เสก โลโซ-หมวย สุภาภรณ์-ดีเจเคนโด้ กับชีวิตที่ (เคย) เผชิญโรคไบโพลาร์

เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินชื่อ "โรคไบโพลาร์" อยู่บ่อยๆ เพราะด้วยสภาวะสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป มีการแข่งขันกันมากขึ้น ทำให้คนมีความเครียดสะสม ส่งผลให้สารเคมีในสมองทำงานผิดปกติ จนมีอารมณ์ 2 ขั้วที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ด้าน "องค์การอนามัยโลก" ได้เผยว่าไบโพลาร์ เป็นโรคที่ก่อให้เกิดความสูญเสียจากการเจ็บป่วยหรือความพิการ อันดับที่ 6 ของโลก และยังพบว่า 1 ใน 5 ของผู้ป่วยฆ่าตัวตายสำเร็จ 

โดยปัจจุบันนี้มีผู้ป่วยโรคไบโพลาร์มากขึ้น บางคนรู้ตัวเร็วก็รักษาได้ทันเวลา บางคนไม่ได้สังเกตอาการตัวเอง ก็อาจเกิดผลรุนแรงได้ในอนาคต วันนี้ทาง "สปริงบันเทิง" จึงได้รวบรวม 3 คนดังที่เคยเผชิญกับโรคดังกล่าวมาฝากกัน เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักกับอาการ "ไบโพลาร์" ให้มากขึ้น ดังนี้ 

เสก โลโซ

เริ่มที่ร็อกเกอร์ดัง "เสก โลโซ" ที่เคยไลฟ์สดติดต่อกันนาน 5 วัน จนแทบไม่หลับไม่นอนอยู่หลายวัน แม้จะประกาศหยุดไลฟ์แล้ว แต่ก็ยังกลับมาไลฟ์ต่อ และในบางช่วงเสกก็มีอาการร้องไห้ขณะนั่งฟังเพลง จนกระทั่งทางครอบครัวเห็นท่าไม่ดี จึงตัดสินใจพาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล  

ขณะทางด้าน "กานต์ วิภากร" ได้เผยว่า เสก มีอาการไบโพลาร์ระดับ 3 ซึ่งเจ้าตัวป่วยมานานนับ 10 ปีแล้ว ปรึกษาหมอและทานยามาตลอด แต่พอไม่ยอมทานยาและไม่ไปหาหมออาการก็จะกำเริบหนัก โดยปัจจุบันนี้อาการของ เสก น่าจะดีขึ้นมากแล้ว เพราะเจ้าตัวกลับมาทำงาน ร้องเพลง รวมถึงอยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุข

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• 30 มีนาคม วันไบโพลาร์โลก (World Bipolar Day) ชวนทำความเข้าใจโรคอารมณ์ 2 ขั้ว

• เปิดแนวคิด 4 ดาราดัง กับวิธีการรับมือ เมื่อถูกสังคมบูลลี่

• 4 ดาราหัวใจเข้มแข็ง เคยป่วยเป็นมะเร็ง แต่ต่อสู้จนเอาชนะโรคร้ายได้

หมวย สุภาภรณ์

ต่อกันที่นางร้ายในตำนาน "หมวย สุภาภรณ์" ที่มีผลงานสร้างชื่อมากมาย แต่ในช่วงระยะหลังๆ เธอรับงานแสดงน้อยลง จนหลายคนคิดว่าเป็นเพราะมีดาราหน้าใหม่ๆ เข้ามาแทนที่ แต่แท้จริงแล้วสาเหตุที่เธอหายไปนั้น เพราะต้องเผชิญกับอาการป่วยรุมเร้า ทั้งโรคไบโพลาร์และโรคซึมเศร้า ที่เกิดจากความเครียดสะสม

โดย หมวย เคยให้สัมภาษณ์ถึงอาการไบโพลาร์ของตัวเองว่า "ตอนเป็นไบโพลาร์จะกลัวกลางคืนมาก เหมือนคนโรคจิต พอมืดปั๊บต้องเข้าบ้าน รู้สึกไม่ปลอดภัย ต้องกินยา ส่วนเรื่องอารมณ์นั้น เวลาคนพูดให้เราโกรธ เราอาจจะโกรธแค่ระดับ 5 แต่ถ้าคนที่เป็นโรคนี้จะโกรธถึงระดับ 100"

นอกจากนี้ หมวย ยังเผยอีกว่าเคยอาการหนัก ถึงขั้นกรีดข้อมือฆ่าตัวตายมาแล้ว และจะกระโดดหน้าต่างลงไปข้างล่าง แต่โชคดีที่มีคนมาช่วยเอาไว้ได้ จากนั้นเธอก็เข้ารับการรักษาอย่างจริงจัง จนอาการดีขึ้นเรื่อยๆ และทุกวันนี้เธอก็ยังรักษาอาการต่อเนื่อง รวมถึงเริ่มหายดีแล้ว เริ่มกลับมารับงานในวงการมากขึ้นอีกด้วย

ดีเจเคนโด้ เกรียงไกรมาศ

ปิดท้ายกันที่ "ดีเจเคนโด้ เกรียงไกรมาศ" ที่มีชื่อเสียงโลดแล่นอยู่ในวงการนักจัดรายการวิทยุและพิธีกรมาหลายรายการ ซึ่งเมื่อหลายปีก่อน ดีเจเคนโด้ เคยออกมายอมรับว่าป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ ส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน จนกระทั่งต้องเข้ารับการรักษาอย่างจริงจัง จนตอนนี้หายเป็นปกติแล้ว

โดยเจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ผ่าน MGR Online ถึงอาการป่วยของตัวเองว่า "ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเก่งไปหมดทุกอย่าง บ้าพลัง ไม่กลัวคน เถียงผู้ใหญ่ มองโลกแปลก อีกทั้งดื่มเหล้าหนักมาก จนกระทั่งวันหนึ่งเริ่มรู้ตัวว่าอาการหนัก มีการทำร้ายร่างกายตัวเอง เพราะไม่อยากอยู่ ไม่มีคุณค่า แถมยังเคยด่าคนออกทีวีตอนออกอากาศสดด้วย จนต้องปรึกษาแพทย์ จนทราบว่าป่วยเป็นไบโพลาร์ และเข้ารับการรักษาทันที"

ทั้งนี้ ดีเจเคนโด้ ยังเคยฝากถึงคนที่กำลังเผชิญกับโรคนี้อยู่ว่า "เป็นโรคนี้ก็สามารถหายได้ การรักษาคือต้องให้ยาหนึ่งส่วน แต่ยาก็ไม่ได้ทำให้หาย แต่สิ่งที่จะทำให้หายคือ ต้องให้ยาควบคู่กับจิตบำบัด ให้ยาอย่างเดียวไม่มีทางหาย หรือจะทำจิตบำบัดอย่างเดียวก็ไม่มีทางหาย ต้องทำควบคู่กัน"