter.com/7CZOapWUMZ

— ABC News (@ABC) March 28, 2022

โดยเขาถือเป็นนักแสดงหูหนวกชายคนแรกที่ได้รางวัลออสการ์ หลังจากนักแสดงในเรื่องเดียวกันที่รับบทเป็นภรรยาในเรื่องนี้ Marlee Matlin เป็นนักแสดงคนหูหนวกคนแรกที่ได้รางวัลสาขานักแสงดยอดเยี่ยมในปี 1986 จากภาพยนตร์เรื่อง Children of a Lesser God และเป็นนักแสดงหญิงที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัลสาขานี้ในวัย 21 ปี

คลิปตัวอย่าง ภาพยนตร์ตัวย่าง Children of a Lesser God (1986) 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• ส่องพรมแดง Oscar 2022 (ออสการ์ 2022) กับแฟชั่นลุคปังของเหล่าเซเลบ

• ประวัติ เจน แคมเปียน จาก The Power of the Dog ผู้กำกับหญิงคนที่3 ที่ได้ออสการ์

• สรุปรางวัลออสการ์ 2022 CODA ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม - ช็อต วิลล์ สมิธ ตบหน้าคริส ร็อก

โดย ภาพยนตร์เรื่อง CODA รีเมกจากภาพยนตร์ฝรั่งเศสเรื่อง La Famille Bélier (2014) เรื่องราวบอกเล่าถึงครอบครัวชาวประมงคนหูหนวก 4 คน ที่มีลูกสาวคนเล็กคนเดียวของบ้านที่มีการฟังเป็นคนปกติและรับหน้าที่หลักช่วยสื่อสารให้ครอบครัวกับคนทั่วไป 

จนเธอมาค้นพบว่าสนใจและชื่นชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ แต่ก็มาถึงทางที่ต้องเลือกระหว่างการเป็นคนดูแลครอบครัวต่อไปหรือเลือกที่จะออกจากบ้านไปคว้าฝันของตัวเอง เรื่องราวเรียบง่าย ไม่หวือหวา แต่จับใจชี้ให้เห็นถึงการทำลายกำแพงการสื่อสารและความแตกต่างลงด้วยความรักที่มีให้แก่กัน ทำให้ทุกคนในเรื่องสามารถมีทางเดินชีวิตและเติบโตได้อย่างงดงาม
ซึ้งกินใจเรียกน้ำตาได้แน่นอน ฉากสำคัญในตอนท้ายของเรื่องระหว่างพ่อและลูกเปิดใจให้แก่กันถือเป็นซีนเด่นของ Troy Kotsur (ทรอย คอตเซอร์) ก็แสดงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ส่งให้เขาสามารถคว้ารางวัลมาครอง 

ทั้งนี้ภาพยนตร์เรื่อง CODA เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกจากค่าย Apple Original Films ที่เป็นสตรีมมิ่งแพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลใหญ่ที่สุด คือ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture) บนเวทีออสการ์อีกด้วย
 
โดย Tim Cook (ทิม คุก) CEO ของ Apple ได้โพสต์แสดงความยินดีกับนักแสดงและทีมสร้างผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขา 

Team CODA created a profoundly beautiful movie, a story of hope and heart that celebrates our differences. Congratulations to the producers, @SianHeder, @TroyKotsur, @MarleeMatlin, @EmiliaJonesy, @DanielNDurant, @EugenioDerbez, and all involved in these historic wins! #CODAfilm pic.twitter.com/s9ebnPaYl1

— Tim Cook (@tim_cook) March 28, 2022

ขอแสดงความยินดีกับทีม CODA ที่สร้างสรรค์ภาพยนตร์สวยงามและซึ้งกินใจออกมา เรื่องราวแห่งความหวังและการเฉลิมฉลองให้กับความแตกต่างหลากหลาย ยินดีกับทีมโปรดิวเซอร์และฝ่ายผลิต 

โดย Apple ได้ซื้อสิทธิ์ภาพยนตร์เรื่อง “CODA” มาในราคา 25 ล้านดอลลาร์หลังจากฉายรอบปฐมทัศน์ที่ Sundance เมื่อปีที่แล้ว

นอกจากรางวัลออสการ์ ตั้งแต่ออกฉายเมื่อปีที่ผ่านมา ภาพยนตร์เรื่อง CODA ก็เดินสายรับรางวัลเวทีต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ 

• รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม Producers Guild Awards 
• บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม BAFTA Awards และ Writers Guild of America Awards
• รางวัลนักแสดงทีมนักแสดงยอดเยี่ยมจาก SAG Awards และ นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (ทรอย คอตเซอร์)

โดยในเวที เทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ 2021 กวาดรางวัลไปได้ทั้งหมด 4 รางวัล ได้แก่ “Grand Jury, รางวัลขวัญใจผู้ชม, รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม และ รางวัลพิเศษสำหรับทีมนักแสดง”

โดยตัวแทนฝั่งบ้าน Netflix เรื่อง The Power of the Dog ก็ร่วมมีลุ้นในรางวัลใหญ่สาขาเดียวกัน และก็ไม่ได้กลับบ้านมือเปล่า  โดย  Jane Campion (เจน แคมเปี้ยน) ได้รางวัลสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นผู้กำกับหญิงคนแรกที่สามารถคว้ารางวัลสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมได้ 2 ครั้ง 

ที่มา
1 2 3